แสงเพลิงที่เกริงทอ (1996)

ในปี พ.ศ. 2539

สถานีโทรทัศน์ช่อง 5

ร่วมกับบริษัท

มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด

โดย ยุวดี บุญครอง

เสนอละครโทรทัศน์

แนว ชีวิต / แอ็กชั่น

อิงประวัติศาสตร์

เรื่อง แสงเพลิงที่เกริงทอ

โดยเป็นการสร้าง

เป็นละครโทรทัศน์

จากบทประพันธ์

โดย ภราดร ศักดา

นำมาดัดแปลง

เป็นบทโทรทัศน์

และกำกับการแสดง

โดย วรยุทธ พิชัยศรทัต

ละครโทรทัศน์

เรื่อง แสงเพลิงที่เกริงทอ

ออกอากาศ

เป็นครั้งแรก

ในทุกวันพุธ

และวันพฤหัสบดี

เวลา 18.45 น.

ซึ่งเป็นช่วงเวลาพิเศษ

ในโครงการเทเลไฟว์

ของทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5

ในช่วงปี พ.ศ. 2539

(ในช่วงกลางยุค 90

ที่ผ่านมานั้น

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5

ได้มีการทดลอง

และปรับเปลี่ยน

ในด้านผังรายการ

จากโครงการ

ในรูปแบบใหม่

ในชื่อ เทเลไฟว์

ทำให้มีการปรับ

ในด้านเวลา

จากการนำ

ละครโทรทัศน์

ในช่วงไพรม์ไทม์

ของบริษัทต่างๆ

ทั้ง เอ็กแซ็กท์

กันตนา อัครเศรณี

มีเดีย ออพ มีเดียส์ ฯลฯ

นำมาแพร่ภาพ

ในช่วงเวลาเย็น

และนำรายการโทรทัศน์

ประเภททอล์คโชว์

วาไรตี้ เกมโชว์ ฯลฯ

นำมาแพร่ภาพ

ในช่วงเวลา 20.30 น.

เพื่อเป็นทางเลือก

ให้กับผู้ชม

และลดการแข่งขัน

กับทางช่องอื่นๆ

ที่เป็นเจ้าตลาด

ในด้านละครโทรทัศน์)

