สาวน้อยคาเฟ่ (2000)

ในปี พ.ศ. 2543

สถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ร่วมกับบริษัท

ควิซ แอนด์ เควส จำกัด

เสนอละครโทรทัศน์

แนว ชีวิต / ตลก

เพลง / โรแมนติก

เรื่อง สาวน้อยคาเฟ่

โดยเป็นงานการสร้าง

เป็นละครโทรทัศน์

จากบทประพันธ์

เรื่อง สะไภ้คาเฟ่

ของ อาริตา

นำมาดัดแปลง

เป็นบทโทรทัศน์

โดย วรรณึก

กำกับการแสดง

โดย ชูศักดิ์ สุธีรธรรม

ช่วยกำกับการแสดง

โดย อานนท์ สุวรรณเครือ

เพลงประกอบละครโทรทัศน์

เพลง มามะมาเลย

ห้ามใจ อยากฟังซ้ำ

จะขอก็รีบขอ ผู้ชายในฝัน

อย่าเลย รู้ว่าเขาหลอก

ขับร้องโดย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค

เพลง ตั๊กแตนผูกโบว์

พ่อคุณทูนหัว สะโพกสลาตัน

ขับร้องโดย ชุลีพร เกตุสิงห์สร้อย

เพลง จบลงด้วยดี

ขับร้องโดย เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล

ละครโทรทัศน์

เรื่อง สาวน้อยคาเฟ่

มีการแพร่ภาพ

เป็นประจำ

ในทุกวันศุกร์

เสาร์ และ อาทิตย์

เวลา 20.30 น.

