ในวงการบันเทิง
ของประเทศไทย
ในทุกยุคสมัยนั้น
มีนักแสดงชื่อดัง
หลาย-หลายท่าน
ที่เริ่มต้น
การทำงาน
ในวงการบันเทิง
ในฐานะนางแบบ
และนายแบบ
ในวงการแฟชั่น
ก่อนจะเป็นที่รู้จัก
ในวงกว้าง
จากการทำงาน
ในฐานะนักแสดง
ในช่วงเวลาต่อมา
โดยจากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
คุณเบน อิศรางกูร ณ อยุธยา
พระเอกชื่อดัง
ที่เป็นที่จดจำ
ของผู้ชมทางบ้าน
มาจนถึงในทุกวันนี้
จากความหล่อเหลา
ของเขานั้น
ก็ถือเป็นนักแสดง
อีกท่านหนึ่ง
ที่เริ่มต้น
การทำงาน
ในวงการบันเทิง
จากการเป็นนายแบบ
ก่อนจะเป็นที่รู้จัก
ในวงกว้าง
จากการมีผลงาน
ทั้งในด้านภาพยนตร์
ละครโทรทัศน์
ผลงานเพลง
ฝากไว้ในวงการบันเทิง
ในช่วงปี พ.ศ. 2526
ถึงในช่วงปี พ.ศ. 2538
ที่ผ่านมา
โดยในการบันทึก
บทความของบลอก
ในครั้งนี้นั้น
จะเป็นการบันทึก
เส้นทางการทำงาน
ทั้งในฐานะนายแบบ
และการเป็นนักแสดง
ของพระเอก
หนุ่มหล่อท่านนี้
ตั้งแต่ในช่วงปี พ.ศ. 2526
เป็นต้นมา
สำหรับประวัติส่วนตัว
ของนายแบบ
และนักแสดง
หนุ่มหล่อท่านนี้
คุณเบน อิศรางกูร ณ อยุธยา
มีชื่อในภาษาไทย
ว่า ประชา อิศรางกูร ณ อยุธยา
เกิดวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2505
ที่ซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน
ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยเขาเป็นลูกครึ่ง
ไทย-เนเธอร์แลนด์
จากบทสัมภาษณ์
ในช่วงปลายยุค 80
คุณเบนเติบโต
มาในครอบครัว
ที่คุณพ่อของเขา
ท่านทำงาน
ที่องค์การยูเนสโก
ประเทศไทย
(โดยก่อนหน้านั้น
ท่านทำงาน
ในกรมประมง
ประเทศไทย
ก่อนจะย้ายไป
ยังต่างประเทศ
และเข้าทำงาน
ในองค์การ
อาหารและเกษตร
แห่งสประชาชาติ
ที่ประเทศอิตาลี)
และคุณแม่
ของคุณเบนนั้น
ท่านเป็นอาจารย์
ในมหาวิทยาลัย
โดยในฐานะ
สมาชิกครอบครัว
อิศรางกูร ณ อยุธยา
เขาเป็นบุตรชายคนโต
ของทางครอบครัว
โดยคุณเบนนั้น
มีน้องสาว
และน้องชาย
อย่างละ 1 ท่าน
(โดยจากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
หากไม่ผิดพลาด
ในช่วงยุค 80
ที่ผ่านมานั้น
คุณทัศนา
และคุณโธมัส
ซึ่งเป็นน้องสาว
และน้องชาย
ของคุณเบนนั้น
ก็มีผลงาน
การถ่ายแบบ
ฝากไว้ในนิตยสาร
แนวแฟชั่น
หลาย-หลายฉบับ
ของประเทศไทย
เช่นเดียวกัน)
โดยจากบทสัมภาษณ์
ในปี พ.ศ. 2527
พระเอกหนุ่มหล่อท่านนี้
สูง 183 เซนติเมตร
หนัก 80 กิโลกรัม
ซึ่งจากการใช้ชีวิต
ในหลายประเทศ
ทั้งสหรัฐอเมริกา
อิตาลี ไทย
ก็ทำให้เขานั้น
สามารถพูด
ได้ทั้งภาษาไทย
ภาษาอังกฤษ
ภาษาฝรั่งเศส
และ ภาษาอิตาเลียน
(ข้อมูลมีการบันทึก
ถึงในช่วงปลายยุค 80
เพียงเท่านั้น
โดยหากมีข้อมูล
ที่มีความผิดพลาด
ต้องขออภัย
ต่อคุณเบน
และทางครอบครัว
อิศรางกูร ณ อยุธยา
ไว้ ณ ที่นี้)
สำหรับประวัติส่วนตัว
ในด้านการศึกษา