ละครโทรทัศน์

เรื่อง แสงเพลิงที่เกริงทอ

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2539

นำแสดงโดย พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง

รับบท อริน

จักรกฤษณ์ อำมรัตน์

รับบท ยอดดวง

สโรชา วาทิตตพันธ์

รับบท สุมังสา

สรพงษ์ ชาตรี

รับบท บาอ่อง

และนักแสดง

รับเชิญพิเศษ

Norman Tsui

หรือ ฉี เส้าเฉียน

ให้เกียรติร่วมแสดง

ในบท พันเอกซากิ

ร่วมด้วย เอกพัน บันลือฤทธิ์

รับบท ฟูจิตะ

ปภัสสรา ชุตานุพงษ์

รับบท อรุณี

อานนท์ สุวรรณเครือ

รับบท จำนงค์

วิชัย นัยนานนทน์

รับบท ร้อยโทโอชิ

ละครโทรทัศน์

เรื่อง แสงเพลิงที่เกริงทอ

จากบทประพันธ์

โดย ภราดร ศักดา

เป็นเรื่องราวการต่อสู้

และความเลวร้าย

ของช่วงเวลาสงคราม

โดยอิงประวัติศาสตร์

ในช่วงสมัยสงคราม

มหาเอเชียบูรพา

ในช่วงปี พ.ศ. 2484

โดยเหตุการณ์ต่างๆ

ในละครโทรทัศน์

ในเรื่องนี้นั้น

ได้มีการเกิดขึ้น

ที่จังหวัดกาญจนบุรี

ซึ่งเป็นเมืองสำคัญ

ตามประวัติศาสตร์

ของช่วงเวลา

ในสมัยสงครามโลก

จากการที่กาญจนบุรี

ถือเป็นเมืองหน้าด่าน

ที่ทางกองทหารญี่ปุ่น

ใช้เป็นเส้นทาง

ในการเดินทาง

ไปสู่ประเทศพม่า

โดยตัวละครหลัก

ของละครโทรทัศน์

ในเรื่องนี้

คือ อริน

ชายหนุ่มรูปหล่อ

ผู้มีความสามารถ

และมีความมั่นใจ

ในตัวเองอย่างสูง

โดยเขาเข้ามา

ยังพื้นที่แห่งนี้

เพื่อทำการสืบข่าว

และรายละเอียดต่างๆ

ของทางกองทหาร

จากประเทศญี่ปุ่น

เพื่อนำไปมอบ

ให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร

ตามหน้าที่

ของการเป็นสายลับ

ให้กับหน่วย OSS

ซึ่งการเข้ามา

ยังพื้นที่

ที่มีความขัดแย้ง

ระหว่างชาวบ้าน

ในหมู่บ้านเกริงทอ

กับเหล่าทหารญี่ปุ่น

ก็ทำให้เขานั้น

ได้ทำความรู้จัก

กับ ยอดดวง

ผู้มีเบื้องหลัง

ในการทำงาน

กับกลุ่มเสรีไทย

และ สุมังสา

ลูกสาวคนสวย

ของบาอ่อง

ผู้เป็นหัวหน้า

ของหมู่บ้านเกริงทอ

ซึ่งมีความพยายาม

ที่จะรวบรวม

ในด้านกำลังคน

และอาวุธ

เพื่อเข้าต่อสู้

ในแบบทหารกองโจร

กับเหล่าทหารญี่ปุ่น

ที่ทรงอำนาจ

ในช่วงเวลานั้น

จากความทรงจำ

ของผู้เขียนบลอก

ละครโทรทัศน์

เรื่อง แสงเพลิงที่เกริงทอ

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2539

มีความโดดเด่น

และได้รับความสนใจ

จากสื่อมวลชน

จากการที่ทีมงาน

ของการถ่ายทำ

ละครโทรทัศน์

ในเรื่องนี้

ได้รับเกียรติ

จาก Norman Tsui

หรือ ฉี เส้าเฉียน

พระเอกยอดนิยม

จากเกาะฮ่องกง

ที่ผู้ชมชาวไทย

เคยให้ความชื่นชอบ

จากบทบาท