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ในปี พ.ศ. 2543

ละครโทรทัศน์

เรื่อง สาวน้อยคาเฟ่

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2543

นำแสดงโดย นิธิ สมุทรโคจร

รับบทเป็น ภูรี

ชายหนุ่มรูปหล่อ

ที่มีจิตใจดี

เป็นคนใจเย็น

และมีเหตุผล

เป็นเพื่อนรุ่นน้อง

ของคเชนทร์

ลูกพี่ลุกน้อง

ของนิดา

ภูรีมาทำงาน

ที่ออสการ์คาเฟ่

ตามคำชักชวน

ของคเชนทร์

ศิริลักษณ์ ผ่องโชค

รับบท นิดา

หรือ ธิดาเทพ

สาวสวยลูกกำพร้า

ที่ได้รับความรัก

และการดุแล

จากคุณป้าแท้ๆ

อย่างคุณนายปัทมา

เจ้าของธุรกิจ

สถานบันเทิง

ออสการ์คาเฟ่

นิดารักการร้องเพลง

มาตั้งแต่เล็กๆ

จึงปลอมตัว

เป็นธิดาเทพ

เพื่อมาช่วยร้องเพลง

ที่ออสการ์คาเฟ่

เพื่อเป็นการช่วยเหลือ

ธุรกิจของคุณป้า

ที่กำลังซบเซา

เพราะขาดนักร้อง

ที่เป็นตัวชูโรง

ให้กับคาเฟ่

เพ็ญเพชร เพ็ญกุล

รับบท ไตร

นักดนตรีหนุ่มหล่อ

ที่มีความรัก

ที่มีความมั่นคง

ให้กับนิดา

ที่เขาหลงรัก

ตั้งแต่แรกพบ

ด้วยความสนใจ

ในตัวนิดา

ทำให้เขาหลงลืม

มองความรู้สึก

ของใครอีกคนหนึ่ง

ที่มีความรักแท้

และความหวังดี

ให้กับเขา

อย่างจริงใจ

มาโดยตลอด

สกาวใจ พูลสวัสดิ์

รับบท สนิทพิม

เพื่อนสนิทของภูรี

เป็นสาวสวยน่ารัก

ที่มีความมั่นใจ

ในตัวเอง

และเป็นที่คนร่าเริง

มีความสดใส

ตรงไปตรงมา

แม้จะเก่งกาจ

ในเรื่องการทำงาน

แต่ก็เป็นหญิงสาว

ที่อ่อนไหว

ในเรื่องของความรัก

เธอพยายามอดทน

และทำความเข้าใจ

คอยช่วยเหลือ

ให้กำลังใจ

มีรอยยิ้มสดใส

ให้กับไตร

คนที่เธอรักอยู่เสมอ

พาเมล่า เบาว์เดนท์

รับบท พิราวรรณ

พี่สาวของภูรี

เป็นหญิงสาว

ในวัยทำงาน

ที่มีความฉลาดเฉลียว

หยิ่งทระนง ไว้ตัว

เชื่อมั่นในความคิด

ของตนเองเป็นใหญ่

จากการมีความเชื่อมั่น

ว่าสถานบันเทิง

คือการทำธุรกิจ

ที่กดขี่เพศหญิง

ทำให้เธอต่อต้าน

การทำธุรกิจ

สถานบันเทิง

ยามค่ำคืน

อย่างเต็มที่

ความหัวเเข็ง

ของเธอนั้น

เกือบทำลายความรักแท้

ที่คเชนทร์มีให้กับเธอ

เพราะการมีแนวความคิด

และการทำงาน

ที่ต่างแง่มุมกัน

กรรชัย กำเนิดพลอย

รับบท คเชนทร์

นักธุรกิจหนุ่มหล่อ

ที่มีมีศักดิ์

เป็นลุกพี่ลูกน้อง

ของนิดา

คเชนทร์เป็นนักธุรกิจ

ที่ที่มีบุคลิก

ที่โผงผาง จริงใจ

และมีชีวิตการทำงาน

ในแบบคนกลางคืน

อย่างเต็มตัว

จากการรับภาระ

ดูแลธุรกิจคาเฟ่

ของทางครอบครัว

แต่แม้จะวางตัว

เป็นหัวหน้า

ของพนักงานทุกคน

แต่เขาก็เป็นคนทำงาน

ที่มีจิตใจดี

มีความรับผิดชอบ

ให้เกียรติลูกน้อง

เขามีความรัก

ที่มั่นคง จริงใจ

มอบให้พิราวรรณ

แม้ว่าเธอจะคิดดุถูก

งานของเขา

มาโดยตลอด

ก็ตามที

วิชชุดา พินดัม

รับบท ดารา สลาตัน

นักร้องสาวสวย

หุ่นเซ็กซี่ มีเสน่ห์

ที่มาพร้อมลีลา

การเต้น การร้อง

ที่เป็นเอกลักษณ์

จากลีลาการยักย้าย

ส่ายสะโพก

ที่มีความเซ็กซี่

ทำให้เธอมีชื่อเสียง

ในฐานะ

นักร้องยอดนิยม

ของออสการ์คาเฟ่

แต่จากนิสัยเย่อหยิ่ง

ทะเยอทะยาน

อวดดี ปากร้าย

ทำให้เธอไปไม่ไกล

บนเส้นทางสายบันเทิง

โดยนอกจากนักแสดงนำ

ในบทบาทเหล่านี้แล้ว

ละครโทรทัศน์

เรื่อง สาวน้อยคาเฟ่

ยังมีนักแสดงชั้นนำ

อีกมากมาย

ที่มาร่วมสร้างสีสัน

ให้กับละครโทรทัศน์เรื่องนี้

เช่น ไอริณ ศรีแก้ว

ดุสิตา อนุชิตชาญชัย

ชลิต เฟื่องอารมณ์

ปทุมวดี โสภาพรรณ

วาสนา สิทธิเวช

นฤมล พงษ์สุภาพ

รัญญา ศิยานนท์

ดารณีนุช โพธิปิติ

ฉันทนา กิตติยะพันธ์

เด๋อ ดอกสะเดา

ฐิติ พุ่มอ่อน

ชนานา นุตาคม

อานนท์ สุวรรณเครือ

ปิยธิดา ประไพทอง

ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา

ละครโทรทัศน์

เรื่อง สาวน้อยคาเฟ่