ของคุณเบน
ประชา อิศรางกูร ณ อยุธยา
จากการกลับมา
ยังประเทศไทย
ในช่วงวัยเด็ก
จนถึงอายุ 8 ปี
ก็ทำให้คุณเบน
เริ่มต้นการศึกษา
ในระดับ ป.1
จนถึง ป.3
ที่โรงเรียน
พระมหาไถ่ศึกษา
ในประเทศไทย
ซึ่งจากการที่ครอบครัว
ย้ายไปใช้ชีวิต
ที่ประเทศอิตาลี
จากการทำงาน
ของคุณพ่อ
ก็ทำให้เขานั้น
ย้ายไปศึกษาต่อ
จนสำเร็จการศึกษา
ในระดับชั้นมัธยม
ที่โรงเรียน
ในประเทศอิตาลี
โดยขณะที่คุณเบน
เข้าสู่วงการแฟชั่น
ในประเทศไทย
ในช่วงปี พ.ศ. 2526
เขาพึ่งสำเร็จการศึกษา
ในระดับปริญญาตรี
ด้านวิศวกรรมเครื่องยนต์
จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
(โดยหลังจากมีผลงาน
ในด้านภาพยนตร์
คุณเบนห่างหาย
จากการทำงาน
ในวงการบันเทิง
ไประยะเวลาหนึ่ง
จากการเดินทาง
เพื่อไปศึกษาต่อ
ที่ต่างประเทศ
โดยจากบทสัมภาษณ์
ในช่วงต้นยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
เขาสำเร็จการศึกษา
ในระดับปริญญาโท
ด้านวิศวกรรมเครื่องยนต์
จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน
โดยในช่วงเวลา
เดียวกันนั้นเอง
เขาเข้าทำงานประจำ
ในฐานะวิศวกร
ให้กับฐานทัพเรือ
ของประเทศสหรัฐอเมริกา
ควบคู่กันไป
กับการศึกษาต่อ
ซึ่งหลังจากสำเร็จการศึกษา
เขาเดินทางกลับมา
และกลับคืน
สู่วงการบันเทิง
ในประเทศไทย
อีกครั้งหนึ่ง
ในช่วงปี พ.ศ. 2533
โดยในช่วงต้นยุค 90
ทีผ่่านมานั้น
หนุ่มหล่อท่านนี้
มีผลงาน
ในด้านการแสดง
และการถ่ายแบบ
ควบคู่กันไป
กับการทำงาน
ในตำแหน่ง
วิศวกรระบบ
ของบริษัทไอบีเอ็ม
ประเทศไทย)
เส้นทางในวงการบันเทิง
ของคุณเบ็น
ประชา อิศรางกูร ณ อยุธยา
เริ่มขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2526
จากการที่เขานั้น
มีความตั้งใจ
ที่จะกลับมา
เพื่อพักผ่อน
ที่เมืองไทย
หลังจากสำเร็จการศึกษา
จากคณะวิศวกรรม
มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
โดยในช่วงที่เขา
กลับมาพักผ่อน
ที่ประเทศไทยนั้น
ก็ได้รับการชักชวน
ให้เริ่มต้น
การทำงาน
ในฐานะนายแบบ
โดยในช่วงปี พ.ศ. 2526
ที่ผ่านมานั้น
เขาเริ่มมีผลงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
ลงในนิตยสารบีอาร์
และมีผลงาน
ในด้านโฆษณา
ให้ได้ติดตามรับชม
โดยจากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ในฐานะนายแบบ
คุณเบนเป็นที่รู้จัก
และโด่งดังขึ้นมา
อย่างรวดเร็ว
จากการถ่ายแบบ
มีบทสัมภาษณ์
และได้รับเลือก
ให้ขึ้นปก
นิตยสารดิฉัน
หลายครั้ง
ในช่วงปี พ.ศ. 2527
ซึ่งจากรูปลักษณ์
ที่มีความหล่อเหลา
และมีรูปร่างสูงใหญ่
ในแบบลูกครึ่ง
ซึ่งมีความแตกต่าง
จากนักแสดงชาย
และนายแบบ
ในวงการบันเทิง
และวงการแฟชั่น
ของประเทศไทย
ในขณะนั้น
ก็ทำให้นายแบบ
หน้าใหม่ท่านนี้
กลายเป็นที่ชื่นชอบ
ของเหล่าผู้ชมสาวๆ