พระเอกยอดนิยม

ในละครโทรทัศน์

ชุด กระบี่ไร้เทียมทาน

ที่เคยได้รับความนิยม

อย่างถล่มทลาย

ในประเทศไทย

รวมถึงประเทศอื่นๆ

ในแถบเอเชีย

ในช่วงต้นยุค 80

ได้ให้เกียรติ

มาร่วมนำแสดง

ในบทบาทสำคัญ

เป็น พันเอกซากิ

ที่ถือเป็นบทบาท

ที่มีความโดดเด่น

ในละครโทรทัศน์เรื่องนี้

โดยจากข่าวเบื้องหลัง

ของการถ่ายทำ

ละครโทรทัศน์

ในเรื่องนี้

เหล่าสื่อมวลชน

จากสำนักพิมพ์

และสถานีโทรทัศน์

ในช่องต่างๆ

ล้วนแต่ให้ความชื่นชม

ในตัวพระเอก

ที่มีชื่อเสียง

ในระดับตำนานผู้นี้

จากการที่เขานั้น

ถือเป็นนักแสดง

ที่วางตัวได้ดี

จากการเป็นหนุ่มใหญ่

ผู้มีความร่าเริง

มีมนุษยสัมพันธ์

และวางตัวง่ายๆ

ทำตัวสบายๆ

ทำให้ทางทีมงาน

และนักแสดง

ท่านอื่นๆ

ที่ได้ร่วมงาน

กับเขานั้น

ล้วนมีความประทับใจ

และมีบรรยากาศที่ดี

ในการทำงาน

ซึ่งการมาทำงาน

ในการถ่ายทำ

ละครโทรทัศน์

ในเรื่องนี้

เป็นระยะเวลา

ถึง 2 เดือน

พระเอกชื่อดังท่านนี้

ก็ได้ให้สัมภาษณ์

ว่าเขามีความประทับใจ

ในทีมงานชาวไทย

และมีความสุข

ที่ได้ทำงาน

และร่วมแสดง

ในละครโทรทัศน์

เรื่อง แสงเพลิงที่เกริงทอ

เพื่อผู้ชมชาวไทย

อีกครั้งหนึ่ง

โดยก่อนการแสดง

ในละครโทรทัศน์

ในเรื่องนี้

ในช่วงยุค 80

ที่ผ่านมานั้น

Norman Tsui

หรือ ฉี เส้าเฉียน

ถือเป็นนักแสดง

ที่มีชื่อเสียง

จากเกาะฮ่องกง

ที่เคยมารับบทบาท

ในผลงาน

ภาพยนตร์ไทย

เรื่อง เพชรตัดหยก

และ พยัคฆ์ยี่เก

ให้กับทางทีมงาน

กองถ่ายทำภาพยนตร์

ของ คุณคมน์ อรรฆเดช

ผู้อำนวยการสร้าง

และผู้กำกับภาพยนตร์

ที่มีชื่อเสียง

ในช่วงยุค 80

ซึ่งในการกลับมา

และร่วมทำงาน

กับทีมงาน

ซึ่งเป็นชาวไทย

ในครั้งนี้นั้น

สำหรับเขาแล้ว

ถือเป็นของขวัญ

สำหรับแฟนๆ

ผู้ชมชาวไทย

ที่มีความชื่นชอบ

ในผลงาน

ของตัวเขา

ในช่วงยุค 80

ที่ผ่านมา

ลูกตาลลอยแก้ว (1998)

ถ้าเธอเป็นน้ำ...ฉันจะขอเป็นไฟ

ในปี พ.ศ. 2541

สถานีโทรทัศน์ช่อง 7

ร่วมกับบริษัท

ดาราวิดีโอ จำกัด

เสนอละครโทรทัศน์

แนว ชีวิต / ตลก

และ โรแมนติก

เรื่อง ลูกตาลลอยแก้ว

โดยเป็นการสร้าง

เป็นละครโทรทัศน์

จากบทประพันธ์

โดย โสภี พรรณราย

นำมาดัดแปลง

เป็นบทโทรทัศน์

โดย ทองตรา

และกำกับการแสดง

โดย สยาม สังวริบุตร

เพลงประกอบละครโทรทัศน์

ช่วง Opening Credits

เพลง ญ. หญิง ช. ชาย

และ End Credits

เพลง เธอผู้เดียว

ขับร้องโดย สุวนันท์ คงยิ่ง

และ ดนุพร ปุณณกันต์

ละครโทรทัศน์

เรื่อง ลูกตาลลอยแก้ว

ออกอากาศ

เป็นครั้งแรก

เวลา 20.30 น.

