ถึงช่วงต้นยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
อ.อาซากิริ ยู
ถือเป็นศิลปิน
นักเขียนการ์ตูน
จากประเทศญี่ปุ่น
ที่ผลงานการ์ตูน
สำหรับผู้หญิง
ในเรื่องต่างๆ
ของนักเขียนท่านนี้
ล้วนแต่เป็นที่ชื่นชอบ
ของผู้อ่านชาวไทย
โดยการ์ตูน
เรื่อง มายาสีรุ้ง
ที่นำมาบันทึกไว้
ในบทความครั้งนี้
ถือเป็นการ์ตูนสุดฮิต
ที่ได้รับความนิยม
จากผู้อ่านชาวไทย
อีกเรื่องหนึ่ง
ในช่วงปลายยุค 80
ที่ผ่านมา
สำหรับผู้อ่านบลอก
ที่ไม่ได้เติบโต
มาในช่วงยุค 80
หรือไม่ได้ติดตาม
การ์ตูนสำหรับผู้หญิง
ผลงานการ์ตูน
เรื่อง มายาสีรุ้ง
เป็นผลงานการ์ตูน
ที่ได้รับการแปล
มาจากการ์ตูน
เรื่อง Nana Iro Majikku
หรือ Seven Colors Magic
ของ อ.อาซากิริ ยู
ที่มีการตีพิมพ์
เป็นครั้งแรก
ในนิตยสารการ์ตูน
สำหรับผู้หญิง
ที่ออกวางจำหน่าย
ในรูปแบบรายเดือน
ชื่อ นากาโยชิ
ซึ่งเป็นนิตยสาร
ของสำนักพิมพ์โคดันฉะ
ประเทศญี่ปุ่น
ที่มีการเริ่มตีพิมพ์
ในช่วงปี พ.ศ. 2530
ซึ่งจากความดีเด่น
ของการ์ตูนเรื่องนี้
ทำให้ อ.อาซากิริ ยู
ได้รับรางวัล
ในประเภท
การ์ตูนสำหรับผู้หญิง
จากการประกาศรางวัล
Kodansha Manga Award
ประจำปี พ.ศ. 2530
ที่มีการจัดขึ้น
อย่างต่อเนื่อง
โดยบริษัทโคดันฉะ
สำหรับในรูปแบบ
ของการแปล
ในภาษาไทย
การ์ตูนสำหรับผู้อ่าน
ที่เป็นผู้หญิง
ในเรื่องนี้นั้น
ในช่วงก่อนกฎหมาย
ในด้านลิขสิทธิ์
ในช่วงปี พ.ศ. 2533
การ์ตูนฮิตเรื่องนี้
เคยได้รับการแปล
และมีการตีพิมพ์
เพื่ออกวางจำหน่าย
ในประเทศไทย
ในช่วงปี พ.ศ. 2530
โดยบริษัท ยอดธิดา
ที่ใช้ชื่อเรื่อง
ในภาษาไทย
ว่า มายาสีรุ้ง
และบริษัท วิบูลย์กิจ
ที่ใช้ชื่อเรื่อง
ในภาษาไทย
ว่า เลขรักพิศดาร
(มีการตีพิมพ์
ให้ทันต้นฉบับ
ของประเทศญี่ปุ่น
ด้วยการแปล
และนำมาลง
ในกิฟท์ แมกกาซีน
ก่อนจะมีการรวมเล่ม
ออกมาวางจำหน่าย
ในภายหลังอีกครั้ง)
โดยจากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
การ์ตูนสำหรับผู้หญิง
เรื่อง มายาสีรุ้ง
ถือเป็นผลงาน
การ์ตูนฮิต
ที่อยู่ในกลุ่มผลงาน
ในช่วงแรก
ที่มีความโดดเด่น
ของ อ.อาซากิริ ยู
ซึ่งสำหรับผู้อ่าน
ที่เป็นชาวไทยนั้น
โดยนอกจากการ์ตูน
เรื่อง มายาสีรุ้ง
ที่นำมาบันทึกไว้
ในบทความครั้งนี้
อ.อาซากิริ ยู
ยังเป็นที่จดจำ
ในช่วงยุค 80
ถึงช่วงต้นยุค 90
จากการมีผลงานฮิต
ในเรื่องอื่นๆ
อย่าง แอปเปิ้ล ดรีม
ผจญภัยในความรัก
มินมิน ไอ บอย
บันทึกรักดอกทานตะวัน
ภาพถ่ายวันเรียนจบ ฯลฯ
ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
ในกลุ่มผู้อ่านชาวไทย
สำหรับผู้อ่านบลอก
ที่สนใจในงานเขียน
ของ อ.อาซากิริ ยู
ในเรื่องอื่นๆ
ในปัจจุบัน
