บาปรัก (1999)

เพียงชายคนนี้...ไม่ใช่ผู้วิเศษ

ในปี พ.ศ. 2542

สถานีโทรทัศน์ช่อง 5

ร่วมกับบริษัท

เอ็กแซ็กท์ จำกัด

โดย ถกลเกียรติ วีรวรรณ

เสนอละครโทรทัศน์

แนว ชีวิต / โรแมนติก

เรื่อง บาปรัก

โดยเป็นการสร้าง

เป็นละครโทรทัศน์

จากบทโทรทัศน์

โดย กษิดินทร์ แสงวงศ์

กำกับการแสดง

และอำนวยการผลิต

โดย ถกลเกียรติ วีรวรรณ

เพลงประกอบละครโทรทัศน์

เพลง เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ)

ขับร้องโดย สุเมธ องอาจ

เพลง ผิดด้วยหรือ

ขับร้องโดย คริสติน่า อากีล่าร์

ละครโทรทัศน์

เรื่อง บาปรัก

ออกอากาศ

เป็นครั้งแรก

ในทุกวันศุกร์

เสาร์และอาทิตย์

เวลา 20.15 น.

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5

ในช่วงปี พ.ศ. 2542

ละครโทรทัศน์

เรื่อง บาปรัก

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2542

นำแสดงโดย ภูธเนศ หงษ์มานพ

รับบท มนุชญ์

ชายหนุ่มรูปหล่อ

รูปร่างสูงใหญ่

และมีบุคลิกดี

ที่มีเสน่ห์

จากความสุภาพ

และอ่อนโยน

มีความเข้าใจ

ในตัวของผู้อื่น

ซึ่งจากการที่เขา

เป็นผู้รับภาระ

ในทุก-ทุกด้าน

ภายในครอบครัว

จากการที่มารดา

ซึ่งเจ็บป่วย

ต้องใช้เงิน

อย่างมากมาย

ในการรักษาตัว

ก็ทำให้ชายหนุ่ม

ผู้มีงานประจำ

เป็นพนักงานขาย

ในร้านเสื้อผ้า

สำหรับสตรี

อย่างตัวเขานั้น

มีฉากหลัง

ของชีวิต

ในการทำงาน

เป็นผู้ชาย

ขายบริการ

ที่มอบความสุข

ในแบบชั่วคราว

ให้กับผู้หญิง

ที่มีฐานะดี

ในสังคมชั้นสูง

ซึ่งต้องการ

ความสนุกสนาน

และผ่อนคลาย

ในแบบไม่ผูกมัด

สินจัย เปล่งพานิช

รับบท กิรนันท์

หญิงสาวสวย

ในวัยสามสิบหก

ผู้เป็นภรรยา

ของเลอยศ

นักธุรกิจใหญ่

ที่มีชื่อเสียง

ในวงสังคม

ซึ่งจากการเติบโต

มาในครอบครัว

ที่เป็นผู้ดีเก่า

และมีฐานะ

ที่ร่ำรวย

และเพียบพร้อม

ก็ทำให้กิรนันท์

ที่ได้รับการอบรม

และวางกฎเกณฑ์

ในการใช้ชีวิต

จากทางครอบครัว

เติบโตขึ้นมา

เป็นหญิงสาว

ที่เพียบพร้อม

ทั้งหน้าตา ฐานะ

ความรู้ การวางตัว

แต่ภายในจิตใจ

ของเธอนั้น

กลับเป็นหญิงสาว

ที่มีแต่ความอ่อนแอ

และไม่มีความมั่นใจ

ในตัวเอง

นพพล โกมารชุน

รับบท เลอยศ

นักธุรกิจหนุ่มใหญ่

ที่มีความสามารถ

และมีชื่อเสียง

ในแวดวงธุรกิจ

ของประเทศไทย

ผู้เป็นสามี

ที่เพียบพร้อม

ของกิรนันท์

โดยแม้ฉากหน้า

ของวงสังคม

ทั้งเลอยศ

และกิรนันท์นั้น

จะเป็นสามี-ภรรยา

ที่มีความเหมาะสมกัน

ทั้งในด้านฐานะ

หน้าตา ความรู้