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7

ในช่วงปี พ.ศ. 2541

ละครโทรทัศน์

เรื่อง ลูกตาลลอยแก้ว

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2541

นำแสดงโดย ดนุพร ปุณณกันต์

รับบท อนาวิล  / ต้นตาล

สุวนันท์ คงยิ่ง

รับบท มินทรา / ลูกแก้ว

หาญส์ หิมะทองคำ

รับบท กษม

สุธิตา เกตานนท์

รับบท ทิพเกสร

สุรวุฑ ไหมกัน

รับบท ปารณ

ชุติพร ทรัพย์เสริมศรี

รับบท แพรพิไล

ณัฏฐพล กรรณสูต

รับบท ธีเดช

ดวงตา ตุงคะมณี

รับบท คุณหญิงเขมิกา

อรัญญา นามวงศ์

รับบท คุณหญิงกุลนาถ

ปณิธาน สังข์ประเสริฐ

รับบท เผือก

ร่วมด้วย ฤทธิ์ ลือชา

สมฤทัย กล่อมน้อย

สิรคุปต์ เมทะนี

จันทนี สิงห์สุวรรณ

วชิรพงษ์ บุรพรัตน์

สุรางคณา สุนทรพนาเวศ

ศักดิ์สิทธิ์ ทวีกุล

รุ่งกานดา เบญจมาภรณ์

สมาน มะลิซ้อน

ด.ช.จิโน่ ชูทส์

ด.ญ.เอเซีย ปทุมแก้ว ฯลฯ

ละครโทรทัศน์

เรื่อง ลูกตาลลอยแก้ว

จากบทประพันธ์

โดย โสภี พรรณราย

เป็นเรื่องราวชีวิต

และความรัก

ของอนาวิล

หรือ ต้นตาล

หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์

ผู้เป็นบุตรชายคนเล็ก

ของคุณหญิงกุลนาถ

ที่พึ่งสำเร็จการศึกษา

มาจากต่างประเทศ

โดยในฐานะ

ของบุตรชาย

เขาได้รับมอบหมาย

จากทางครอบครัว

ให้เริ่มต้นการทำงาน

ในฐานะรองประธาน

ของธนาคารใหญ่

ที่บิดาของเขา

มีตำแหน่ง

เป็นประธานกรรมการ

ซึ่งจากการที่อนาวิล

พบเหตุสุดวิสัย

ทำให้ไปทำงานสาย

ตั้งแต่ในวันแรก

ทำให้เขาต้องอาศัย

รถมอเตอร์ไซค์

ในการไปให้ทัน

การนัดประชุม

ในครั้งแรก

ซึ่งจากอุบัติเหตุ

ที่เกิดขึ้น

บนท้องถนน

ก็ทำให้เขานั้น

ได้พบกับมินทรา

หรือ ลูกแก้ว

หญิงสาวสวย

หน้าตาน่ารัก

บุคลิกมาดมั่น

เป็นตัวของตัวเอง

ซึ่งจากการที่อนาวิล

ขี่มอเตอร์ไซค์คันเก่าๆ

ด้วยชุดง่ายๆ สบายๆ

เพราะกลัวว่าชุดสูท

ที่เคชตรียมไว้นั้น

จะเปื้อนและสกปรก

ทำให้มินทรา

ได้เข้าใจผิด

ว่าอนาวิลนั้น

เป็นพนักงานส่งของ

และด้วยท่าที

ที่มีความยียวน

ดูกวนโมโห

ของอนาวิล

ทำให้มินทรานั้น

รู้สึกต่อต้าน

และถุกชะตา

ในตัวชายหนุ่ม

ผิดกับอนาวิล

ที่รู้สึกนึกสนุก

อยากจะพิชิตใจ

หญิงสาวสวย

ที่มีนิสัย

ที่หยิ่งทระนง

และไม่เกรงกลัวใคร

อย่างมินทราคนนี้

วิวาห์พาวุ่น (2003)

หวงรัก...ลูกสาว...คุณพ่อขี้เหงา

ในปี พ.ศ. 2546

สถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ร่วมกับบริษัทละครไท

โดย หทัยรัตน์ อมตะวณิชย์

เสนอละครโทรทัศน์

แนว ชีวิต / ตลก

และ โรแมนติก

เรื่อง วิวาห์พาวุ่น

โดยเป็นการสร้าง

เป็นละครโทรทัศน์

จากบทประพันธ์

โดย อาริตา

นำมาดัดแปลง

เป็นบทโทรทัศน์

โดย ณัฐิยา ศิรกรวิไล

และ ศิยุดา อนุวรรณะวิภาค

กำกับการแสดง

โดย ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์

ละครโทรทัศน์

เรื่อง วิวาห์พาวุ่น

ออกอากาศ

เป็นครั้งแรก

เวลา 20.30 น.

