สาวน้อยน่ารักจากละครสวรรค์ลำเอียง
ในช่วงกลางยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
มีละครโทรทัศน์
แนว ชีวิต-โรแมนติก
จากประเทศญี่ปุ่น
หลาย-หลายเรื่อง
ที่เป็นที่จดจำ
ของผู้ชม
ในประเทศไทย
จากความนิยม
ในช่วงเวลา
ของการแพร่ภาพ
ละครโทรทัศน์
จากประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งในขณะนั้น
เป็นที่คุ้นเคย
ของผู้ชมชาวไทย
จากการเป็นช่วงเวลา
ของสื่อบันเทิง
จากเอเชีย
ซึ่งมีการแพร่ภาพ
ในช่วงเวลาบ่าย
ของทุกวันจันทร์
ถึงทุกวันศุกร์
ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3
ซึ่งจากความโดดเด่น
ของเนื้อหาสาระ
ที่มักเป็นเรื่องราว
ของความรัก
ในแบบโรแมนติก
และมีเหล่านักแสดงนำ
ที่มีหน้าตาน่ารัก สดใส
ก็ทำให้ละครโทรทัศน์
หลาย-หลายเรื่อง
จากประเทศญี่ปุ่น
ที่ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์
นำมาแพร่ภาพ
ในประเทศไทย
ในช่วงเวลานั้น
เป็นที่ชื่นชอบ
และเป็นที่จดจำ
ของผู้ชม
ในประเทศไทย
โดยจากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ผลงานละครโทรทัศน์
ชุด Hoshi no Kinka
(Die Sterntaler)
ทั้งในภาคที่ 1
และภาคที่ 2
ซึ่งได้รับการซื้อลิขสิทธิ์
ในการนำมาแพร่ภาพ
ในประเทศไทย
ในชื่อ สวรรค์ลำเอียง
โดยสถานีโทรทัศน์ช่อง 3
ในช่วงกลางยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
ถือเป็นละครโทรทัศน์
แนว ชีวิต-โรแมนติก
จากประเทศญี่ปุ่น
ที่มีความโดดเด่น
อีกเรื่องหนึ่ง
ที่เป็นที่ชื่นชอบ
และยังคงเป็นที่จดจำ
ของผู้ชมชาวไทย
มาจนถึงในทุกวันนี้
โดยในการบันทึก
บทความของบลอก
ในครั้งนี้นั้น
จะเป็นการบันทึก
ประวัติชีวิต
และเส้นทาง
การทำงาน
ในวงการบันเทิง
ของ Noriko Sakai
นักแสดง นักร้องสาว
ผู้มาสวมบทบาท
ในบทนางเอกนำ
ของละครโทรทัศน์
จากประเทศญี่ปุ่น
ที่อยู่ในความทรงจำ
ของผู้ชมชาวไทย
ในช่วงกลางยุค 90
ที่ผ่านมาเรื่องนี้
สำหรับประวัติส่วนตัว
ของนักแสดง
และนักร้อง
ขวัญใจวัยรุ่น
จากประเทศญี่ปุ่น
ที่มีรอยยิ้ม
ที่น่ารักท่านนี้
Noriko Sakai / 酒井法子
เกิดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514
ที่เมืองฟุกุโอะกะ
จังหวัดฟุกุโอะกะ
ประเทศญี่ปุ่น
โดยจากบทสัมภาษณ์
ในช่วงยุค 80
นอกจากชื่อ
Noriko Sakai
ที่เป็นชื่อ-นามสกุล
ที่ใช้ในวงการบันเทิง
สาวน้อยน่ารักท่านนี้
ยังเป็นที่จดจำ
ของผู้ชม
ในประเทศญี่ปุ่น
จากการมีชื่อเล่น
ในแบบน่ารัก
ว่า Nori-P
ซึ่งเป็นชื่อเล่น
ที่ผู้ชมชาวญี่ปุ่น