จากบทประพันธ์

เรื่อง สะไภ้คาเฟ่

ของ อาริตา

เป็นเรื่องราวชีวิต

และความรัก

ของนิดา

สาวน้อยน่ารัก

ที่กำพร้าบิดา

และมารดา

เธอมาพักอาศัย

และอยู่ในความดุแล

ของ คุณนายปัทมา

และ คเชนทร์

คุณป้าแท้ๆ

และลุกพี่ลุกน้อง

ซึ่งทั้งสองนั้น

ต่างก็รักและห่วงใย

ในตัวของนิดามาก

ทำให้ในฐานะ

ของผู้ที่ทำธุรกิจ

สถานบันเทิง

ยามค่ำคืน

ซึ่งรู้ถึงความเสี่ยง

ของวิถีชีวิต

ในการเป็นหญิงสาว

ที่มาทำงาน

ในด้านนี้อย่างดี

ไม่เคยที่จะยอม

และอนุญาติ

ให้นิดา

ผู้เป็นหลานสาว

มาทำงาน

เป็นนักร้อง

ตามที่นิดานั้น

ได้มีความฝันไว้

แต่จากการที่คุณนายปัทมา

คุณป้าของนิดา

ซึ่งเป็นเจ้าของ

ธุรกิจสถานบันเทิง

ขนาดใหญ่

อย่างออสการ์คอมเพล็กซ์

ที่มีทั้งร้านอาหาร

บาร์ สนุกเกอร์

นวดแผนโบราณ

คาราโอเกะ คาเฟ่

รวมอยู่ด้วยกันนั้น

กำลังมีปัญหา

ในด้านธุรกิจ

จากการที่สถานบันเทิง

ในที่แห่งอื่นๆนั้น

ได้มีการดึงตัว

ดารา สลาตัน

นักร้องสาวคนดัง

ซึ่งเป็นนักร้องตัวหลัก

ที่มีชื่อเสียง

ของออสการ์ คาเฟ่

ไปทำงานร้องเพลง

ในคาเฟ่แห่งอื่น

เพื่อเป็นการแย่งลูกค้า

ในช่วงเวลา

ที่สถานภาพ

ของผู้ประกอบการ

และเศรษฐกิจ

ที่กำลังย่ำเเย่

ทำให้ออสการ์ คาเฟ่

ต้องซบเซาลง

จากการไม่มีนักร้อง

ที่มีชื่อเสียง

มาร้องเพลง

เพื่อช่วยธุรกิจ

ของทางครอบครัว

และเพื่อพิสูจน์

ความสามารถ

ในด้านการร้องเพลง

ของตนเอง

ทำให้นิดาตัดสินใจ

ที่จะปลอมตัว

ไปทำงาน

ในช่วงกลางคืน

ในการเป็นนักร้อง

ในคาเฟ่

ของครอบครัว

โดยใช้ชื่อปลอม

ในการทำงาน

ว่า ธิดาเทพ

ซึ่งการมาคลุกคลี

กับชีวิตการทำงาน

ของคนกลางคืน

ร่วมกับคเชนทร์

ลูกพี่ลุกน้องของเธอ

ซึ่งเป็นผู้บริหารงาน

ออสการ์คอมเพล็กซ์

และภูรี

ที่รับตำแหน่ง

เป็นผู้จัดการ

ออสการ์คาเฟ่

ทำให้นิดานั้น

ได้เรียนรู้และเข้าใจ

ถึงชีวิตการทำงาน

ที่มีความยากลำบาก

ของเหล่านักร้อง

และพนักงานคาเฟ่

ซึ่งในฐานะ

คนทำงานกลางคืน

ที่ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง

ตลก พนักงานเสริฟ

ทุกคนต่างก็มีชีวิต

ที่ต้องรับผิดชอบ

ต่อครอบครัว

และภาระในชีวิต

ที่แตกต่างกันออกไป

ในฐานะนักร้องคาเฟ่

นิดาเองก็ต้องปรับตัว

และภาพลักษณ์

ของการเป็นนักร้อง

ในทุกๆทาง

ไม่ว่าจะเป็นแนวเพลง

ในการร้องเพลง

เสื้อผ้า การแต่งหน้า

ที่มีความแตกต่าง

จากนักร้องปกติ

รวมถึงต้องฝึกฝน

และรู้จักเทคนิค

ในการร้องเพลง

ในสถานบันเทิง

ที่ต้องใช้เสน่ห์

เพื่อสร้างความสุข

ให้กับลูกค้าทุกๆคน

เพื่อใหคาเฟ่แห่งนี้

กลับมามีชื่อเสียง

จากการมีลูกค้า

กลับมาอุดหนุน

สถานบันเทิงแห่งนี้

อีกครั้งหนึ่ง

สำหรับเสียงตอบรับ

ของผู้ชมทางบ้าน

ที่มีต่อละครโทรทัศน์

เรื่อง สาวน้อยคาเฟ่

ในช่วงปี พ.ศ. 2543 นั้น

จากความทรงจำ

ของผู้เขียนบลอก

ละครโทรทัศน์เรื่องนี้

ถือเป็นละครโทรทัศน์

อีกเรื่องหนึ่ง

ของทางช่อง 3

ที่ประสบความสำเร็จ

เป็นอย่างสูง

โดยนอกจากงานการสร้าง

ที่สมบูรณ์แบบ

และการคัดเลือก

ตัวนักแสดงนำ

ในบทบาทต่างๆ

ที่มีความเหมาะสม

เป็นอย่างมากแล้ว

(ซึ่งถือเป็นจุดเด่น

ของทางช่อง 3

ในช่วงยุค 80-90)

ละครโทรทัศน์เรื่องนี้

ยังมีความโดดเด่น

ในแง่ของบทเพลง

ที่ใช้ประกอบละครโทรทัศน์

โดยบทเพลงต่างๆ

ในละครโทรทัศน์เรื่องนี้

จากเสียงร้อง

ของคุณจอย

ศิริลักษณ์ ผ่องโชค

ล้วนแต่ได้รับความนิยม

จนมีอัลบั้มเพลงประกอบ

ละครโทรทัศน์

ออกมาวางจำหน่าย

ตามเสียงเรียกร้อง

ของแฟนๆทางบ้าน

ถึงสองชุด

(ไม่นับอัลบั้ม

รวมเพลงฮิต

ที่นำเพลงต่างๆ

ในสองอัลบั้ม

มาวางขายอีกครั้ง

และอัลบั้มวีซีดี

คาราโอเกะ

อีกหลายชุด)