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ในช่วงปี พ.ศ. 2546

ละครโทรทัศน์

เรื่อง วิวาห์พาวุ่น

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2546

นำแสดงโดย อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล

รับบท ศิรา

รามาวดี สิริสุขะ

รับบท บุญยวีร์

ดอม เหตระกูล

รับบท ธนยุทธ

เปรมสินี รัตนโสภา

รับบท ปนัดดา

พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง

รับบท บรรณ

สโรชา วาทิตตพันธ์

รับบท ธนวรรณ

สันติสุข พรหมศิริ

รับบท ศีล

ภัคจิรา วรรณสุทธิ์

รับบท ก้านแก้ว

เมทนี บุรณศิริ

รับบท ราม

ร่วมด้วย บรมวุฒิ หิรัญยัษฐิติ

รับบท สมเดช

ดวงตา ตุงคะมณี

รับบท บุญตา

ปิยะ เศวตพิกุล

รับบท สาวิตต์

วาสนา สิทธิเวช

รับบท ปรียา

พิศมัย วิไลศักดิ์

รับบท สุคนธา

ดวงใจ หทัยกาญจน์

รับบท ปรานี

พีรพล จันทรากาศ

รับบท ประพนธ์

ฐิติมา รุจิชลาดล

รับบท ทอรุ้ง

ดวงใจ วัตนวิทย์สกุล

รับบท ประภาศิริ

ละครโทรทัศน์

เรื่อง วิวาห์พาวุ่น

จากบทประพันธ์

โดย อาริตา

เป็นเรื่องราวชีวิต

และความรัก

ของบุณยวีร์

หรือแบมแบม

หญิงสาวที่น่ารัก

สดใส ร่าเริง

เธอเติบโต

มาในครอบครัว

ที่มีคุณพ่อ พี่ชาย

และ น้าสาว

จากการที่มารดา

ของเธอนั้น

ได้เสียชีวิตจากไป

ตั้งแต่ยังเล็ก

ซึ่งจากการเติบโต

มาในฐานะ

ของเด็กหญิง

ผู้ขาดมารดา

ก็ทำให้บุณยวีร์

ได้รับความรัก

และความเอาใจใส่

จากบรรณ

ผู้เป็นบิดา

อย่างเต็มเปี่ยม

ซึ่งจากความรัก

และการดูแล

ของบรรณ

อย่างใกล้ชิด

มาโดยตลอด

ในรูปแบบนี้เอง

ที่ทำให้บุณยวีร์

ที่หน้าตาน่ารัก

และเพียบพร้อมนั้น

ยังไม่เคยรู้จัก

กับความรัก

เหมือนกับหญิงสาว

ในวัยเดียวกัน

คนอื่นๆ

ซึ่งจากการไปร่วม

ในงานแต่งงาน

ของเพื่อนเก่า

ในฐานะ

เพื่อนเจ้าสาว

บุณยวีร์ได้พบ

