ถึงช่วงยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
ผลงานการ์ตูน
สำหรับผู้หญิง
ของ อ.ยามาโตะ วากิ
ซึ่งมีความโดดเด่น
จากการที่ผลงาน
ของนักเขียนผู้นี้
มักจะนำเสนอ
เรื่องราวชีวิต
ของตัวละครหลัก
ซึ่งเป็นผู้หญิง
ที่มีความแข็งแกร่ง
ทันสมัย มีความมั่นใจ
กล้าเผชิญหน้า
และเลือกเส้นทาง
ในการใช้ชีวิต
ด้วยตัวเอง
โดยไม่ยอมอ่อนข้อ
ให้กับกรอบ
และกฎเกณฑ์
ของสังคมยุคเก่า
(รวมถึงนำเสนอ
ตัวละครเพศที่สาม
ในแบบให้เกียรติ
และยอมรับตัวตน
ทั้งที่เป็นผลงาน
ของนักเขียน
ที่มีผลงาน
ในช่วงแรก
ตั้งแต่ยุค 60)
ซึ่งจากความโดดเด่น
ในด้านแนวคิด
ในแบบสตรีนิยม
ที่แฝงมา
กับเรื่องราว
ในแบบ ชีวิต-ตลก
ที่มีความสนุกสนาน
ในรูปแบบนี้นี่เอง
ที่ทำให้ผลงาน
หลาย-หลายเรื่อง
ของนักเขียนผู้นี้
ล้วนแต่ได้รับความนิยม
และยังคงเป็นที่จดจำ
ของนักอ่านมากมาย
มาจนถึงในปัจจุบัน
โดยจากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ผลงานการ์ตูน
เรื่อง สงครามกับความรัก
(Haikara-san ga Toru)
ที่นำเรื่องราว
มาบันทึกไว้
ในบทความ
ของบลอก
ในครั้งนี้นั้น
ถือเป็นผลงาน
อีกเรื่องหนึ่ง
ของ อ.ยามาโตะ วากิ
ที่มีความโดดเด่น
และได้รับความนิยม
จากผู้อ่านอย่างสูง
ตั้งแต่ในช่วงยุค 70
ที่ผ่านมา
สำหรับผู้อ่านบลอก
ที่ไม่ได้เติบโต
มาในช่วงเวลา
ที่ผลงาน
การ์ตูนเรื่องนี้
กำลังวางจำหน่าย
ในประเทศไทย
ในช่วงต้นยุค 80
ผลงานการ์ตูน
สำหรับผู้หญิง
เรื่อง Haikara-san ga Toru
เป็นผลงานการ์ตูน
แนว พีเรียด
ชีวิต / ตลก
ของ อ.ยามาโตะ วากิ
ซึ่งมีการตีพิมพ์
เป็นครั้งแรก
ในแบบเป็นตอนๆ
ลงในนิตยสาร
ชื่อ Shojo Friend
ซึ่งเป็นนิตยสาร
ประเภทการ์ตูน
สำหรับเด็กผู้หญิง
ของสำนักพิมพ์โคดันฉะ
ในช่วงปี พ.ศ. 2518
ถึงในช่วงปี พ.ศ. 2520
(ก่อนจะมีการตีพิมพ์
ในแบบรวมเล่ม
จำนวน 8 เล่ม
ออกมาวางจำหน่าย
ตามมาในภายหลัง)
ซึ่งจากความโดดเด่น
ในด้านเนื้อหา
ที่มาพร้อม
กับความสนุกสนาน
ก็ทำให้ผลงาน
การ์ตูนเรื่องยาว
ของ อ.ยามาโตะ วากิ
ในเรื่องนี้
สามารถคว้ารางวัล
การ์ตูนผู้หญิงยอดเยี่ยม
จากการประกาศรางวัล