คุ้นเคยกันดี
มาตั้งแต่ในช่วงยุค 80
ที่เธอเริ่มเปิดตัว
ในวงการบันเทิง
ในฐานะนักร้อง
ที่มีภาพลักษณ์
ในแบบขวัญใจวัยรุ่น
เส้นทางในวงการบันเทิง
ในฐานะนักร้อง
และนักแสดง
ของ Noriko Sakai
เริ่มขึ้นในช่วงปลายปี
ของ พ.ศ. 2528
จากการที่เธอนั้น
เข้าร่วมการประกวด
ในเวทีการเฟ้นหา
สาวน้อยหน้าใหม่
ของวงการบันเทิง
ที่เป็นการจัดงาน
โดยการสนับสนุน
ของผลิตภัณฑ์
เครื่องสำอางชิเซโด้
ซึ่งในการประกวด
ในครั้งนั้น
มีผู้สมัครเข้าร่วม
ในการประกวด
ถึง 54,129 คน
ซึ่งจากการประกวด
ในรอบสุดท้าย
ซึ่งมีการจัดงาน
ที่ Nakano Sun Plaza
ในวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2528
ซึ่งเธอได้รับรับรางวัล
ในตำแหน่งพิเศษ
ในปีการประกวด
ที่ Mari Mizutani
ได้รับตำแหน่ง
เป็นผู้ชนะเลิศ
ก็ทำให้สาวน้อย
จากฟุกุโอะกะผู้นี้
ได้รับการติดต่อ
จากทางบริษัท
ต้นสังกัดนักแสดง
ให้ย้ายเข้าพัก
ที่โตเกียว
เพื่อที่จะฝึกฝน
การแสดง
การร้องเพลง
การเต้นรำ
เพื่อจะเริ่มต้น
การทำงาน
ในวงการบันเทิง
ก่อนที่จะเปิดตัว
ในฐานะนักแสดง
และนักร้อง
ขวัญใจวัยรุ่น
ในระยะเวลาต่อมา
ในฐานะนักร้อง
และนักแสดง
Noriko Sakai
ได้รับการเปิดตัว
ในวงการบันเทิง
เป็นครั้งแรก
ด้วยผลงานเพลง
Otoko no Ko ni Naritai
ซึ่งมีการเปิดตัว
ต่อสื่อมวลชน
และวางจำหน่าย
ที่ประเทศญี่ปุ่น
ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530
จากนั้นจึงมีผลงานเพลง
ในอัลบั้มชุดแรก
ในชื่อ Fantasia
ซึ่งมีการเปิดตัว
ต่อสื่อมวลชน
และวางจำหน่าย
ที่ประเทศญี่ปุ่น
ในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2530
ซึ่งจากภาพลักษณ์
ของเด็กสาวผมสั้น
ที่มีรอยยิ้มน่ารัก
ที่ดูอ่อนโยน
และมีบุคลิก
ที่ดูร่าเริง สดใส
ก็ทำให้หลังจากผลงาน
ในเพลงเปิดตัวแรก
Noriko Sakai
ที่ได้รับความนิยม
จากผู้ชมทางบ้าน
อย่างรวดเร็ว
ก็มีผลงานเพลง
ในด้านซิงเกิ้ล
และอัลบั้ม
ผลงานการแสดง
ละครโทรทัศน์
ภาพยนตร์ ละครเวที
ผลงานโฆษณา
ผลงานอัลบั้มภาพ
การร่วมปรากฎตัว
ในรายการโทรทัศน์
และรายการวิทยุ
และงานแสดงคอนเสิรต์
ให้ได้ติดตามรับชม
อย่างต่อเนื่อง
โดยในฐานะนักร้อง
และการเป็นนักแสดง
นอกจากผู้ชม
ในประเทศญี่ปุ่นแล้ว
ในช่วงยุค 80
ถึงในช่วงยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
สาวน้อยน่ารักท่านนี้
ยังเป็นที่รู้จัก
ในประเทศอื่นๆ
ในแถบเอเชีย
อาทิ ไต้หวัน
จีน ฮ่องกง
สิงคโปร์ เกาหลีใต้
ไทย มาเลเซีย
อินโดนีเซีย ฯลฯ