โดยนอกจากอัลบั้มพิเศษ

ที่ใช้ประกอบละครแล้ว

จากความสำเร็จ

ของละครโทรทัศน์เรื่องนี้

ทำให้คุณจอย

ศิริลักษณ์ ผ่องโชค

ในฐานะนางเอก

เธอได้มีผลงานเพลง

ในแนวลูกทุ่ง

เป็นของตนเอง

ออกมาวางจำหน่าย

ในภายหลัง

โดยมีเพลงฮิต

อย่าง โสดไม่ได้ตั้งใจ

ที่อยู่ในความนิยม

โดยหากจะย้อนกลับไป

นางเอกผู้มาก

ด้วยความสามารถ

ท่านนี้นั้น

เคยมีผลงานเพลง

ในช่วงวัยเด็ก

กับอัลบั้มเพลง

ในแบบน่ารักๆ

สำหรับเด็กๆ

กับทางรายการโทรทัศน์

ในชื่อ สโมสรผึ้งน้อย

และเคยมีผลงานเพลง

ในแบบอัลบั้มเดี่ยว

เป็นของตัวเอง

ในแนว Pop Rock

กับภาพลักษณ์

ของดาราวัยรุ่น

ออกมาวางจำหน่าย

ในช่วงปี พ.ศ. 2539

มาก่อนหน้านี้แล้ว

ถือเป็นการยืนยัน

ความสามารถ

ในด้านการร้องเพลง

ของนางเอกสาวท่านนี้

ได้เป็นอย่างดี

ต้น จักรกฤษณ์ อำมรัตน์

พระเอกหนุ่มหล่อจากวงการบันเทิงยุค 90

วงการบันเทิง

ในประเทศไทย

ในทุกยุค-สมัยนั้น

มีนักแสดงมากมาย

ที่เริ่มต้นเส้นทาง

ในการทำงาน

ในวงการบันเทิง

ของพวกเขา

ด้วยการมีผลงาน

ในด้านการถ่ายแบบ

และโฆษณา

ก่อนจะได้รับการติดต่อ

และมีผลงานการแสดง

ในด้านละครโทรทัศน์

และภาพยนตร์

ในฐานะนักแสดง

อย่างเต็มตัว

ในระยะเวลาต่อมา

โดยจากความทรงจำ

ของผู้เขียนบลอก

คุณต้น จักรกฤษณ์ อำมรัตน์

พระเอกหนุ่มหล่อ

ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง

ในช่วงต้นยุค 90

ท่านนี้นั้น

ถือเป็นอีกหนึ่ง

นักแสดงชื่อดัง

ที่เป็นที่รู้จัก

ในช่วงแรก

จากการมีผลงาน

ในด้านโฆษณา

ที่ได้รับความนิยม

จากนั้นจึงได้รับการติดต่อ

ให้เริ่มการทำงาน

ในฐานะนักแสดง

อย่างเต็มตัว

ในระยะเวลาต่อมา

โดยในการจัดทำ

บทความของบลอก

ในครั้งนี้นั้น

จะเป็นการบันทึก

เรื่องราวการทำงาน

ของพระเอก

หนุ่มหล่อท่านนี้

ตั้งแต่ในช่วงแรก

ของการทำงาน

ในวงการบันเทิง

ของเขา

สำหรับข้อมูล

ประวัติส่วนตัว

ของพระเอกหนุ่มหล่อ

ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง

ในช่วงต้นยุค 90 ท่านนี้

คุณต้น จักรกฤษณ์ อำมรัตน์

เกิดวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2512

ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี

เขาเป็นบุตรชายคนโต

ของคุณวิเชียร อำมรัตน์

และคุณสำอางค์ อำมรัตน์

โดยจากข้อมูล

ในปี พ.ศ. 2534

คุณต้นมีน้องสาว 2 ท่าน

คือคุณธัชมาศ อำมรัตน์

และคุณธนาภรณ์ อำมรัตน์

โดยในส่วนของข้อมูล

รายละเอียดส่วนตัวนั้น

จากบทสัมภาษณ์

ในช่วงปี พ.ศ. 2534

คุณต้นสูง 179 เซนติเมตร

หนัก 72 กิโลกรัม

(เนื่องจากนิตยสาร

ประเภทบันเทิง

ในช่วงยุค 90

ที่ผ่านมานั้น

ลงนามสกุล

ของคุณต้น

ไว้ทั้ง อำมรัตน์

และ อำมะรัตน์

จึงขอยึดตาม

ข้อมูลยุคเก่า

คือ อำมรัตน์

โดยหากมีการสะกด

ที่มีความผิดพลาด

ผู้เขียนบลอก

ต้องขออภัย

ไว้ ณ ที่นี้)

สำหรับข้อมูล

ประวัติส่วนตัว

ในด้านการศึกษา

คุณต้น จักรกฤษณ์ อำมรัตน์

เริ่มต้นการศึกษา

ในระดับชั้นอนุบาล

ที่โรงเรียนอนุบาลโสภา

จากนั้นจึงมาศึกษาต่อ

ในระดับชัน ป.1

ถึงชั้น ป.4

ที่โรงเรียนพญาไท

จากนั้นจึงย้าย

มาศึกษาต่อ

ในชั้น ป.5 - ป.6

ที่โรงเรียนวัดมะขาม (ศรีนาคาร)

โดยหลังจากสำเร็จการศึกษา

ในระดับชั้นประถม

คุณต้นเข้าศึกษาต่อ

ในระดับชั้น ม.1 - ม.2

ที่โรงเรียนวัดใหม่อมตรส

และย้ายมาศึกษาต่อ

ในระดับชั้น ม.3

ที่โรงเรียนโยธินบูรณะ

โดยหลังจากสำเร็จการศึกษา

ในระดับชั้นมัธยมต้น

คุณต้นเข้าศึกษาต่อ

และสำเร็จการศึกษา

ในระดับ ปวช. และ ปวส.

จากแผนกเทคนิคยานยนต์

โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์

โดยจากข้อมูล

ในช่วงยุคหลังนี้

คุณต้นศึกษาต่อ

และสำเร็จการศึกษา

ในระดับปริญญาตรี

จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

(ข้อมูลมีการบันทึก

ถึงในปี พ.ศ. 2554

เพียงเท่านั้น

โดยหากไม่ครบถ้วน

หรือมีข้อมูล

ที่ไม่ถูกต้อง

ผู้เขียนบลอก

ต้องขออภัย

ไว้ ณ ที่นี้)

