ในปี พ.ศ. 2538
สถานีโทรทัศน์ช่อง 7
ร่วมกับบริษัท
ดาราวิดีโอ จำกัด
เสนอละครโทรทัศน์
แนว ชีวิต
อิงประวัติศาสตร์
เรื่อง สายโลหิต
ซึ่งเป็นการสร้าง
เป็นละครโทรทัศน์
จากบทประพันธ์
โดย โสภาค สุวรรณ
นำมาดัดแปลง
เป็นบทโทรทัศน์
โดย ศัลยา
และกำกับการแสดง
โดย สยาม สังวริบุตร
เพลงประกอบละครโทรทัศน์
เพลง สายโลหิต
ประพันธ์คำร้อง
และทำนอง
โดย สุทธิพงษ์ วัฒนจัง
เรียบเรียงดนตรี
โดย ธนิต เชิญพิพัฒนสกุล
ขับร้องโดย สุทธิพงษ์ วัฒนจัง
ละครโทรทัศน์
เรื่อง สายโลหิต
ออกอากาศ
เป็นครั้งแรก
ในทุกวันศุกร์
เสาร์ อาทิตย์
เวลา 20.45 น.
ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7
ในช่วงปี พ.ศ. 2538
ถึงในปี พ.ศ. 2539
(มีการเริ่มต้น
การออกอากาศ
เป็นครั้งแรก
วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538
และออกอากาศ
ในตอนสุดท้าย
วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2539)
ละครโทรทัศน์
เรื่อง สายโลหิต
ฉบับการสร้าง
ในปี พ.ศ. 2538
ถึงในปี พ.ศ. 2539
นำแสดงโดย ศรราม เทพพิทักษ์
รับบท ขุนไกร
ชายชาติทหาร
ผู้มีความกล้าหาญ
และเสียสละ
ซึ่งมีความมุ่งมั่น
ในการปกปัก
รักษาบ้านเมือง
ซึ่งอยู่ในช่วงเวลา
แห่งความคับขัน
และระส่ำระสาย
โดยในแง่ชีวิต
และจิตใจ
ที่เป็นส่วนตัว
เขามีความรักแท้
ซึ่งมีมอบให้
กับแม่หญิงดาวเรือง
ซึ่งเป็นหญิงสาว
หน้าตางดงาม
และฉลาดเฉลียว
ซึ่งเขารู้จัก
และให้ความเอ็นดู
ในตัวเธอ
ตั้งแต่พบกัน
เป็นครั้งแรก
ในขณะที่ดาวเรืองนั้น
ยังคงอยู่ในช่วงวัยเยาว์
สุวนันท์ คงยิ่ง
รับบท ดาวเรือง
หญิงสาวงดงาม
ซึ่งมีไหวพริบ
และความฉลาดเฉลียว
ผู้เป็นบุตรสาว
ของพระสุวรรณราชา
ซึ่งจากการมีชีวิต
และเติบโต
อยู่ในช่วงเวลา
ที่มีความคับขัน
ในช่วงปลาย
ของสมัยกรุงศรีอยุธยา
ก็ทำให้ดาวเรืองนั้น
เป็นหญิงสาว
ที่มีความเข้มแข็ง
และอดทน
จากการต้องพบพาน
เรื่องราวต่างๆ
ที่ถาโถม
เข้ามาในชีวิต
ของเธอ
และครอบครัว
อย่างมากมาย
ศตวรรษ ดุลยวิจิตร
รับบท หมื่นทิพเทศา
ชายหนุ่มรูปหล่อ
ผู้มีอุปนิสัย
เป็นคนเอาแต่ใจ
ขี้ขลาด หยิบโหย่ง
และเป็นชายหนุ่ม
ผู้มีความเจ้าชู้
และมักมาก
ในด้านเพศรส
จากอิสตรี
ซึ่งจากชื่อเสียง
และการวางตัว
ที่ไม่สู้ดีนัก
จากการหมายปอง
ในตัวแม่หญิงเยื้อน
ผู้เป็นน้องสาว
ของขุนไกร
ก็ทำให้ชีวิต
ของเขา
และขุนไกร
ต้องมาเกี่ยวพัน
และขัดแย้งกัน
ในทุกด้าน
มากยิ่งขึ้น
รับบท แม่หญิงเยื้อน
หญิงสาวสวย
ผู้อ่อนหวาน
และบริสุทธิ์
ผู้เป็นน้องสาว
ของขุนไกร
ซึ่งจากความรัก
และการตัดสินใจ
ที่จะใช้ชีวิต
อยู่ร่วมกัน
กับหมื่นทิพเทศา
ผู้เป็นชายหนุ่ม
ที่มักมาก
ในด้านอิสตรี
ก็ทำให้เธอนั้น
ต้องพบพาน