และพูดคุย

กับศิรา

ชายหนุ่มรูปหล่อ

ที่มีนิสัยซื่อๆ

เป็นคนน่ารัก

ซึ่งเป็นแขกรับเชิญ

จากทางฝั่งเจ้าบ่าว

ซึ่งจากความประทับใจ

ในการพบกัน

เป็นครั้งแรก

ทำให้ทั้งสองนั้น

ต่างมีความรู้สึก

ว่าอีกฝ่ายนั้น

คือคนที่ใช่

สำหรับกันและกัน

จากการนัดพบ

เพื่อพูดคุย

และศึกษานิสัย

ในระยะเวลาหนึ่ง

ทั้งสองตกลงใจ

ที่จะแต่งงาน

และวาดหวัง

ที่จะมีอนาคต

ที่ดีร่วมกัน

แต่อุปสรรคสำคัญ

ของหนุ่มสาว

ทั้งสองนั้น

ไม่ใช่การปรับตัว

หรือการเรียนรู้

ซึ่งกันและกัน

แต่เป็นบรรณ

คุณพ่อจอมเฮี๊ยบ

ของบุณยวีร์

ที่ทั้งรักและหวง

คอยเป็นห่วง

ในตัวเธอ

มากที่สุดนั่นเอง

อั้น สหพล จุลวงศ์

นักร้องหนุ่มสุดหล่อจากวงฟอร์เอฟเวอร์

ในปี พ.ศ. 2531

บริษัท นิธิทัศน์

ได้เปิดตัว

ผลงานเพลง

ในอัลบั้มชุดที่ 5

ของวงฟอร์เอฟเวอร์

ที่ใช้ชื่ออัลบั้ม

ว่า หัวใจเธอมีหรือเปล่า

ซึ่งจากผลงานเพลง

ที่ได้รับความนิยม

จากผู้ฟังทางบ้าน

ในอัลบั้มชุดนี้

ก็ได้ทำให้คุณอั้น

สหพล จุลวงศ์

นักร้องหนุ่มหล่อ

สมาชิกคนใหม่

ของวงฟอร์เอฟเวอร์

ซึ่งเป็นผู้ขับร้อง

เพลงในชื่อเดียวกัน

กับชื่อของอัลบั้มชุดนี้

เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

และได้รับความนิยม

จากผู้ฟังทั่วประเทศ

รวมถึงเป็นที่จดจำ

ของผู้ฟัง ผู้ชมมากมาย

มาจนถึงในทุกวันนี้

สำหรับประวัติส่วนตัว

ของนักร้อง นักดนตรี

นายแบบหนุ่มหล่อ

ที่ได้รับความนิยม

ของวงการบันเทิง

ในช่วงยุค 80 ท่านนี้

คุณอั้น สหพล จุลวงศ์

เกิดวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2507

ที่โรงพยาบาลหญิง

กรุงเทพฯ

จากบทสัมภาษณ์

ในปี พ.ศ. 2530

คุณอั้นสูง 174 เซนติเมตร

หนัก 63 กิโลกรัม

โดยเขาเป็นลูกคนสุดท้อง

ของทางครอบครัว

ที่มีลูกชายทั้งหมด 3 คน

(ข้อมูลในปี พ.ศ. 2530 เท่านั้น)