Kodansha Manga Award
โดยสำนักพิมพ์โคดันฉะ
ประจำปี พ.ศ. 2520
มาครองได้
(ขอขอบคุณวีดีโอ
โดยคุณ Rhein Bach
www.youtube.com)
สำหรับเนื้อหา
และเรื่องย่อ
ของผลงานการ์ตูน
เรื่อง Haikara-san ga Toru
ผลงานการ์ตูนเรื่องนี้
และเรื่องย่อ
ของผลงานการ์ตูน
เรื่อง Haikara-san ga Toru
ผลงานการ์ตูนเรื่องนี้
เป็นเรื่องราวชีวิต
และความรัก
และความรัก
ของเบนิโอะ
สาวน้อยจอมแก่น
ผู้เป็นหญิงสาว
ที่มีความร่าเริง สดใส
ที่ได้รับการศึกษา
ที่มีความร่าเริง สดใส
ที่ได้รับการศึกษา
ในโรงเรียนสตรี
ในช่วงรัชสมัยไทโช
ในยุคที่วัฒนธรรม
จากตะวันตกนั้น
จากตะวันตกนั้น
กำลังแพร่หลาย
เข้ามาในญี่ปุ่น
เข้ามาในญี่ปุ่น
โดยเบนิโอะนั้น
เธอมีความใฝ่ฝัน
ในแบบคนรุ่นใหม่
ที่อยากจะใช้ชีวิต
ที่มีความเป็นอิสระ
สามารถทำงาน
เธอมีความใฝ่ฝัน
ในแบบคนรุ่นใหม่
ที่อยากจะใช้ชีวิต
ที่มีความเป็นอิสระ
สามารถทำงาน
และเลือกเส้นทาง
ในด้านชีวิต
และความรัก
ด้วยตัวของตัวเอง
ในด้านชีวิต
และความรัก
ด้วยตัวของตัวเอง
ซึ่งจากแนวคิด
ในแบบสาวสมัยใหม่
ที่เป็นความใฝ่ฝัน
ของเบนิโอะ
ในแบบสาวสมัยใหม่
ที่เป็นความใฝ่ฝัน
ของเบนิโอะ
ดูจะไม่เป็นที่ยอมรับ
ของผู้เป็นบิดา
ที่เป็นผู้สืบทอด
มาจากตระกูล
ที่เป็นซามูไรเก่า
ผู้ซึ่งขอร้อง
ให้เบนิโอะนั้น
เข้าพิธีแต่งงาน
กับชิโนบุ
กับชิโนบุ
นายทหารม้า
หน้าตาหล่อเหลา
หน้าตาหล่อเหลา
ที่เป็นชายหนุ่ม
ผู้มีชื่อเสียง
ในวงสังคม
ผู้มีชื่อเสียง
ในวงสังคม
จากการเป็นทายาท
ในตระกูลขุนนาง
ที่ต้องการแต่งงาน
กับเบนิโอะ
ตามคำสัญญา
ของสองครอบครัว
ในตระกูลขุนนาง
ที่ต้องการแต่งงาน
กับเบนิโอะ
ตามคำสัญญา
ของสองครอบครัว
โดยแม้ว่าเบนิโอะ
จะพยายามขัดขืน
จะพยายามขัดขืน
แต่ด้วยความรัก
และความเคารพ
และความเคารพ
ในตัวบิดา
และความทระนง
ในศักดิ์ศรี
ของทางครอบครัว
และความทระนง
ในศักดิ์ศรี
ของทางครอบครัว
ทำให้เบนิโอะนั้น
ได้ตกลงใจ
ได้ตกลงใจ
ที่จะเข้าพิธีแต่งงาน
กับนายทหารหนุ่ม
กับนายทหารหนุ่ม
โดยก่อนหน้าวันวิวาห์
ของทั้งสองนั้น
เบนิโอะได้ถูกขอ
ให้เธอนั้น
เข้าไปใช้ชิวิต
และเรียนรู้มารยาท