กับปัญหา
จากความทุกข์ใจ
ในความเจ้าชู้
และเห็นแก่ตัว
ของผู้เป็นสามี
โดยนอกจากนักแสดง
ในบทบาท
ดังกล่าวแล้ว
ละครโทรทัศน์
เรื่อง สายโลหิต
ฉบับการสร้าง
ในปี พ.ศ. 2538
ถึงในปี พ.ศ. 2539
ยังมีนักแสดงชั้นนำ
อีกมากมาย
ที่มาร่วมแสดง
และสร้างสีสัน
ให้กับละครโทรทัศน์
ในเรื่องนี้
เช่น มาฬิศร์ เชยโสภณ
รับบท หลวงเสนาสุรภาค
มานพ อัศวเทพ
รับบท พระยาพลเทพ
สรพงษ์ ชาตรี
รับบท พระสุวรรณราชา
กรุง ศรีวิไล
รับบท พระยายมราช
สยาม สังวริบุตร
รับบท มังมหานรธา
อภิชาติ หาลำเจียก
รับบท พระยาสีห์ราชภักดี
ดวงดาว จารุจินดา
รับบท ดาวเรือง (วัยกลางคน)
ปนัดดา โกมารทัต
รับบท คุณหญิงปริก
ศิริ ศิริจินดา
รับบท อาจารย์ดาบ
ธัญญรัตน์ โลหะนันท์
รับบท คุณหญิงศรีนวล
ธนา สินประสาธน์
รับบท ขุนรองปลัดชู
กัญญารัตน์ จิรรัชกิจ
รับบท เจ้าจอมแม้น
พร้อมพงษ์ นพฤทธิ์
รับบท พระยาพิริยะแสนพลพ่าย
บรรเจิดศรี ยมาภัย
รับบท ย่านิ่ม
เมตตา รุ่งรัตน์
รับบท ทับ
เยาวเรศ นิสากร
รับบท อิ่ม
กชกร นิมากรณ์
รับบท ลำดวน
เอกพัน บรรลือฤทธิ์
รับบท หลวงเทพฤทธิ์อริศัตรูพ่าย
ทองขาว ภัทรโชคชัย
รับบท พันสิงห์
กล้วย เชิญยิ้ม
รับบท ทับ
วรเชษฐ์ นิ่มสุวรรณ
รับบท มิ่ง
รุ่งรัตน์ ดวงขวัญ
รับบท พวง
ยุวดี เรืองฉาย
รับบท เยื้อน
ฉันทนา กิติยพันธ์
รับบท เยื้อน (วัยชรา)
ด.ญ.มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์
รับบท ดาวเรือง (วัยเด็ก)
ละครโทรทัศน์
เรื่อง สายโลหิต
จากบทประพันธ์
โดย โสภาค สุวรรณ
เป็นเรื่องราวชีวิต
และความรัก
ของดาวเรือง
ซึ่งเป็นสตรี
ที่เกิด
และเติบโต
ในช่วงปลาย
ของสมัยกรุงศรีอยุธยา
โดยเรื่องราว
ได้เริ่มต้นขึ้น
ในช่วงปี พ.ศ. 2301
ขณะที่ดาวเรืองนั้น
มีอายุ 10 ปี
ซึ่งจากการที่ลำดวน
ผู้เป็นพี่สาว
ของดาวเรือง
ได้เข้าพิธีแต่งงาน
กับหลวงเทพฤทธิ์อริศัตรูพ่าย
ผู้เป็นบุตรชาย
ของพระยาพิริยะแสนพลพ่าย
และคุณหญิงศรีนวล
ก็ทำให้ดาวเรืองนั้น
ได้ทำความรู้จัก
และเกี่ยวดอง
กับขุนไกร
ผู้เป็นน้องชาย
ของพี่เขย
ซึ่งจากความน่ารัก
และฉลาดเฉลียว
ช่างเจรจา
มีความน่าเอ็นดู
ของดาวเรือง
รวมถึงการเข้าไปพัวพัน
กับการส่งเพลงยาว
ของหมื่นทิพเทศา
ให้กับแม่หญิงเยื้อน
ผู้เป็นน้องสาว
ของขุนไกร
ก็ยิ่งทำให้ขุนไกร
และดาวเรือง
มีความสนิทสนม
และประทับใจ
ในกันและกัน
จนเกิดเป็นความรัก
และความผูกพัน
เมื่อดาวเรืองนั้น
ได้เติบโตขึ้น
ซึ่งจากการที่ทั้งสอง
ต่างมีช่วงชีวิต
อยู่ในช่วงเวลา
ที่บ้านเมือง
มีความคับขัน
ระส่ำระสาย
ก็ทำให้ขุนไกร
และดาวเรือง
ต้องพบพาน
กับเรื่องราว
และความเปลี่ยนแปลง
ของบ้านเมือง
ที่ได้ถาโถม
เข้ามาในชีวิต
ของทั้งสอง
อย่างมากมาย