สำหรับเส้นทาง

การทำงาน

ในวงการบันเทิง

ของคุณต้น

จักรกฤษณ์ อำมรัตน์

จากบทสัมภาษณ์

ในช่วงยุค 90

หนุ่มหล่อท่านนี้

เริ่มการทำงาน

ในวงการบันเทิง

ในช่วงแรกๆ

ในช่วงปี พ.ศ. 2529

ขณะที่เขานั้น

มีอายุประมาณ 17 ปี

โดยคุณต้นนั้น

ได้เริ่มต้น

การทำงาน

ในวงการบันเทิง

ในช่วงแรก

ด้วยการถ่ายแบบ

ลงในนิตยสาร

แนววัยรุ่น

ในชื่อ เธอกับฉัน

โดยการชักชวน

ของคุณพจน์ อานนท์

ที่ในขณะนั้น

เป็นบรรณาธิการ

ของนิตยสาร

แนววัยรุ่นฉบับนี้

ซึ่งหลังจากการทำงาน

ในด้านการถ่ายแบบ

เป็นครั้งแรก

ร่วมกับนายแบบชื่อดัง

ของช่วงยุค 80

อย่างคุณนิว

อธิป ทองจินดา

คุณต้นก็ได้รับการติดต่อ

จากบริษัทโมเดลลิ่ง

ในชื่อ แคนดี้ กรุ๊ป

ที่ได้ชักชวน

ให้คุณต้นนั้น

ลองเข้าไปแคสตฺ์งาน

ในด้านโฆษณา

ซึ่งหลังจากผลงาน

โฆษณาชิ้นแรก

ที่เป็นภาพนิ่ง

ของเสื้อผ้า Stride

ที่มีการตีพิมพ์

ลงในนิตยสารแฟชั่น

ฉบับต่างๆ

ในช่วงปี พ.ศ. 2530

ในฐานะนายแบบหน้าใหม่

คุณต้นก็มีผลงาน

ในด้านโฆษณา

ทั้งในด้านภาพนิ่ง

และการออกอากาศ

ทางโทรทัศน์

ให้ได้ติดตามรับชม

ตามมาอีกมากมาย

ในฐานะนายแบบ

คุณต้น จักรกฤษณ์ อำมรัตน์

เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

และได้รับความสนใจ

จากสื่อมวลชน

รวมถึงได้รับความนิยม

จากผู้ชมทางบ้าน

จากการเป็นนายแบบ

ที่ได้รับคัดเลือก

ให้เป็นผู้แสดงนำ

ในโฆษณาสุดฮิต

ของผลิตภัณฑ์

เครื่องดื่มโค๊ก

ที่มีการออกอากาศ

ทางสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ

ในประเทศไทย

ในช่วงปี พ.ศ. 2533

ซึ่งความโดดเด่น

ของโฆษณาชุดนี้

มาจากการเป็นโฆษณา

ที่ถือเป็นโปรเจคใหญ่

ที่ประเทศต่างๆ

ในแถบเอเชีย

ล้วนแต่มีโฆษณา

ในคอนเซปต์

รูปแบบเดียวกันนี้

ออกแพร่ภาพ

ในช่วงเวลา

ที่ใกล้เคียงกัน

(มีความคล้ายคลึง

ในแง่ของการมีนักแสดงนำ

เป็นนายแบบหน้าใหม่

ที่มีภาพลักษณ์

ของชาตินั้นๆ

และมาพร้อมเรื่องราว

ในแบบการเอื้อมหยิบ

กระป๋องหรือขวดโค๊ก

ในสถานการณ์ต่างๆ

โดยจากความทรงจำ

ของผู้เขียนบลอก

ในช่วงยุค 90

นอกจากคุณต้น

ที่โด่งดังขึ้นมา

ในวงการบันเทิง

ในประเทศไทย

อย่างรวดเร็ว

ในประเทศญี่ปุ่นเอง

ในช่วงปี พ.ศ. 2533

ที่ผ่านมานั้น

Taishu Kase

พระเอกชื่อดัง

ของวงการบันเทิง

ในประเทศญี่ปุ่น

ในช่วงยุค 90

ก็โด่งดังขึ้นมา

อย่างรวดเร็ว

จากการที่ในขณะนั้น

ในฐานะนายแบบหน้าใหม่

เขาได้รับคัดเลือก

ให้เป็นนายแบบหลัก

ของโฆษณาชุดนี้

ที่มีการออกอากาศ

ในประเทศญี่ปุ่น

โดยจากความทรงจำ

ของผู้เขียนบลอก

ขณะที่โฆษณา

ของคุณต้นนั้น

เอื้อมหยิบขวดโค๊ก

จากป้ายโฆษณา

โฆษณาของญี่ปุ่น

จะเป็นการเอื้อมหยิบ

กระป๋องโค๊ก

ในทะเลทราย)

หลังจากเป็นที่รู้จัก

ในฐานะนายแบบ

ที่โด่งดังขึ้นมา

อย่างรวดเร็ว

จากการเป็นนายแบบ

ในโฆษณาสุดฮิต

ในปี พ.ศ. 2533

คุณต้น จักรกฤษณ์ อำมรัตน์

ก็มีผลงานการถ่ายแบบ

และมีบทสัมภาษณ์

ในนิตยสารฉบับต่างๆ

ให้ได้ติดตามรับชม

ตามมาอีกมากมาย

โดยในช่วงต้นยุค 90

ที่ผ่านมานั้น

หลังจากเขาเป็นที่รู้จัก

จากโฆษณาโค๊ก

และมีผลงาน

ในด้านการถ่ายแบบ

ในนิตยสารแฟชั่น

อย่างมากมาย

ในช่วงปี พ.ศ. 2534

ที่ผ่านมานั้น

ในฐานะนายแบบ

เขายังได้รับคัดเลือก

ให้มารับบทบาท

เป็น ต้น

ชายหนุ่มปริศนา

ที่สองสาวสวย

คุณวิกกี้ กันตา ดานาว

และ คุณแหม่ม

คัทลียา แมคอินทอช

เคยหยั่งชั้นเชิงต่อกัน

ในโฆษณาชุดแรก

จนทำให้ประโยค

"ถามต้นคืนนี้ซิ"