และวิธีปฎิบัติตัว
ในการเป็นภรรยาที่ดี
ของทั้งสองนั้น
เบนิโอะได้ถูกขอ
ให้เธอนั้น
เข้าไปใช้ชิวิต
และเรียนรู้มารยาท
และวิธีปฎิบัติตัว
ในการเป็นภรรยาที่ดี
ในฐานะว่าที่เจ้าสาว
ของตระกูลผู้ดี
ของตระกูลผู้ดี
ร่วมกันกับสมาชิก
ในครอบครัว
ทุก-ทุกคน
ของตระกูลอิชุอิน
ในครอบครัว
ทุก-ทุกคน
ของตระกูลอิชุอิน
ซึ่งในช่วงเวลา
ที่ยากลำบาก
และฝืนใจนั้นเอง
ที่ยากลำบาก
และฝืนใจนั้นเอง
เบนิโอได้ะเรียนรู้
ในทุกๆอย่าง
ตามวิธีทาง
ของเธอเอง
ของเธอเอง
แม้จะขัดแย้ง
กับแนวคิด
กับแนวคิด
และความต้องการ
ที่มีของเธอ
ที่มีของเธอ
ที่อยากจะทำงาน
หาเลี้ยงตนเอง
ในแบบคนรุ่นใหม่
โดยในความใกล้ชิด
ของหนุ่มสาวทั้งสอง
หาเลี้ยงตนเอง
ในแบบคนรุ่นใหม่
โดยในความใกล้ชิด
ของหนุ่มสาวทั้งสอง
ชิโนบุประทับใจ
ในความร่าเริง สดใส
และความเป็นธรรมชาติ
ในความร่าเริง สดใส
และความเป็นธรรมชาติ
ของคู่หมั้นจอมเฮี้ยว
และเบนิโอะเอง
ก็เริ่มที่จะรู้สึก
ถึงความหวั่นไหว
ถึงความหวั่นไหว
จากความอ่อนโยน
และมีเสน่ห์
ของชิโนบุ
และมีเสน่ห์
ของชิโนบุ
แต่ความรักแท้
และความผูกพัน
ของทั้งคู่นั้น
และความผูกพัน
ของทั้งคู่นั้น
ก็ต้องมีอุปสรรค
เข้ามาขัดขวาง
เข้ามาขัดขวาง
เมื่อสงคราม
ระหว่างญี่ปุ่น
ระหว่างญี่ปุ่น
กับรัสเซีย
ได้ก่อตัวขึ้น
ได้ก่อตัวขึ้น
ทำให้นายทหาร
อย่างชิโนบุ
ถุกส่งตัวไปรบ
อย่างชิโนบุ
ถุกส่งตัวไปรบ
ยังพื้นที่อันตราย
ในแนวหน้า
ในแนวหน้า
ท่ามกลางความเสียใจ
ของเบนิโอะ
ที่ตัดสินใจ
กอบกู้ฐานะ
ของตระกูล
ผู้เป็นคู่หมั้น
ด้วยการออกไปทำงาน
ในฐานะนักข่าว
ให้กับสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง
โดยในความรู้สึกลึกๆ
ของเบนิโอะนั้น
ยังคงรอคอย
ที่ตัดสินใจ
กอบกู้ฐานะ
ของตระกูล
ผู้เป็นคู่หมั้น
ด้วยการออกไปทำงาน
ในฐานะนักข่าว
ให้กับสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง
โดยในความรู้สึกลึกๆ
ของเบนิโอะนั้น
ยังคงรอคอย
ให้ชิโนบุกลับมา
แม้ว่าจะได้ข่าว
จากทางแนวหน้า
ว่าชายหนุ่ม
ผู้เป็นคู่หมั้น
ของเธอนั้น
ได้เสียชีวิต
ในสนามรบ
ไปแล้วก็ตาม
