ถือเป็นช่วงยุคเฟื่องฟูที่สุด
ของวงการแฟชั่นไทย
โดยนอกจากเหล่าดีไซเนอร์
ที่ก้าวเข้ามาสร้างสรรค์ผลงาน
และนิตยสารแฟชั่นเล่มต่างๆ
ที่ได้รับความที่นิยม
จากผู้อ่านอย่างสูงแล้ว
เหล่านายแบบ นางแบบแฟชั่น
ที่มีผลงานการถ่ายแบบ
ในช่วงยุค 80
ต่างก็เป็นที่จดจำ
ของทุก-ทุกคน
หากมองย้อนกลับไป
ในช่วงยุค 80 ที่ผ่านมา
โดยคุณรัฐ จำเดิมเผด็จศึก
นายแบบหนุ่มสุดหล่อ
ที่มีรอยยิ้มน่ารักท่านนี้
เป็นนายแบบอีกท่านหนึ่ง
ที่มีผลงานการถ่ายแบบ
ฝากไว้มากมาย
ในวงการแฟชั่น
ในช่วงยุค 80 ที่ผ่านมา
สำหรับประวัติส่วนตัว
ของนายแบบหนุ่มหล่อ
ที่มีรอยยิ้มน่ารักท่านนี้
คุณรัฐ จำเดิมเผด็จศึก
เกิดวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2511
เป็นบุตรชายคนเล็ก
ของ นพ.โอฬาร จำเดิมเผด็จศึก
และ ศ.กิตติคุณ พญ.เสาวนีย์ จำเดิมเผด็จศึก
โดยคุณรัฐมีพี่ชาย 2 ท่าน
คือ นพ. รอย จำเดิมเผด็จศึก
และ ทพ. รุจ จำเดิมเผด็จศึก
ซึ่งหนุ่มหล่อท่านหลังนี้
เป็นนายแบบ
ในช่วงยุค 80
เช่นเดียวกับคุณรัฐ
นามสกุล จำเดิมเผด็จศึก
ที่เป็นที่จดจำของเขานั้น
มาจากคุณปู่ของเขา
คือ นาวาตรี หลวงจำเดิมเผด็จศึก
ที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ไทยนั่นเอง
สำหรับประวัติส่วนตัว
ในด้านการศึกษา
คุณรัฐ จำเดิมเผด็จศึก
เริ่มต้นการศึกษา
ในระดับชั้นอนุบาล
ที่โรงเรียน อโศกวิทย์
โดยเขาเข้าศึกษา
ในระดับชั้นประถม
ที่โรงเรียนสาธิต
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จากนั้นจึงย้ายมาศึกษาต่อ
ในระดับชั้นประถมปีที่ 6
จนสำเร็จการศึกษา
ในระดับชั้นมัธยมปลาย
จากโรงเรียนสาธิต
มหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒ
ปทุมวัน
โดยในระดับอุดมศึกษา
คุณรัฐสำเร็จการศึกษา
ในระดับชั้นอนุบาล
ที่โรงเรียน อโศกวิทย์
โดยเขาเข้าศึกษา
ในระดับชั้นประถม
ที่โรงเรียนสาธิต
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จากนั้นจึงย้ายมาศึกษาต่อ
ในระดับชั้นประถมปีที่ 6
จนสำเร็จการศึกษา
ในระดับชั้นมัธยมปลาย
จากโรงเรียนสาธิต
มหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒ
ปทุมวัน
โดยในระดับอุดมศึกษา
คุณรัฐสำเร็จการศึกษา
ในระดับปริญญาตรี
จากคณะนิติศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ก่อนจะศึกษาต่อ
จนสำเร็จการศึกษา
ในระดับปริญญาโท
ด้าน กฎหมายระหว่างประเทศ
จากคณะนิติศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เช่นเดียวกัน
เช่นเดียวกัน
โดยข่าวคราว
ในด้านการศึกษา
ในด้านการศึกษา
ในช่วงยุค 90
ของคุณรัฐ
ของคุณรัฐ
คือการไปศึกษาต่อ
และสำเร็จการศึกษา
ในระดับปริญญาโท
ในด้านรัฐศาสตร์
จากมหาวิทยาลัย