สำหรับประวัติ

ในด้านการศึกษา

คุณอั้น สหพล จุลวงศ์

เริ่มต้นการศึกษา

ในระดับชั้นอนุบาล

จนถึงชั้น ม.ศ. 3

ที่โรงเรียนสวนบัว

จากนั้นจึงมาศึกษาต่อ

จนสำเร็จการศึกษา

ในระดับชั้นมัธยม

จากโรงเรียนวัดบวรนิเวศ

ขณะที่เข้าสู่วงการบันเทิง

ในฐานะนายแบบ

ในวงการแฟชั่น

ในช่วงปี พ.ศ. 2530

เขากำลังศึกษา

อยู่ชั้นปีที่ 4

ที่คณะบัญชี

มหาวิทยาลัยรามคำแหง

โดยกิจกรรมพิเศษ

ในช่วงวัยเรียน

ของหนุ่มหล่อท่านนี้

คือการเล่นกีฬา

โดยเขามีความสามารถ

ในการเล่นกีฬา

ในหลายๆประเภท

ไม่ว่าจะเป็น แบดมินตัน

กอล์ฟ สนุกเกอร์

และ เทเบิลเทนนิส

ซึ่งกีฬาประเภทหลังนี้

คุณอั้นมีความถนัด

จากการเคยเข้าร่วม

ในการแข่งขัน

และคว้ารางวัล

มาแล้วหลายครั้ง

เส้นทางในวงการบันเทิง

ของคุณอั้น

สหพล จุลวงศ์

เริ่มขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2530

โดยเขาเป็นที่รู้จัก

ในวงการบันเทิง

เป็นครั้งแรก

จากการเป็นนายแบบ

ที่ได้รับรางวัล

รองชนะเลิศ

จากการเข้าประกวด

ในเวที Domon Man

ที่มีการจัดงานขึ้น

ที่โรงแรมดุสิตธานี

ในช่วงปี พ.ศ. 2530

ซึ่งจากการเข้ารอบ

เป็น 1 ใน 5 คน

ในรอบสุดท้าย

และคว้าตำแหน่ง

เป็น 1 ใน 4

ของผู้ที่ได้รับตำแหน่ง

เป็นรองชนะเลิศ

ของการประกวด

ในการจัดงานปีนั้น

ก็ทำให้เขามีผลงาน

ในด้านการถ่ายแบบ

และงานเดินแบบ

ในงานแฟชั่นโชว์

รวมถึงมีผลงาน

ในด้านโฆษณา

ตามมาอีกมากมาย

หลังจากได้รับตำแหน่ง

รองชนะเลิศ

ในการประกวด

Domon Man

ประจำปี พ.ศ. 2530

คุณอั้น สหพล จุลวงศ์

ในฐานะนายแบบหน้าใหม่

ก็เริ่มมีผลงาน

ในด้านการถ่ายแบบ

ในนิตยสารต่างๆ

และมีผลงาน

การเดินแบบ

ในงานแฟชั่นโชว์

ให้กับสินค้าต่างๆ

ของบริษัท Domon

โดยหลังจากผ่านพ้น

ระยะเวลาของสัญญา

กับทางกองประกวด

เขาจึงมีผลงาน

ในด้านการถ่ายแบบ

และงานด้านโฆษณา

ให้กับทางบริษัท

สินค้าอื่นๆ

ตามมาอีกมากมาย

ในฐานะนายแบบ

ในช่วงยุค 80

นอกจากผลงาน

ในด้านการถ่ายแบบ

และงานเดินแบบแล้ว

คุณอั้น สหพล จุลวงศ์

ยังเป็นที่จดจำ

จากการเป็นนายแบบ

ที่มีผลงาน

ในด้านโฆษณา

ฝากไว้มากมาย

ในวงการบันเทิง

โดยจากความทรงจำ

ของผู้เขียนบลอก

หนุ่มหล่อท่านนี้

มีผลงานส่วนหนึ่ง

ในด้านโฆษณา

ดังนี้ ลูกอมโอเล่

เครื่องดื่มโค้ก

ชุดทำงานฮาร่า

รองเท้าบาจา

นมอัดเม็ดเลเล่

ลูกอมทรีบอร์

ฟิลม์สีโกดัก (2 ครั้ง)