ของ อ.อาซากิริ ยู
ยังคงมีผลงาน
ในการเขียนการ์ตูน
ที่ประเทศญี่ปุ่น
ให้ได้ติดตามอ่านกัน
อย่างต่อเนื่อง
มาจนถึงในปัจจุบันนี้
แต่แนวทางการเขียน
ของอาจารย์ท่านนี้
ในปัจจุบันนั้น
จะมีเนื้อเรื่อง
ที่มีความหวือหวา
และมีความเป็นผู้ใหญ่
แตกต่างจากในอดีต
ที่ผลงานการ์ตูน
ของนักเขียนท่านนี้
จะเน้นในความสดใส
และบริสุทธิ์ อ่อนหวาน
เหมาะกับผู้อ่าน
ที่เป็นเด็กผู้หญิง
ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
ของนิตยสารการ์ตูน
อย่าง นากาโยชิ
ที่ท่านเขียนประจำ
ในช่วงยุค 80
สำหรับเนื้อหา
และเรื่องราวหลัก
ของการ์ตูน
เรื่อง มายาสีรุ้ง
ของ อ.อาซากิริ ยู
ที่นำมาแปล
และเรียบเรียง
ในภาษาไทย
โดย ต้นข้าว
จากการตีพิมพ์
และจัดจำหน่าย
ของบริษัท ยอดธิดา
ในช่วงก่อนยุคกฎหมาย
ในด้านลิขสิทธิ์นั้น
เป็นเรื่องราวความรัก
และการเลือก
เส้นทางชีวิต
ของกลุ่มเด็กวัยรุ่น
ในช่วงช้นมัธยม
ผ่านการฝึกฝน
ในด้านการเต้นรำ
การร้องเพลง
และการแสดง
ในด้านละครเวที
โดยตัวละครหลัก
ของการ์ตูน
เรื่อง มายาสีรุ้ง
คือ ไซโต้ นานาโกะ
เด็กสาวร่าเริง
ท่าทางคล่องแคล่ว
พุดจาโผงผาง
ที่เป็นสมาชิก
ของชมรมวอลเลย์บอล
และชมรมคหกรรม
จากความสนิทสนม
กับ โคบายาชิ คาซึกิ
เด็กหนุ่มผู้ร่าเริง สดใส
ที่รักในการเต้นรำ
ทำให้เธอได้ค้นพบ
ในพรสวรรค์
ในการเต้นรำ
และการแสดง
ของตนเอง
ภายใต้การผลักดัน
ของ มิเชล
นักเต้น ผู้กำกับ
โปรดิวเซอร์ชื่อดัง
ชาวฝรั่งเศส
และ ฟูจิมูระ เรียว
นักแสดงหนุ่มหล่อ
ที่เป็นทายาท
ของศิลปินคาบูกิ
ประธานชมรมการแสดง
ที่พบในพรสวรรค์
ในด้านการแสดง
และการเต้นรำ
รวมถึงตัวตนที่แท้จริง
ที่มีความอ่อนโยน
ของนานาโกะ
ที่ได้ปิดบังไว้
ด้วยท่าทีแข็งแกร่ง
ไม่กลัวใครของเธอ
มิเชลและฟูจิมูระ
ได้บอกและย้ำเตือน
ให้นานาโกะนั้น
มีความเชื่อมั่น
ในความสามารถ
และพรสวรรค์
ที่มีของตนเอง
และได้ย้ำเตือน
ว่าเธอเองนั้น
ไม่มีอะไรที่ด้อย
กว่า อาอิโมโตะ ยูริ
นักร้องขวัญใจวัยรุ่น
ผู้น่ารัก อ่อนหวาน
และมีจิตใจที่ดี
เป็นที่รักของทุกคน
ซึ่งเธอถูกเปรียบเทียบ
มาตั้งแต่ยังเล็ก
จากการเป็นฝาแฝด
ที่มีนิสัยและบุคลิก
ไม่เหมือนกัน
สักเท่าไหร่นัก
โดยแม้ว่านานาโกะ
จะรักและห่วงใย
ในตัวพี่สาวฝาแฝด
ที่อ่อนหวาน น่ารัก
และดีกับเธอเสมอ
แต่ในความรู้สึกลึกๆ
ของนานาโกะเองนั้น
กลับมีแต่ความรู้สึก
ที่ไม่มั่นใจในตัวเอง
และเกิดเป็นปมด้อย
มาตั้งแต่ยังเล็ก
จากการถูกผู้ใหญ่
หลาย-หลายคน
เปรียบเทียบเธอ
กับผู้เป็นพี่สาว
ที่น่ารัก อ่อนหวาน
เหมือนกับนางฟ้า
มาโดยตลอด
จากการสนับสนุน
ของผู้จัดการ
ของยูริ
ที่มีความต้องการ
ให้คาซึกิ
ที่มีความหลงใหล
ในการเต้นรำ