ในช่วงกลางยุค 80
ได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากเป็นที่รู้จัก
และได้รับความนิยม
ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
จากการทำงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
และขึ้นปกนิตยสาร
คุณเบน อิศรางกูร ณ อยุธยา
ก็ได้รับการชักชวน
จาก ม.จ.ทิพยฉัตร ฉัตรชัย
ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง
ของวงการบันเทิง
ในช่วงยุค 80
ที่เป็นที่จดจำ
ในฐานะ
ผู้กำกับภาพยนตร์
แนวรัก-โรแมนติก
ที่ประสบความสำเร็จ
หลาย-หลายเรื่อง
ในวงการภาพยนตร์
ให้เข้าสู่วงการบันเทิง
ในฐานะนักแสดง
อย่างเต็มตัว
โดยในฐานะนักแสดง
คุณเบนเปิดตัว
เป็นครั้งแรก
ด้วยผลงานภาพยนตร์
แนวรัก-โรแมนติก
ของบริษัท
พีดี โปรดักชั่น
เรื่อง รักนี้เราจอง
ซึ่งเป็นผลงาน
การอำนวยการสร้าง
โดยคุณกำพล ตันสัจจา
และกำกับภาพยนตร์
โดย ม.จ.ทิพยฉัตร ฉัตรชัย
ซึ่งจากผลงานภาพยนตร์
ที่เขารับบทพระเอกนำ
คู่กับคุณใหม่ เจริญปุระ
และคูณพรพรรณ เกษมมัสสุ
ที่มีการเปิดตัวต่อสื่อมวลชน
และเข้าฉายเป็นครั้งแรก
ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
ในวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2527
ในเรื่องนี้นี่เอง
ที่ทำให้นายแบบ
หนุ่มหล่อท่านนี้
กลายเป็นที่รู้จัก
ของผู้ชมทางบ้าน
ในวงกว้าง
จากการเปิดตัว
ในฐานะนักแสดง
หลังจากเปิดตัว
และประสบความสำเร็จ
จากการทำงาน
ในฐานะนักแสดง
เป็นครั้งแรก
หลังจากเป็นที่รู้จัก
ในฐานะนายแบบ
ในช่วงปี พ.ศ. 2527
ถึงในช่วงปี พ.ศ. 2538
ที่ผ่านมานั้น
จากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ในฐานะนักแสดง
คุณเบน อิศรางกูร ณ อยุธยา
มีผลงานการแสดง
ฝากไว้ในวงการภาพยนตร์
และวงการโทรทัศน์
ในประเทศไทย
ดังนี้ ผลงานภาพยนตร์
เรื่อง รักนี้เราจอง
ในปี พ.ศ. 2527
หัวใจที่ขาดรัก
ในปี พ.ศ. 2529
ขอเก็บหัวใจเธอไว้คนเดียว
ในปี พ.ศ. 2538
ละครโทรทัศน์
เรื่อง คลื่นซัดใจ
ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3
ในปี พ.ศ. 2535
ดอกกระถินริมรั้ว
ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7
ในปี พ.ศ. 2535
ปราสาทสีขาว
ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7
ในปี พ.ศ. 2538
ผู้ชายไม้ประดับ
ในปี พ.ศ. 2538
(ในฐานะนักแสดง
คุณเบน อิศรางกูร ณ อยุธยา
ถือเป็นนักแสดง
ที่มีผลงาน
ในด้านการแสดง
ฝากไว้ในวงการบันเทิง
ของประเทศไทย
ไม่บ่อยครั้งนัก
จากการที่เขานั้น
พักการทำงาน
ในวงการบันเทิง
เพื่อไปศึกษาต่อ
ในระดับปริญญาโท
ที่ต่างประเทศ
รวมถึงในช่วงต้นยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
หลังจากกลับมา
ที่ประเทศไทย
นายแบบ
และนักแสดง
หนุ่มหล่อท่านนี้
ก็เป็นที่จดจำ