และพื้นฐาน

ของครอบครัว

แต่ในเบื้องลึก

ของความเป็นจริง

ที่คนภายนอก

ไม่เคยรับรู้นั้น

เขากลับเป็นสามี

ผู้มีแต่ความเลวร้าย

จากการเป็นคนเห็นแก่ตัว

ทะเยอทะยาน อารมณ์ร้าย

และมักจะใช้กำลัง

ในการทำร้าย

ผู้เป็นภรรยา

อย่างกิรนันท์

ในยามที่ไม่พอใจ

หรือมีความเครียด

จากการทำงาน

อยู่เสมอ

พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ

รับบท สุนัยนา

หญิงสาวสวย

ผู้ฉลาดเฉลียว

เจ้าเล่ห์และมีเสน่ห์

จากความเย้ายวน

ซึ่งจากความโลภ

และทะเยอทะยาน

ทำให้สุนัยนา

ผู้มีเป้าหมาย

ในตัวเลอยศ

อยู่ภายในใจ

จากการเข้ามา

เพื่อทำงาน

ในการเป็นเลขาฯ

ก็ได้ตัดสินใจ

ที่จะปล่อยตัว

จนมีความสัมพันธ์

ในแบบที่เกินเลย

กับผู้เป็นเจ้านาย

ซึ่งจากความฉลาด

ในการทำงาน

และการวางตัว

ของสุนัยนา

ที่ไม่ไปก้าวก่าย

กับกิรนันท์

ผู้เป็นภรรยา

ในบ้านใหญ่

ก็ทำให้เลอยศ

ซึ่งมีนิสัย

ที่เอาแต่ใจ

และเข้มงวด

มีความพอใจ

ในตัวหญิงสาว

ผู้นี้อย่างมาก

โดยนอกจากนักแสดง

ในบทบาท

ดังกล่าวแล้ว

ละครโทรทัศน์

เรื่อง บาปรัก

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2542

ยังมีนักแสดงชั้นนำ

อีกมากมาย

ที่มาร่วมแสดง

และสร้างสีสัน

ความสนุกสนาน

ให้กับละครโทรทัศน์

ในเรื่องนี้

เช่น ภูบดินทร์ ภู่สุวรรณ

รับบท ท๊อป

โสมสรินทร์ พุกประยูร

รับบท มนชยา

ทัตพงศ์ พงศ์ทัต

รับบท ภูมิชาติ

นัฏฐา ลอยด์

รับบท พัชราภรณ์

ทองขาว ภัทรโชคชัย

รับบท พรเทพ

รัญญา ศิยานนท์

รับบท ลลิตา

พศิน เรืองวุฒิ

รับบท แมน

สมภพ เบญจาธิกุล

รับบท ทนายความ

อำภา ภูษิต

รับบท มธุรส

ศิรินุช เพ็ชรอุไร

รับบท บรรจง

เฉลา ประสพศาสตร์

รับบท ป้านวล

นภาพร หงสกุล

รับบท ป้ายุ

และนักแสดงพิเศษ

ศานติ สันติเวชกุล

เพ็ญพักตร์ ศิริกุล

ธิตินันท์ ชุ่มภาณี

ให้เกียรติร่วมแสดง

ในบทบาทรับเชิญ

ละครโทรทัศน์

เรื่อง บาปรัก

จากบทโทรทัศน์

โดย กษิดินทร์ แสงวงศ์

เป็นเรื่องราวชีวิต

และความรัก

ของกิรนันท์

หญิงสาวสวย

ในวัยสามสิบกว่า

ผู้มีความเพียบพร้อม

ทั้งในด้านรูปโฉม

ฐานะ ความรู้

แต่กลับไม่มีความสุข

ภายในชีวิตสมรส

จากการที่เลอยศ

นักธุรกิจใหญ่

ผู้เป็นสามี

ของเธอนั้น

ได้นอกใจ

ไปมีความสัมพันธ์

ในแบบลับๆ

กับสุนัยนา

ผู้เป็นเลขาฯ

รวมถึงมักจะใช้กำลัง

ในการบังคับ

และทำร้ายร่างกาย

เพื่อเป็นการกดขี่

และบงการชีวิต

ของผู้เป็นภรรยา

ให้อยู่ใต้อาณัติ

และคำสั่ง

ของตัวเขาเสมอ