กลายเป็นประโยคสุดฮิต

ของผู้ชมทางบ้าน

ในช่วงต้นยุค 90

ซึ่งหลังจากความสำเร็จ

ของโฆษณาชุดแรกนี้

ทำให้เขาได้รับการติดต่อ

ให้มาร่วมนำแสดง

ในโฆษณาชุด 2

ของนมเปรี้ยวไทยเดนมาร์ก

ซึ่งในโฆษณาสุดฮิต

ในช่วงต้นยุค 90 ชุดนี้

เขารับบทบาทเป็นต้น

ชายหนุ่มรูปหล่อ

ที่เป็นอดีตคนรัก

และได้กลับมาพบ

กับคุณแหม่ม

คัทลียา แมคอินทอช

ในภายหลังอีกครั้ง

ซึ่งเมื่อโฆษณาชุดนี้

ได้มีการแพร่ภาพ

และได้รับความนิยม

จากผู้ชมทางบ้าน

ก็ทำให้ในฐานะ

นายแบบหน้าใหม่

เขามีความโดดเด่น

อย่างต่อเนื่อง

และเป็นที่สนใจ

ของสื่อมวลชน

และผู้ผลิต

ละครโทรทัศน์

และภาพยนตร์

บริษัทต่างๆ

เป็นอย่างมาก

จากความโดดเด่น

ในฐานะนายแบบ

ในโฆษณาสุดฮิต

หลาย-หลายชิ้น

ในช่วงต้นยุค 90

ทำให้คุณต้น

จักรกฤษณ์ อำมรัตน์

ได้รับการติดต่อ

จากคุณสมเกียรติ คุณานิธิพงศ์

แห่งบริษัทภาพยนตร์

ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น

ให้เขาเริ่มต้น

การทำงาน

ในฐานะนักแสดง

โดยในฐานะ

นักแสดงหน้าใหม่

ในกลุ่ม New Kids Five Stars

คุณต้นถือเป็นนักแสดง

ที่ได้รับการสนับสนุน

อย่างเต็มที่

จากบริษัทไฟว์สตาร์

เช่นเดียวกับคุณต่าย

สายธาร นิยมกาญจน์

และคุณแอน ทองประสม

ซึ่งหลังจากผลงาน

การแสงเรื่องแรก

ในภาพยนตร์ฮิต

เรื่อง บุญชู 6

ที่มีการเปิดตัว

ต่อสื่อมวลชน

และเข้าฉาย

ในโรงภาพยนตร์

ในช่วงปี พ.ศ. 2534

ในฐานะนักแสดง

คุณต้นได้มีผลงาน

ในด้านภาพยนตร์

กับทางบริษัทภาพยนตร์

ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น

ตามมาอีกหลายเรื่อง

ในช่วงปี พ.ศ. 2534

ถึงปี พ.ศ. 2537

ในฐานะนักแสดง

ที่เป็นพระเอกยอดนิยม

ของผู้ชมทางบ้าน

ในช่วงต้นยุค 90

คุณต้น จักรกฤษณ์ อำมรัตน์

ก้าวสู่ความนิยม

ในฐานะพระเอกชั้นนำ

จากการเริ่มต้นรับงาน

ในวงการโทรทัศน์

ในช่วงปี พ.ศ. 2535

โดยจากความทรงจำ

ของผู้เขียนบลอก

คุณต้นโด่งดังอย่างมาก

จากการรับบทบาท

เป็นตำรวจ

หนุ่มหล่อมาดแมน

คู่กับนางเอกชื่อดัง

คุณนก จริยา แอนโฟเน่

ในละครโทรทัศน์สุดฮิต

เรื่อง เขาวานให้หนูเป็นสายลับ

ที่มีการออกอากาศ

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ในช่วงปี พ.ศ. 2535

ซึ่งจากความสำเร็จ

ในภาพลักษณ์

ของตำรวจหนุ่มหล่อ

ในละครโทรทัศน์

ที่ได้รับความนิยม

จากผู้ชมเรื่องนี้

ก็ทำให้คุณต้นนั้น

กลายเป็นขวัญใจ

ของผู้ชมสาวๆ

ในช่วงต้นยุค 90

และมีผลงานการแสดง

ที่มีความโดดเด่น

ในด้านละครโทรทัศน์

ที่ได้รับความนิยม

ตามมาอีกมากมาย

(เกร็ดเล็กๆน้อยๆ

เกี่ยวกับความสำเร็จ

ของละครโทรทัศน์เรื่องนี้

คือหลังจากการแพร่ภาพ

มีผู้ชมสาวๆมากมาย

ที่โทรศัพธ์ เขียนจดหมาย

ไปถึงสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

และนิตยสาร รายการต่างๆ

เรียกร้องให้มีการติดต่อ

พระเอกหน้าใหม่ท่านนี้

มาให้สัมภาษณ์ ถ่ายแบบ

และมีละครเรื่องใหม่

กับนางเอกคนเดิมอีกครั้ง