แห่งแคลิฟอร์เนีย
ในระดับปริญญาโท
ในด้านรัฐศาสตร์
จากมหาวิทยาลัย
แห่งแคลิฟอร์เนีย
คุณรัฐ จำเดิมเผด็จศึก
เข้าสู่วงการแฟชั่น
ในฐานะนายแบบ
ในช่วงปี พ.ศ. 2526
ขณะที่เขาอายุ 15 ปี
จากการแนะนำ
ของพี่ชาย
คือ คุณรุจ จำเดิมเผด็จศึก
ที่มีผลงานการถ่ายแบบ
ในนิตยสารแฟชั่นต่างๆ
มาก่อนหน้านี้แล้ว
โดยคุณรัฐมีผลงาน
ในการถ่ายแบบครั้งแรก
กับทางนิตยสารแพรว
ในฉบับพิเศษ
ประจำปี พ.ศ. 2526
ซึ่งการถ่ายแบบ
ร่วมกับคุณรุจ
พี่ชายของเขา
ในภาพแฟชั่นครั้งนี้
ถือเป็นผลงาน
ร่วมกับคุณรุจ
พี่ชายของเขา
ในภาพแฟชั่นครั้งนี้
ถือเป็นผลงาน
ในด้านการถ่ายแบบครั้งแรก
หลังจากเริ่มมีผลงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
ในช่วงปี พ.ศ. 2526
กับวัยเพียง 15 ปี
คุณรัฐ จำเดิมเผด็จศึก
กลับมาถ่ายแบบอีกครั้ง
ในช่วงปี พ.ศ. 2529
ขณะที่กำลังศึกษา
อยู่ชั้น ม.6
อยู่ชั้น ม.6
ในรุปลักษณ์ที่โตขึ้น
น่ารัก หล่อเหลา
และดูเป็นหนุ่มมากขึ้น
ทำให้เขาเริ่มเป็นที่นิยม
ในวงการแฟชั่น
และมีผลงานการถ่ายแบบ
และมีผลงานการถ่ายแบบ
ในนิตยสารแฟชั่น
ฉบับต่างๆ
ตามมาอีกมากมาย
ฉบับต่างๆ
ตามมาอีกมากมาย
โดยในช่วงยุค 80
ที่ผ่านมานั้น
คุณรัฐ จำเดิมเผด็จศึก
คุณรัฐ จำเดิมเผด็จศึก
เป็นนายแบบหนุ่มหล่อ
ที่ได้รับความนิยม
จากผู้อ่านทางบ้าน
เป็นอย่างมาก
เป็นอย่างมาก
ทำให้มีเสียงเรียกร้อง
ทั้งจดหมาย
และทางโทรศัพธ์
จากกลุ่มผู้อ่านสาวๆ
และทางโทรศัพธ์
จากกลุ่มผู้อ่านสาวๆ
ไปยังนิตยสารแฟชั่น
ฉบับต่างๆ
ฉบับต่างๆ
ที่อยากจะเห็นผลงาน
สำหรับความโดดเด่น
ในฐานะนายแบบ
ในฐานะนายแบบ
ของคุณรัฐ จำเดิมเผด็จศึก
ในความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
คือรอยยิ้มและแววตา
ที่สดใส น่ารักของเขา
นอกจากนี้บุคลิกที่ร่าเริง
และความมีมนุษยสัมพันธ์
เข้ากับผู้ร่วมงานอื่นๆได้ง่าย
ก็ทำให้เขาเป็นชื่นชอบ
ของเหล่าทีมงาน
ในนิตยสารแฟชั่น
ฉบับต่างๆ
เป็นอย่างมาก
ฉบับต่างๆ
เป็นอย่างมาก
โดยนิตยสารแพรว
แพรวสุดสัปดาห์
และ Hello
และ Hello
ที่เขาร่วมงาน
อยู่บ่อยครั้ง
อยู่บ่อยครั้ง
มักจะให้คำจัดกัดความ
นายแบบหนุ่มหล่อท่านนี้
ในแง่ของความเป็นหนุ่มน้อย
ที่มาพร้อมความน่ารัก
ร่าเริง มีเสน่ห์
รวมถึงได้รับความชื่นชม
ในแง่ของการเป็นนายแบบ
ที่ทำงานด้วยได้ง่าย
จากการมีอารณ์ขัน
และมีบุคลิกส่วนตัว
ที่มีเสน่ห์และน่ารัก
ที่มีเสน่ห์และน่ารัก
คุณรัฐ จำเดิมเผด็จศึก
มีผลงานการถ่ายแบบ
ในวงการแฟชั่น
ในวงการแฟชั่น
ในช่วงปี พ.ศ. 2526
ถึงประมาณปี พ.ศ. 2531
โดยเขาตัดสินใจ
หยุดรับงานถ่ายแบบ
และงานบันเทิง
ในด้านอื่นๆ
ที่มีติดต่อเข้ามา
ในช่วงที่กำลังศึกษา
ในด้านอื่นๆ
ที่มีติดต่อเข้ามา
ในช่วงที่กำลังศึกษา