ในวงสังคม
ของเมืองไทย
จากความโดดเด่น
ในด้านการทำงาน
ในฐานะวิศวกร
ซึ่งเป็นงานประจำ
ที่บริษัท ไอบีเอ็ม
ประเทศไทย
มากกว่าการทำงาน
ในฐานะนายแบบ
และนักแสดง
ซึ่งถือเป็นงานพิเศษ
ที่เขาใช้เวลาว่าง
ในช่วงวันหยุด
จากการทำงาน
มารับงานบ้าง
เพียงเท่านั้น)
โดยนอกจากผลงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
การเดินแบบ โฆษณา
และงานด้านการแสดง
ทั้งในด้านภาพยนตร์
และละครโทรทัศน์
ในช่วงยุค 90
ซึ่งเป็นช่วงเวลา
ที่วงการบันเทิง
ในประเทศไทย
มีกระแสความนิยม
ในการที่นักแสดง
นายแบบ นางแบบ
นักกีฬาที่มีชื่อเสียง
ล้วนมีผลงานเพลง
ในอัลบั้มเดี่ยว
เป็นของตัวเอง
ออกมาวางจำหน่าย
ไปสู่ผู้ชม ผู้ฟังนั้น
คุณเบน อิศรางกูร ณ อยุธยา
ก็ถือเป็นพระเอก
อีกท่านหนึ่ง
ของวงการบันเทิง
ที่มีผลงานเพลง
เป็นของตัวเอง
ให้ได้ติดตามรับฟัง
โดยจากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ในฐานะนักร้อง
หนุ่มหล่อท่านนี้
มีผลงานเพลง
แนว ป๊อป
ในสังกัดค่ายเพลง
ในชื่อ ไจแอนท์
ที่ใช้ชื่ออัลบั้ม
ว่า ไม่งั้นๆ
ออกมาวางจำหน่าย
ทั่วประเทศ
ในช่วงปี พ.ศ. 2535
ซึ่งจากการโปรโมท
ผลงานเพลงแรก
ที่มีชื่อเพลง
ว่า เซ็งกันก็ไปซะ
และ เคยเป็นหนึ่ง
ทั้งในด้านมิวสิควีดีโอ
และการแสดงสดนั้น
ก็ทำให้พระเอก
หนุ่มหล่อท่านนี้
ได้รับคำชื่นชม
จากสื่อมวลชน
ในแง่ของเสียงร้อง
ที่มีความไพเราะ
ร้องชัดถ้อยชัดคำ
มากกว่าการพูด
(ในช่วงยุค 80
ถึงช่วงกลางยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
เหล่าเเฟนคลับ
ของหนุ่มหล่อ
ท่านนี้นั้น
คงจะทราบกันดี
ว่าคุณเบนนั้น
พุดไทยไม่ชัด
เท่าไหร่นัก
จากการที่เขานั้น
เติบโตและใช้ชีวิต
ส่วนใหญ่
ในต่างประเทศ
แต่จากผลงานเพลง
ก็ทำให้คุณเบน
ที่ร้องเพลงไทย
ได้ดีอย่างมาก
ก็ทำให้ได้รับเสียงชื่นชม
จากสื่อมวลชน
โดยแม้ว่าในขณะนั้น
เขาจะไม่ได้สังกัด
ในค่ายเพลงใหญ่
แต่ในการแสดงสด
ทุก-ทุกครั้งนั้น
ก็มีแฟนคลับ
ที่มีความชื่นชอบ
จากผลงานการแสดง
และการถ่ายแบบ
ของคุณเบนนั้น
ให้การสนับสนุน
และติดตาม
ไปให้กำลังใจ
ในการแสดงคอนเสริต์
ของเขาอยู่เสมอ)
ในฐานะนักแสดง
นายแบบและนักร้อง
ที่ยังคงเป็นที่จดจำ
มาจนถึงในทุกวันนี้
คุณเบน อิศรางกูร ณ อยุธยา
ในปัจจุบันนี้นั้น
ห่างหายจากการทำงาน
ในวงการบันเทิง
ไปตามวันและเวลา
ของวงการบันเทิง
และวงการแฟชั่น
ในประเทศไทย
ที่ในแต่ละยุคสมัย
ก็จะมีนักแสดง
นักร้อง นายแบบ
นางแบบรุ่นใหม่
ที่ก้าวเข้ามา
เพื่อสร้างสีสัน
และความสนุกสนาน
ในวงการบันเทิง
ให้กับผู้ชมทางบ้าน
ในแต่ละช่วงเวลาเสมอ
โดยในการบันทึก
บทความของบลอก
ในครั้งนี้นั้น
หากมีข้อมูล
ที่ไม่ถูกต้อง
หรือมีรายละเอียด
ที่ไม่ครบถ้วน
ผู้เขียนบลอก
ต้องขออภัย
ต่อคุณเบน
และทางครอบครัว
ไว้ ณ ที่นี้)