ซึ่งในส่วนของคุณต้นเอง

ในขณะที่ละครโทรทัศน์เรื่องนี้

กำลังแพร่ภาพอยู่นั้น

ทางครอบครัวของเขา

ก็ได้รับทั้งโทรศัพธ์

และจดหมาย

จากผู้ชมสาวๆมากมาย

ซึ่งในส่วนของจดหมายนั้น

มีเข้ามาส่งที่บ้านของเขา

ถึงวันละ 500 ฉบับทีเดียว

นอกจากนี้

จากภาพลักษณ์

ของหนุ่มหล่อมาดแมน

ที่หล่อเหลา ดุดี

เมื่ออยู่ในเครื่องแบบ

ของคุณต้น

ในละครโทรทัศน์เรื่องนี้

ก็ทำให้ในช่วงต้นยุค 90

ที่ผ่านมานั้น

พระเอกหนุ่มหล่อท่านนี้

ได้รับบทบาท

เป็นหนุ่มในเครื่องแบบ

ในละครโทรทัศน์เรื่องต่างๆ

ให้ได้ติดตามรับชม

ตามมาอีกหลายครั้ง

จากภาพความประทับใจ

ในละครโทรทัศน์เรื่องแรก

ของพระเอกหนุ่มหล่อท่านนี้)

ในฐานะนักแสดง

คุณต้น จักรกฤษณ์ อำมรัตน์

มีผลงานการแสดง

ในด้านภาพยนตร์

จากความทรงจำ

ของผู้เขียนบลอก

ดังนี้ บุญชู 6

โลกนี้สุดสวย

น่ารักน่าอยู่...ถ้าหงุ่ย

โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ

โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ 2

ตอน เจาะเวลาหาโก๊ะ

หอหึหึ อนึ่งคิดถึงพอสังเขป

หอบรักมาห่มป่า คนแซ่ลี้

(ได้รับรางวัลในสาขา

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

จากการประกาศรางวัล

ภาพยนตร์แห่งชาติ

ประจำปี พ.ศ. 2536)

สนิมสร้อย ชื่อชอบชวนหาเรื่อง

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ฯลฯ

(ข้อมูลมีการบันทึกไว้

ถึงในปี พ.ศ. 2556

เพียงเท่านั้น)

ในฐานะนักแสดง

คุณต้น จักรกฤษณ์ อำมรัตน์

มีผลงานการแสดงส่วนหนึ่ง

ในด้านละครโทรทัศน์

ดังนี้ เขาวานให้หนูเป็นสายลับ

เพลิงบุญ สามหนุ่มเนื้อทอง

เจ้าจอม เจ้านาง

สามใบไม่เถา สองนรี

เสือ 11 ตัว โปลิศจับขโมย

ตะวันลับฟ้า ท่านชายกำมะลอ

(ได้รับรางวัลในสาขา

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

จากการประกาศรางวัล

โทรทัศน์ทองคำ

ประจำปี พ.ศ. 2541)

กบฏหัวใจ รักเร่เร่ร้างรัก

แสงเพลิงที่เกริงทอ

รักผู้พันแถมเรือพ่วง

เลื่อมสลับลาย ฝ้ายแกมแพร

ตุ๊กตามนุษย์ เลือดเข้าตา

จับตายวายร้ายสายสมร

ฝนปลายฟ้า โค่นมังกร

เมียนอกหัวใจ ไฟล้างไฟ

มาลัยสามชาย ลูกทาส

หมอเมืองเถื่อน มัจจุราชสีน้ำผึ้ง

รอยอาลัย เพลิงรักเพลิงแค้น

ครึ่งของหัวใจ สะพานรุ้ง

สงครามายา กิ่งกาหลง

ซอย 3 สยามสแควร์

ยุทธการปราบเมียน้อย

โลกกลมๆของขนมถ้วย

ชุมทางเสือเผ่น รักเธอยอดรัก

ดำขำ พริกไทยกับใบข้าว

ก๊วนกามเทพ เพียงใจที่ผูกพัน

สืบสวนป่วนรัก 4 ดวงใจแห่งขุนเขา

ศิลาพัชร ดวงใจนักรบ

365 วันแห่งรัก เรือนแพ

รหัสทรชน เลดี้บ้านนา

แม่ยายที่รัก รักสุดปลายฟ้า

ขุนศึก รักเกิดในตลาดสด

นายสุดซ่าส์ ข้าสุดแสบ

เล่ห์ร้อยรัก แม่เปียดื้อ

บ่วงบาป นางมาร

ผู้ดีอีสาน ดาวเรือง

กุหลาบไฟ สามี

คุ้มนางครวญ คิวบิก

อีสา รวีช่วงโชติ

ลมซ่อนรัก ข้าบดินทร์

(ข้อมูลรายชื่อ

ผลงานการแสดง

ของคุณต้น

มีการบันทึกไว้

ถึงในปี พ.ศ. 2556

เพียงเท่านั้น)