อยู่ชั้นปีที่ 3
คณะนิติศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เนื่องจากในขณะนั้น
เขาให้ความสำคัญ
เขาให้ความสำคัญ
กับการศึกษา
มากกว่างานต่างๆ
ในฐานะนายแบบ
มากกว่างานต่างๆ
ในฐานะนายแบบ
และไม่อยากให้ใครๆติดภาพ
การเป็นนายแบบ
ในวงการแฟชั่นของเขา
ในวงการแฟชั่นของเขา
ซึ่งดูจะขัดกัน
กับแนวทางอาชีพ
กับแนวทางอาชีพ
ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ
ในด้านของกฎหมาย
ที่เขากำลังศึกษา
อยู่ในขณะนั้น
อยู่ในขณะนั้น
โดยข่าวคราว
ในช่วงยุค 90
ในช่วงยุค 90
ของคุณรัฐ
หลังจากยุติบทบาท
ในแง่ของการเป็นนายแบบ
คุณรัฐเข้าทำงานประจำ
ในด้านกฎหมาย
ที่สำนักงานกฎหมาย
ไปพร้อมกับการศึกษาต่อ
โดยนอกจากการทำงานแล้ว
เขามีผลงานการเขียน
บทความด้านกฎหมาย
ลงในนิตยสารผู้จัดการ
ในช่วงปี พ.ศ. 2534
ถึงปี พ.ศ. 2535
ในความทรงจำ
และสำเร็จการศึกษา
ในระดับปริญญาโท
ด้านรัฐศาสตร์
จากมหาวิทยาลัย
แคลิฟอร์เนีย
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ด้านรัฐศาสตร์
จากมหาวิทยาลัย
แคลิฟอร์เนีย
ประเทศสหรัฐอเมริกา
คุณรัฐ จำเดิมเผด็จศึก
เริ่มต้นการทำงาน
ในกระทรวงต่างประเทศ
ในกระทรวงต่างประเทศ
ในช่วงปี พ.ศ. 2537
โดยเริ่มต้นการทำงาน
โดยเริ่มต้นการทำงาน
ด้วยการรับตำแหน่ง
เจ้าหน้าที่การฑูต
เจ้าหน้าที่การฑูต
ที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย
จากนั้นจึงสั่งสมประสบการณ์
และประวัติการทำงาน
จนขึ้นรับตำแหน่งกงสุล
ณ สถานกงสุลใหญ่
ของประเทศไทย
ที่ นครโฮจิมินทร์
ประเทศเวียดนาม
และที่ ลอสแองเจลลิส
ประเทศเวียดนาม
และที่ ลอสแองเจลลิส
ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยในระยะเวลา
ที่เขาดำรงตำแหน่งนั้น
คุณรัฐเป็นที่นับถือ
และได้รับความชื่นชม
จากเหล่าคนไทย
ที่ไปใช้ชีวิตและทำงาน
ที่ต่างประเทศ
เป็นอย่างมาก
เป็นอย่างมาก
จากการให้ความช่วยเหลือ
แก่คนไทยในต่างแดน
ที่ประสบกับปัญหา
อย่างสุดความสามารถ
และไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย
ทั้งในแง่ของความช่วยเหลือ
และผลักดันโครงการต่างๆ
ตามภาระหน้าที่
ในตำแหน่งของเขา
รวมถึงการช่วยเหลือ
และให้กำลังใจทุก-ทุกคน
ในแง่ของการฟื้นฟูจิตใจ
ซึ่งจากการผ่านประสบการณ์
ในการทำงานตรงนี้
และได้พบเห็นปัญหา
ของพี่น้องชาวไทย
ที่ใช้ชีวิตในต่างแดน
ทำให้คุณรัฐเอง
ก็ได้ตั้งปณิธานไว้
ว่าแม้จะหมดวาระหน้าที่
ในตำแหน่งตรงนี้
แต่เขาก็มีความมุ่งมั่น
ที่จะใช้ความรู้
และประสบการณ์ที่มี
ในด้านกฎหมาย
ระหว่างประเทศ
เพื่อที่จะได้เป็นส่วนหนึ่ง
ที่จะได้ช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
ซึ่งจากการผ่านประสบการณ์