แม้ว่าจะได้ข่าว
จากทางแนวหน้า
ว่าชายหนุ่ม
ผู้เป็นคู่หมั้น
ของเธอนั้น
ได้เสียชีวิต
ในสนามรบ
ไปแล้วก็ตาม
จากความสนุกสนาน
ของเนื้อหา
ที่เป็นเรื่องราว
ในแบบย้อนยุค
ที่นำเสนอ
แนวความคิด
ในแบบสมัยใหม่
ของหญิงสาว
ในช่วงรัชสมัยไทโช
ทำให้ในช่วงยุค 70
ถึงช่วงยุค 80
ที่ผ่านมานั้น
ผลงานการ์ตูน
ของ อ.ยามาโตะ วากิ
ในเรื่องนี้นั้น
ได้รับความนิยม
จากผู้อ่านทางบ้าน
จนได้รับการนำไปสร้าง
ในรูปแบบของสื่อบันเทิง
ที่มีความหลากหลาย
ทั้งในรูปแบบการ์ตูน
ทางโทรทัศน์
(มีการแพร่ภาพ
ทางสถานีโทรทัศน์
ช่อง ทีวี อาซาฮี
ในช่วงปี พ.ศ. 2521
ถึงปี พ.ศ. 2522
โดยนอกจากการแพร่ภาพ
ในประเทศญี่ปุ่นแล้ว
ยังมีการซื้อลิขสิทธิ์
นำไปแพร่ภาพ
ในประเทศอื่นๆ
ในแถบเอเชีย
และยุโรป
โดยสำหรับผู้ชม
ในประเทศไทยนั้น
การ์ตูนเรื่องนี้
มีการซื้อลิขสิทธิ์
นำมาแพร่ภาพ
ในรูปแบบวีดีโอ
สำหรับจำหน่าย
และให้เช่า
โดยบริษัท
วีดีโอสแควร์ จำกัด
ในช่วงกลางยุค 80)
ละครเวที
ละครโทรทัศน์
(มีการสร้าง
ในรูปแบบ
ของละครโทรทัศน์
ในแบบตอนเดียวจบ
ทางช่อง KTV
ในช่วงปี พ.ศ. 2522
ทางช่อง FUJI TV
ในช่วงปี พ.ศ. 2528
ทางช่อง TBS
ในช่วงปี พ.ศ. 2545)
นอกจากนี้
ยังมีการสร้าง
ในรูปแบบ
ของภาพยนตร์
ซึ่งนำแสดง
โดย Yoko Minamino
ดาราวัยรุ่นชื่อดัง
ในขณะนั้น
มารับบทบาท
เป็นเบนิโอะ
ร่วมกับ Hiroshi Abe
นายแบบชื่อดัง
ที่เป็นผู้รับบทบาท
เป็นชิโนบุ
จากการสร้าง
โดยบริษัท Toei
ซึ่งมีการเปิดตัว
ต่อสื่อมวลชน
และเข้าฉาย
ในโรงภาพยนตร์
ที่ประเทศญี่ปุ่น
ในช่วงปี พ.ศ. 2530
ซึ่งการสร้าง
ในรูปแบบภาพยนตร์
ในครั้งนี้นั้น
ถือเป็นการนำ
การ์ตูนเรื่องนี้
มาสร้างใหม่
ในรูปแบบนักแสดง
ที่ประสบความสำเร็จ
และได้รับความนิยม
รวมถึงเป็นที่จดจำ
จากผู้ชม
มากที่สุด
หากเทียบกัน
กับการสร้าง
ในรูปแบบ
ของละครโทรทัศน์
และละครเวที
ในครั้งอื่นๆ
สำหรับผู้อ่าน
ในประเทศไทย
จากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ผลงานการ์ตูน
สำหรับผู้หญิง
เรื่อง Haikara-san ga Toru
ของ อ.ยามาโตะ วากิ
ได้รับการแปล
และนำมาจัดพิมพ์
ในประเทศไทย