จากการที่ในขณะนั้น
เธอมีผลงาน
ในด้านละครโทรทัศน์
ที่ได้รับการติดต่อ
และซื้อลิขสิทธิ์
นำไปแพร่ภาพ
และได้รับความนิยม
หลาย-หลายเรื่อง
(ขอขอบคุณวีดีโอ
เพลงนำละครโทรทัศน์
ชุด Hoshi no Kinka
โดยคุณ KeeneServas
และเพลงนำละครโทรทัศน์
ชุด Hitotsu Yane no Shita
โดยคุณ TA HA
www.youtube.com)
สำหรับผู้ชม
ในประเทศไทย
จากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ในช่วงปลายยุค 80
ที่ผ่านมานั้น
Noriko Sakai
เริ่มเป็นที่รู้จัก
ของผุ้ชม
ในประเทศไทย
จากการที่นิตยสาร
ในชื่อ ทีวีรีวิว
และ รีวิวทีวี
ซึ่งเป็นนิตยสาร
ประเภทบันเทิง
ที่นำเสนอ
ข่าวสาร เรื่องราว
รวมถึงรูปภาพ
ของนักแสดง
และนักร้อง
จากวงการบันเทิง
ของประเทศญี่ปุ่น
และเกาะฮ่องกง
ได้มีการตีพิมพ์
บทสัมภาษณ์
และรูปภาพ
ของนักแสดง
และนักร้องผู้นี้
อย่างสม่ำเสมอ
ซึ่งจากหน้าตา
และรอยยิ้ม
ที่มีความน่ารัก
รวมถึงผลงานเพลง
ที่มีวางจำหน่าย
ในประเทศไทย
ก็ทำให้เธอนั้น
เริ่มเป็นที่จดจำ
ในกลุ่มผู้อ่าน
ซึ่งได้ติดตาม
นิตยสารเหล่านี้
ก่อนที่ในช่วงยุค 90
เธอจะเป็นที่รู้จัก
ในวงกว้าง
มากยิ่งขึ้น
จากการมีผลงาน
ด้านการแสดง
ในละครโทรทัศน์
ชุด Hitotsu Yane no Shito
และ Hoshi no Kinka
ซึ่งได้รับความนิยม
จากผู้ชมชาวญี่ปุ่น
จนมีการสร้างภาคต่อ
ทั้งสองเรื่องนั้น
ได้รับการติดต่อ
และซื้อลิขสิทธิ์
นำมาแพร่ภาพ
ในประเทศไทย
ซึ่งจากความโดดเด่น
ของละครโทรทัศน์
ในแนว ชีวิต
โรแมนติก
ทั้งสองเรื่อง
ที่ได้มีการแพร่ภาพ
และได้รับความนิยม
อย่างเกินคาด
ในประเทศไทย
ก็ทำให้นักแสดง
ผู้สมบทบาท
เป็นนักแสดงนำ
ของละครโทรทัศน์
ทั้งสองเรื่องนี้
อย่างเธอนั้น
กลายเป็นที่ชื่นชอบ
และยังคงเป็นที่จดจำ
ของผู้ชมชาวไทย
ที่ได้ติดตาม
ละครโทรทัศน์
ทั้งสองเรื่องนี้
ในช่วงเวลานั้น
(สำหรับข้อมูล
ในการแพร่ภาพ
ในประเทศไทย
ของละครโทรทัศน์
ทั้งสองเรื่องนี้
จากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ละครโทรทัศน์
ชุด Hitotsu Yane no Shito
ในภาคแรกนั้น
มีชื่อภาษาไทย
ว่า 1+5 มารักกันนะ
โดยมีการแพร่ภาพ
ในช่วงกลางคืน
ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9
ในช่วงปี พ.ศ. 2538
และละครโทรทัศน์
ชุด Hoshi no Kinka
ในภาคแรกนั้น
มีชื่อภาษาไทย
ว่า สวรรค์ลำเอียง
โดยมีการแพร่ภาพ
ในช่วงเวลาบ่าย
ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3
ในช่วงปี พ.ศ. 2539
โดยหากมีการบันทึก
ในด้านข้อมูล
เกี่ยวกับปี พ.ศ.