ในการทำงานตรงนี้
และได้พบเห็นปัญหา
ของพี่น้องชาวไทย
ที่ใช้ชีวิตในต่างแดน
ทำให้คุณรัฐเอง
ก็ได้ตั้งปณิธานไว้
ว่าแม้จะหมดวาระหน้าที่
ในตำแหน่งตรงนี้
แต่เขาก็มีความมุ่งมั่น
ที่จะใช้ความรู้
และประสบการณ์ที่มี
ในด้านกฎหมาย
ระหว่างประเทศ
เพื่อที่จะได้เป็นส่วนหนึ่ง
ที่จะได้ช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
ในตำแหน่ง กงสุล
ในปี พ.ศ. 2552
คุณรัฐ จำเดิมเผด็จศึก
ได้เดินทางกลับมา
ประเทศไทย
เพื่อปฏิบัติหน้าที่
ในตำแหน่ง
เจ้าหน้าที่การฑูต
ระดับชำนาญการ
ที่กรมการกงสุล
กระทรวงต่างประเทศ
โดยจากข้อมูลล่าสุด
ในปี พ.ศ. 2555
คุณรัฐ จำเดิมเผด็จศึก
เข้ารับตำแหน่ง
หัวหน้าสำนักงาน
หนังสือเดินทางชั่วคราว
จังหวัดนครราชสีมา
สังกัดกรมการกงสุล
กระทรวงต่างประเทศ
ซึ่งตั้งแต่คุณรัฐนั้น
เข้ารับตำแหน่ง
เข้ารับตำแหน่ง
หัวหน้าสำนักงาน
หนังสือเดินทางชั่วคราว
นอกจากการพัฒนา
ในด้านต่างๆ
ขององค์กรเองแล้ว
ทางจังหวัดนครราชสีมา
ในด้านต่างๆ
ขององค์กรเองแล้ว
ทางจังหวัดนครราชสีมา
ก็ได้มีกิจกรรมดีๆ
ที่เป็นประโยชน์
สำหรับประชาชน
เกิดขึ้นมากมาย
สำหรับประชาชน
เกิดขึ้นมากมาย
ซึ่งการจัดกิจกรรมเหล่านี้
มีทั้งกิจกรรมให้ความรู้
มีทั้งกิจกรรมให้ความรู้
ที่จัดขึ้นร่วมกัน
กับส่วนราชการ
กับส่วนราชการ
สถานศึกษา
และองค์กรต่างๆ
ในการเผยแพร่ความรู้
ในด้านกฎหมายระหว่างประเทศ
รวมถึงมีกิจกรรมสร้างสรรค์
ที่จัดขึ้นเพื่อเยาวชน
และประชาชนทั่วไป
และประชาชนทั่วไป
ในด้านต่างๆอยู่เสมอ
โดยมีทั้งการจัดนิทรรศการ
งานแสดงศิลปะ
รวมถึงมีการจัดกิจกรรม
เพื่อการกุศลต่างๆ
โดยในขณะที่ดำรงตำแหน่ง
หัวหน้าสำนักงาน
หนังสือเดินทางชั่วคราว
ที่จังหวัดนครราชสีมา
คุณรัฐก็ได้ให้การสนับสนุน
และให้การส่งเสริม
โครงการด้านศิลปะต่างๆ
ของทางชุมชน
ในจังหวัดนครราชสีมาเสมอ
(ข้อมูลถึงต้นปี พ.ศ. 2555 เท่านั้น)
โดยมีทั้งการจัดนิทรรศการ
งานแสดงศิลปะ
รวมถึงมีการจัดกิจกรรม
เพื่อการกุศลต่างๆ
โดยในขณะที่ดำรงตำแหน่ง
หัวหน้าสำนักงาน
หนังสือเดินทางชั่วคราว
ที่จังหวัดนครราชสีมา
คุณรัฐก็ได้ให้การสนับสนุน
และให้การส่งเสริม
โครงการด้านศิลปะต่างๆ
ของทางชุมชน
ในจังหวัดนครราชสีมาเสมอ
(ข้อมูลถึงต้นปี พ.ศ. 2555 เท่านั้น)
ก่อนจะสิ้นสุดเรื่องราว
จากความทรงจำ
ในบทความครั้งนี้
สุดท้ายแล้ว
ผู้เขียนบลอก
ขอแสดงความเสียใจ
อย่างสุดซึ้ง
ต่อครอบครัว
จำเดิมเผด็จศึก
ต่อการจากไป
ของคุณรัฐ
ซึ่งได้ถึงแก่กรรม
ด้วยอาการ
เลือดออกในสมอง
เมื่อที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555
โดยในการประกอบพิธี
บำเพ็ญกุศล
เพื่อคุณรัฐ
ทางครอบครัว
จำเดิมเผด็จศึก