เข้าสู่วงการบันเทิง
ในฐานะนักร้อง
ขวัญใจวัยรุ่น
ทำให้คาซึกิ
ได้เริ่มต้นการทำงาน
ด้วยการเป็นนักเต้น
ในงานละครเวที
ที่มีดาราดัง
อย่างยูริ
มาเป็นตัวเอก
จากการสนับสนุน
ให้คาซึกิและยูริ
มีความสนิทสนมกัน
เพื่อสร้างข่าว
ทำให้นานาโกะ
ล่วงรู้ถึงความรู้สึก
ของตนเอง
ว่าเธอมีความรัก
มอบให้คาซึกิ
มากกว่าความเป็นเพื่อน
โดยในการแสดง
และเป็นตัวแทน
ให้กับยูริ
ในฉากการเต้นรำ
ทำให้นานาโกะ
ที่เข้าไปฝึกซ้อม
กับคาซึกิ
ได้พบกับ B
นักเต้นข้างถนน
ที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม
คิลเลอร์คลับ
ซึ่งมักไปรวมกลุ่ม
เพื่อการเต้นรำ
ที่ฮาราจูกุ
ในทุกวันอาทิตย์
จากการได้พบ
กับนักเต้นรำ
อย่างบี
ที่มีบุคลิก นิสัย
ที่มีความดุดัน
แข็งกร้าว ทระนงตน
รักในการเต้นรำ
และมีความเชื่อมั่น
ในความสามารถ
ของตนเอง
จากความหลงใหล
ในการเต้นรำ
อย่างแรงกล้า
รวมถึงความสนุกสนาน
ในการได้เต้นรำ
และร่วมแสดง
ในงานละครเวที
ร่วมกับคาซึกิ
ก็ทำให้นานาโกะ
ได้ถามตัวเอง
ว่าเธอจะมีความกล้า
ในการทำสิ่งที่เธอรัก
และมีความหลงใหล
อยู่ลึก-ลึกในใจ
อย่างการเต้นรำ
และการแสดง
อีกครั้งบ้างไหม
ซึ่งจากการชักชวน
ของมิเชล
และฟูจิมูระ
ทำให้นานาโกะ
ได้ร่วมแสดงนำ
ในงานด้านละครเวที
และสัมผัสถึงปัญหา
ในการแสดงของตน
ที่มารับบทนางฟ้า
ว่ายังคงยึดติด
และเกิดความรู้สึก
ในการเปรียบเทียบ
หน้าตาและบุคลิก
ของตนเอง
กับผู้เป็นพี่สาว
ที่เป็นดาราดัง
เพราะการเข้ามาทำงาน
ในด้านการแสดง
อีกครั้งนั้น
ได้ทำให้นานาโกะ
ต้องถูกเปรียบเทียบ
กับพี่สาวคนสวย
อย่างยูริ
ที่เป็นดารา นักแสดง
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ท่ามกลางความรัก
และการเต้นรำ
บีที่เป็นเหมือน
กับศูนย์รวม
ของความรู้สึก
และพลังใจ
ของเพื่อนๆทุกคน
ได้เสียชีวิตจากไป
จากการช่วยชีวิต
เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
ซึ่งหลังจากเหตุการณ์
ที่น่าเศร้านี้
ทุกคนในกลุ่ม
มีการเปลี่ยนแปลง
ไม่ว่าจะเป็นคาซึกิ
ฟูจิมูระ และ เรอิ
ผู้เป็นอดีตคนรัก
ของบี
จากความคิด
ในการใช้ชีวิต
ในวันข้างหน้า
โดยไม่ทรยศ
ต่อความรู้สึก
ของตนเอง
และมุ่งมั่น
ในการท้าทาย
ความสามารถ
ของตนเอง
ของทุกคนนั้น
ได้ทำให้นานาโกะ
ได้ค้นพบ
ถึงความรู้สึก
ที่มีความเชื่อมั่น
และความอ่อนโยน
ที่มีของตนเอง
โดยไม่ต้องเปรียบเทียบ
กับผู้เป็นพี่สาว
ที่น่ารัก อ่อนหวาน
และห่วงใยเธอ
มาโดยตลอด
โดยแม้ว่าอนาคต
จะอีกยาวไกล
แต่นานาโกะ
ก็มีความฝัน
ที่อยากจะเคียงข้าง
คอยเป็นกำลังใจ
ให้กับคาซึกิ
ผู้มีความมุ่งมั่น
ในการทำความฝัน
ที่จะใช้การเต้นรำ
เพื่อมอบความสุข
ให้กับผู้ชมเสมอไป