ซึ่งจากทุกข์

และบอบช้ำ

ทั้งทางร่างกาย

และภายในจิตใจ

จากชีวิตสมรส

ที่ไม่มีความสุข

ก็ทำให้กิรนันท์

ที่เป็นคนอ่อนแอ

และไม่มีเพื่อน

มากมายนัก

มักจะไปปรับทุกข์

กับพัชราภรณ์

หรือ พัช

ผู้เป็นเพื่อนสนิท

ซึ่งเป็นเจ้าของ

กิจการร้านเสื้อผ้า

สำหรับสตรี

ในห้างสรรพสินค้า

ที่มีหลายสาขา

ซึ่งจากการไปพบ

เพื่อเป็นการพูดคุย

กับผู้เป็นเพื่อนสนิท

อยู่บ่อยครั้ง

ก็ทำให้กิรนันท์

ได้ทำความรู้จัก

กับมนุชญ์

ที่ทำงานประจำ

เป็นพนักงานขาย

อยู่ภายในร้าน

ซึ่งเป็นชายหนุ่ม

ที่มีหน้าตาหล่อเหลา

และเป็นคนอ่อนโยน

ซึ่งจากการช่วยเหลือ

ของชายหนุ่ม

ในเหตุการณ์

ที่กิรนันท์

ซึ่งมีสุขภาพ

ที่อ่อนแอ

ได้เป็นลม

ในลานจอดรถ

ก็ทำให้ทั้งสอง

ได้มีโอกาส

ในการพูดคุย

อย่างเปิดใจ

ในแบบส่วนตัว

เป็นครั้งแรก

ที่ร้านอาหาร

ภายในห้างสรรพสินค้า

ซึ่งชายหนุ่มนั้น

ทำงานอยู่

จากความรู้สึก

ที่มีความสบายใจ

และประทับใจ

ในการพูดคุย

กับมนุชญ์

อย่างที่เธอนั้น

ไม่เคยรู้สึก

กับใครมาก่อน

ก็ทำให้กิรนันท์

ผู้มีความอึดอัด

ในชีวิตสมรส

ได้พาตัวเอง

กลับมาพบ

และพูดคุย

กับชายหนุ่ม

ที่มีอายุน้อยกว่า

อย่างมนุชญ์

อีกหลายครั้ง

ซึ่งจากการได้พบ

และพูดคุย

จากเหตุการณ์

ที่กิรนันท์

เข้าไปเกี่ยวข้อง

และได้รับรู้

ถึงความเจ็บป่วย

ของมธุรส

ผู้เป็นมารดา

ของมนุชญ์

ก็ทำให้กิรนันท์

รู้สึกชื่นชม

จากการค้นพบ

ว่าในตัวตน

ของชายหนุ่ม

ที่มีหน้าตา

ที่หล่อเหลา

และมีบุคลิก

ที่สุภาพ เรียบร้อย

อย่างมนุชญ์นั้น

เขายังเป็นชายหนุ่ม

ที่มีความน่าชื่นชม

จากความกตัญญู

และรักครอบครัว

จากการที่ตัวเขา

ได้พยายามทำงาน

และเป็นผู้รับภาระ

ในด้านค่าใช้จ่าย

ในทุก-ทุกด้าน

ของผู้เป็นมารดา

และน้องสาว

แทนผู้เป็นบิดา

ที่ได้เสียชีวิต

จากครอบครัวไป

ซึ่งจากความทุกข์

และความอึดอัด

กับการใช้ชีวิต

อยู่ในครอบครัว

ของเลอยศ

ผู้เป็นสามี

ที่อารมณ์ร้าย

และชอบกดขี่

ทำร้ายร่างกาย

และลลิตา

ผู้เป็นน้องสาว

ของสามี

ซึ่งเป็นหญิงสาว

ที่มีจิตใจคับแคบ

และเห็นแก่ตัว

อย่างร้ายกาจ

ไม่แตกต่าง

จากผู้เป็นพี่ชาย

ก็ทำให้ความรู้สึก

ของผู้หญิง

ที่แต่งงานแล้ว

อย่างกิรนันท์นั้น

ได้โอนเอียง

และเริ่มมีใจ

ให้กับมนุชญ์

ผู้เป็นชายหนุ่ม

ที่มีอายุน้อยกว่า

ซึ่งมีความลับ

ในบางแง่มุม

ของตัวตน

ที่เธอเองนั้น

ยังไม่ได้รับรู้

และยังไม่เข้าใจ

ในการทำงาน

อีกด้านหนึ่ง

ของตัวเขา

อย่างถ่องแท้