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ
จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
พระราชทาน
น้ำหลวงอาบศพ
และพระราชทาน
หีบทองลายสลัก
ประกอบเกียรติยศศพ
อีกทั้งทางครอบครัว
จำเดิมเผด็จศึก
ยังได้รับพระกรุณาธิคุณ
จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ให้ท่านผู้หญิงอังกาบ บุณยัษฐิติ
เชิญพวงมาลาส่วนพระองค์
มาวางเป็นเกียรติยศ
หน้าหีบศพ
ระหว่างตั้งบำเพ็ญกุศล
ตามประเพณี
ณ วัดธาตุทอง
กรุงเทพมหานคร
โดยงานพระราชทานเพลิงศพ
ของคุณรัฐ จำเดิมเผด็จศึก
มีขึ้นในวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556
โดยทางครอบครัวจำเดิมเผด็จศึก
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณสูงสุด
จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
พระราชทานเพลิงศพ
และได้รับพระกรุณาธิคุณ
จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
ท่านทรงพระกรุณา
เสด็จพระราชดำเนิน
พระราชทานเพลิงศพ
ด้วยพระองค์เอง
นำมาซึ่งความปลื้มปิติ
อันหาที่เปรียบมิได้
ให้กับทางครอบครัว
จำเดิมเผด็จศึก
ในช่วงเวลา
แห่งการสูญเสียนี้
จากความทรงจำ
ในบทความครั้งนี้
สุดท้ายแล้ว
ผู้เขียนบลอก
ขอแสดงความเสียใจ
อย่างสุดซึ้ง
ต่อครอบครัว
จำเดิมเผด็จศึก
ต่อการจากไป
ของคุณรัฐ
ซึ่งได้ถึงแก่กรรม
ด้วยอาการ
เลือดออกในสมอง
เมื่อที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555
โดยในการประกอบพิธี
บำเพ็ญกุศล
เพื่อคุณรัฐ
ทางครอบครัว
จำเดิมเผด็จศึก
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ
จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
พระราชทาน
น้ำหลวงอาบศพ
และพระราชทาน
หีบทองลายสลัก
ประกอบเกียรติยศศพ
อีกทั้งทางครอบครัว
จำเดิมเผด็จศึก
ยังได้รับพระกรุณาธิคุณ
จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ให้ท่านผู้หญิงอังกาบ บุณยัษฐิติ
เชิญพวงมาลาส่วนพระองค์
มาวางเป็นเกียรติยศ
หน้าหีบศพ
ระหว่างตั้งบำเพ็ญกุศล
ตามประเพณี
ณ วัดธาตุทอง
กรุงเทพมหานคร
โดยงานพระราชทานเพลิงศพ
ของคุณรัฐ จำเดิมเผด็จศึก
มีขึ้นในวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556
โดยทางครอบครัวจำเดิมเผด็จศึก
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณสูงสุด
จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
พระราชทานเพลิงศพ
และได้รับพระกรุณาธิคุณ
จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
ท่านทรงพระกรุณา
เสด็จพระราชดำเนิน
พระราชทานเพลิงศพ
ด้วยพระองค์เอง
นำมาซึ่งความปลื้มปิติ
อันหาที่เปรียบมิได้
ให้กับทางครอบครัว
จำเดิมเผด็จศึก
ในช่วงเวลา
แห่งการสูญเสียนี้