เป็นครั้งแรก
ด้วยชื่อเรื่อง
ในภาษาไทย
ว่า สงครามกับความรัก
ซึ่งเป็นการจัดพิมพ์
ในรูปแบบ
ของการ์ตูน
จำนวน 12 เล่มจบ
(มีราคา 10 บาท
ต่อหนึ่งฉบับ)
ซึ่งเป็นการจัดพิมพ์
ในแบบไม่มีลิขสิทธิ์
โดย UFO GANG
สำนักพิมพ์บางกอกสาส์น
ออกมาวางจำหน่าย
ในช่วงต้นยุค 80
ซึ่งหลังจากการจัดพิมพ์
ในประเทศไทย
เป็นครั้งแรก
ในแบบไม่มีลิขสิทธิ์นี้
ในช่วงเวลา
ที่ใกล้เคียงกัน
ทางสำนักพิมพ์
สยามสปอร์ตพรินติ้ง
ก็ได้มีการแปล
และจัดพิมพ์
ผลงานการ์ตูน
ในเรื่องนี้
โดยใช้ชื่อเรื่อง
ในภาษาไทย
ว่า รักอลเวง
และมีการจัดพิมพ์
ในรูปเล่มสวยงาม
ออกมาวางจำหน่าย
เป็นการแข่งขันกัน
นอกจากนี้
ในช่วงปลายยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
ทางสำนักพิมพ์
Candy Group
ได้นำผลงานเรื่องนี้
นำกลับมาแปล
และจัดพิมพ์ใหม่
ในรูปแบบรวมเล่ม
ขนาด 2 เล่มจบ
(มีราคา 50 บาท
ต่อหนึ่งฉบับ)
โดยใช้ชื่อใหม่
ในการตั้งชื่อ
ฉบับภาษาไทย
ในการจัดพิมพ์ครั้งนี้
ว่า เปลวรักเพลิงสงคราม
ซึ่งในการจัดพิมพ์
ในรูปแบบรวมเล่ม
ที่มีขนาดใหญ่
ในครั้งนี้นั้น
ก็ยังคงเป็นการแปล
และจัดพิมพ์
ในแบบไม่มีลิขสิทธิ์
เช่นเดียวกัน
กับการจัดพิมพ์
ในครั้งแรก
ซึ่งหลังจากนั้น
ในปี พ.ศ. 2555
ที่ผ่านมานี้
ทางสำนักพิมพ์
สยามอินเตอร์คอมมิกส์
ได้มีการซื้อลิขสิทธิ์
ผลงานการ์ตูน
หลาย-หลายเรื่อง
ของ อ.ยามาโตะ วากิ
นำมาแปล
และจัดพิมพ์ใหม่
ในแบบมีลิขสิทธิ์
ซึ่งในการจัดพิมพ์
Haikara-san ga Toru
ในชื่อภาษาไทย
ว่า สงครามกับความรัก
ตามแบบการจัดพิมพ์
ในครั้งแรกสุด
ซึ่งมีคุณวิชัย ลิ้มศิริโพธิ์ทอง
เป็นบรรณาธิการ
คุณปริญญา ทรงฤทธิ์
คุณศุภชัย ศรีพันธุ์
เป็นผู้เรียบเรียง
ซึ่งมีการจัดพิมพ์
และวางจำหน่าย
ในรูปแบบลิขสิทธิ์
จำนวน 8 เล่มจบ
(ตามแบบรูปเล่ม
ในประเทศญี่ปุ่น)
ออกมาวางจำหน่าย
ในช่วงปี พ.ศ. 2555
เป็นต้นมานั้น
ผู้เขียนบลอกเชื่อว่า
เป็นการจัดพิมพ์
ในแบบรวมเล่ม
ที่มีความสมบูรณ์
มากที่สุด
ตั้งแต่ผลงาน
การ์ตูนเรื่องนี้
ของ อ.ยามาโตะ วากิ
เป็นที่รู้จักของผู้อ่าน
ที่เป็นชาวไทย
ตั้งแต่ในช่วงยุค 80
เป็นต้นมา