โดยนอกจากผลงาน

ในด้านการแสดง

ในละครโทรทัศน์

ภาพยนตร์ โฆษณา

การถ่ายแบบ มิวสิควีดีโอ

คุณต้น จักรกฤษณ์ อำมรัตน์

ยังเป็นที่จดจำ

ในช่วงต้นยุค 90

จากการรับหน้าที่

เป็นพิธีกรหลัก

ในรุ่นที่ 2

ของรายการโทรทัศน์

แนววัยรุ่น-วาไรตี้

สี่บวกหนึ่งถึงจะเท่ห์

ของบริษัทไฟว์สตาร์

ที่มีการผลิต

และออกอากาศ

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ในช่วงปี พ.ศ. 2534

ถึงปี พ.ศ. 2535

โดยในฐานะพิธีกร

คุณต้นมารับหน้าที่

เป็นพิธีกรหลัก

ในช่วงปี พ.ศ. 2535

ร่วมกับคุณเต๋า

สมชาย เข็มกลัด

คุณฟ้า สายฟ้า เศรษฐบุตร

และคุณโมทย์

ปราโมทย์ แสงศร

ซึ่งรายการโทรทัศน์

ที่มีการออกอากาศ

ในช่วงวันหยุด

ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ในช่วงต้นยุค 90 รายการนี้

ได้รับความนิยม

ในกลุ่มผู้ชม

ที่เป็นเหล่าวัยรุ่น

เป็นอย่างมาก

จากการมีพิธีกรหลัก

เป็นดารา นักแสดง

ที่เป็นที่ชื่นชอบ

ของผู้ชมสาวๆ

(จากความสำเร็จ

ของรายการนี้

ทำให้ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

มีการผลิตรายการใหม่

ในชื่อ นะคะ

ที่มีรูปแบบเดียวกัน

แต่เป็นรายการ

แนววัยรุ่น-วาไรตี้

สำหรับเด็กผู้หญิง

ที่มีคุณมยุรา เศวตศิลา

คุณนุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยูธยา

คุณยุ้ย ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี

และคุณเกด นารากร โลหะชาละ

เป็นพิธีกรหลักประจำรายการ

เช่นเดียวกับรายการนี้)

ซึ่งจากความสำเร็จ

จากการได้รับความนิยม

ในกลุ่มผู้ชมวัยรุ่น

ของรายการโทรทัศน์

สี่บวกหนึ่งถึงจะเท่ห์

ที่มีการออกอากาศ

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ในช่วงปี พ.ศ. 2534

ถึงปี พ.ศ. 2535

ทำให้ทางบริษัทไฟว์สตาร์

ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ได้จัดงานแสดง

คอนเสริต์ครั้งใหญ่

เพื่อผู้ชมทางบ้าน

ที่เป็นแฟนๆรายการ

ขึ้นที่ MBK HALL

ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง

ในช่วงปี พ.ศ. 2535

โดยคอนเสริต์ใหญ่

ที่ใช้ชื่อการแสดง

ว่า คอนเสริต์หมายเลข 4

ตอน วันนี้ไม่มีพิธีกร

นอกจากพิธีกรหลัก

ที่เป็นหนุ่มหล่อ

ทั้งสี่ท่านแล้ว

ยังมีแขกรับเชิญ

อีกมากมาย

ที่มาร่วมสร้างสีสัน

และความสนุกสนาน

ให้กับงานแสดงครั้งนี้

ไม่ว่าจะเป็นคุณเอ็ม

สุรศักดิ์ วงษ์ไทย

คุณพีท ทองเจือ

คุณหนุ่ม สันติสุข พรหมศิริ

คุณหน่อย บุษกร พรวรรณะศิริเวช

คุณธัญญ่า ธัญญาเรศ รามณรงค์

คุณปุ้ย สลักจิต ดลมินทร์

คุณนก รัชนก พูนผลิน

คุณเปิ้ล นาตาชา คอฟแมน

คุณแอน อังคณา ทิมดี

คุณตรี สุขเกษม

คุณเล็ก ศรัณย์ สาครสิน ฯลฯ

ในฐานะนักแสดง

คุณต้น จักรกฤษณ์ อำมรัตน์

ยังคงมีผลงาน

ในด้านการแสดง

ในวงการบันเทิง

ทั้งในด้านละครโทรทัศน์

และภาพยนตร์

ให้ได้ติดตามรับชม

กันอย่างต่อเนื่อง

โดยขณะที่บันทึก

บทความของบลอก

ในขณะนี้

( ปี พ.ศ. 2556 )

คุณต้นมีผลงาน

ในด้านการแสดง

ในช่วงยุคหลัง

อย่างภาพยนตร์ยิ่งใหญ่

เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

และละครโทรทัศน์

เรื่อง มาลัยสามชาย

อีสา รวีช่วงโชติ

ลูกทาส ข้าบดินทร์ ฯลฯ

ให้ได้ติดตามรับชม

(ข้อมูลต่างๆ

ในบทความนี้

มีการบันทึกไว้

ถึงในปี พ.ศ. 2556

เพียงเท่านั้น

โดยเนื่องจากบทความ

เป็นการจัดทำขึ้น

ในช่วงยุคแรกๆ

ของการจัดทำบลอก

ทำให้การบันทึก

จึงยังมีข้อผิดพลาด

และมีรายละเอียด

ที่ไม่เรียบร้อย

ในหลายๆจุด

จากการแก้ไข

ในหลายๆครั้ง

ซึ่งผู้เขียนบลอก

ต้องขออภัย

ไว้ ณ ที่นี้)