ยาสระผมซันนี่ดรอฟ

ยาดมวาเป็กซ์

เสื้อผ้า Batsu / Domon

Solo Club / J.Fox ฯลฯ

สำหรับผลงาน

ในด้านการออกอัลบั้ม

ในฐานะสมาชิก

ของวงฟอร์เอฟเวอร์

ที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จัก

ในวงการบันเทิง

ในวงกว้างนั้น

คุณอั้น สหพล จุลวงศ์

ก้าวเข้ามา

เป็นสมาชิกคนใหม่

ของวงฟอร์เอฟเวอร์

ในช่วงปี พ.ศ. 2531

จากการชักชวน

ของเพื่อนท่านหนึ่ง

ที่แนะนำให้เขานั้น

ได้ลองไปเทสต์เสียง

กับทางวงฟอร์เอฟเวอร์

ที่ในขณะนั้น

กำลังต้องการ

นักร้องคนใหม่

เข้ามาเพิ่มเติม

ให้กับทางวง

โดยหลังการเทสต์เสียง

และมีการพูดคุยกับพี่ๆ

สมาชิกท่านอื่นๆในวง

คุณอั้นก็ได้รับการทาบทาม

ให้เข้าเป็นสมาชิกคนใหม่

ของทางวงฟอร์เอฟเวอร์

อัลบั้มเพลงชุดที่ 5

ของวงฟอร์เอฟเวอร์

ที่ใช้ชื่ออัลบั้ม

ว่า หัวใจเธอมีหรือเปล่า

ซึ่งมีคุณอั้น

สหพล จุลวงศ์

เป็นสมาชิกใหม่

ของทางวงนั้น

มีการเปิดตัว

ต่อสื่อมวลชน

และออกวางจำหน่าย

ในช่วงปี พ.ศ. 2531

ซึ่งจากความสำเร็จ

ของอัลบั้มชุดนี้

ที่มีเพลงฮิต

เป็นที่ชื่นชอบ

ของผู้ฟังทางบ้าน

แทบจะทั้งอัลบั้ม

ก็ทำให้ชื่อของคุณอั้น

สหพล จุลวงศ์

นักร้องคนใหม่

ของวงท่านนี้

เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

และได้รับความนิยม

จากผู้ฟังทางบ้าน

ที่มีความชื่นชอบ

ในผลงานเพลงชุดนี้

ของวงฟอร์เอฟเวอร์

หลังจากเป็นที่รู้จัก

และได้รับความนิยม

จากผลงานเพลง

ชุด หัวใจเธอมีหรือเปล่า

ที่ออกวางจำหน่าย

ในช่วงปี พ.ศ. 2531

ในฐานะสมาชิก

ของวงฟอร์เอฟเวอร์

คุณอั้น สหพล จุลวงศ์

มีผลงานอัลบั้มเต็ม

กับทางวงฟอร์เอฟเวอร์

ตามมาอีก 2 ชุด

คือ ดำดีดูดี

ในปี พ.ศ. 2532

และ จริงใจ

ในปี พ.ศ. 2533

โดยนอกจากสตูดิโออัลบั้ม

ทั้งสามชุดนี้แล้ว

ในฐานะสมาชิก

ของวงฟอร์เอฟเวอร์

คุณอั้นยังมีผลงานเพลง

ในอัลบั้มพิเศษ

อย่าง Super Boom

ที่เป็นการนำเพลงเก่า

และเพลงสากล

ที่ได้รับความนิยม

มาขับร้อง

และทำดนตรีใหม่

นอกจากนี้

ยังมีอัลบั้มรวมฮิต

และอัลบั้มคาราโอเกะ

ของวงฟอร์เอฟเวอร์

ออกมาวางจำหน่าย

สำหรับแฟนๆทางบ้าน

อีกหลายชุด

ตั้งแต่ในช่วงปี พ.ศ.2534

เป็นต้นมา

ในฐานะนายแบบ

นักร้อง นักดนตรี

ที่ได้รับความนิยม

ในวงการบันเทิง

ในช่วงยุค 80

ถึงช่วงต้นยุค 90

คุณอั้น สหพล จุลวงศ์

นักร้องหนุ่มสุดหล่อ

ที่มีรอยยิ้มน่ารัก

ของแฟนๆท่านนี้

ห่างหายจากวงการบันเทิง

และการออกผลงานเพลง

ไปตามวันและเวลา

ของวงการบันเทิง

ที่จะมีนักร้อง นักดนตรี

ขวัญใจวัยรุ่นคนใหม่

ก้าวเข้ามาสร้างสีสัน

และความสนุกสนาน

ให้กับผู้ชม ผู้ฟังทางบ้าน

ในแต่ละยุคสมัยเสมอ

โดยสำหรับแฟนๆ

ที่ยังคงคิดถึง

รอยยิ้มน่ารัก

ของหนุ่มหล่อท่านนี้

ข่าวคราว

ในช่วงยุคหลัง

ของนักร้อง นักดนตรี

ที่แฟนๆทางบ้าน

ยังคงคิดถึง

และยังคงจดจำท่านนี้

คือข่าวคราว

ในด้านการทำงาน

ของคุณอั้น

ที่บริษัทการบินไทย

และการทำธุรกิจส่วนตัว

ในการเปิดสถานบันเทิง

ร่วมกันกับคุณกอล์ฟ

สมบุญ โชติหิรัญพาณิชย์

สมาชิกอีกท่านหนึ่ง

ของวงฟอร์เอฟเวอร์

(ข้อมูลถึงในช่วงปี พ.ศ. 2553 เท่านั้น)