ที่มีความผิดพลาด
ผู้เขียนบลอก
ต้องขออภัย
ไว้ ณ ที่นี้)
ในฐานะนักแสดง
และนักร้อง
หลังจากหยุดพักงาน
ในด้านการแสดง
และการร้องเพลง
ในวงการบันเทิง
ของประเทศญี่ปุ่น
ไปในช่วงปี พ.ศ. 2553
ถึงในช่วงปี พ.ศ. 2555
Noriko Sakai
ได้กลับคืน
สู่วงการบันเทิง
และเริ่มต้น
การทำงาน
ในด้านการแสดง
และงานร้องเพลง
อย่างเต็มตัว
อีกครั้งหนึ่ง
ด้วยการเริ่มต้น
ในการทำงาน
ด้านการแสดง
ในส่วนของละครเวที
ซึ่งมีการเปิดการแสดง
ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2555
จากนั้นในฐานะ
ของนักแสดง
และนักร้อง
Noriko Sakai
ก็ได้มีผลงาน
ทั้งในด้านการแสดง
ผลงานเพลง
ผลงานโฆษณา
และการปรากฎตัว
ในรายการโทรทัศน์
และงานโชว์ตัวต่างๆ
ทั้งในประเทศญี่ปุ่น
และประเทศอื่นๆ
ในแถบเอเชีย
ให้ได้ติดตามรับชม
กันอีกครั้งหนึ่ง
(ในการบันทึก
บทความของบลอก
ในครั้งนี้นั้น
เป็นการบันทึก
ในด้านข้อมูล
จากในช่วงปลายปี
ของปี พ.ศ. 2528
ถึงในช่วงต้นปี
ของปี พ.ศ. 2558
เพียงเท่านั้น)
Sukeban Deka : The Movie (1987)
ในปี พ.ศ. 2530
บริษัทภาพยนตร์
Toei Studio
ร่วมกับบริษัท
Magnolia Home
Entertainment
เสนอภาพยนตร์
แนวชีวิต / วัยรุ่น
สืบสวน / แอ็กชั่น
เรื่อง Sukeban Deka
: The Movie
โดยเป็นการสร้าง
เป็นผลงานภาพยนตร์
ความยาว 93 นาที
จากบทภาพยนตร์
โดย Izo Hashimoto
และ Tokio Tsuchiya
ซึ่งเป็นการดัดแปลง
มาจากคาแรคเตอร์
Saki Asamiya
ในผลงานการ์ตูน
ชุด Sukeban Deka
โดย Shinji Wada
ผลงานภาพยนตร์
Sukeban Deka
: The Movie
กำกับการแสดง
โดย Hideo Tanaka
เพลงประกอบภาพยนตร์
เพลง Rakuen no Door
โดย Yoko Minamino
ผลงานภาพยนตร์
Sukeban Deka
: The Movie
มีการเปิดตัว
ต่อสื่อมวลชน
และเข้าฉาย
ในโรงภาพยนตร์
ที่ประเทศญี่ปุ่น
เป็นครั้งแรก
ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530
ผลงานภาพยนตร์
เรื่อง Sukeban Deka
: The Movie
นำแสดงโดย Yoko Minamino
รับบท Yoko Godai
(Saki Asamiya)
Haruko Sagara
รับบท Kyoko
หรือ Okyo
Akie Yoshisawa
รับบท Yukino
Yui Asaka
รับบท Yui
Yuma Nakamura
รับบท Yuma
Yuka Onishi
รับบท Yuka
Shinobu Sakagami
รับบท Mitsuo
Tetta Sugimoto
รับบท Kikuo
Keizo Kanie
รับบท Nishiwaki
Hiroyuki Nagato
รับบท Kurayami
(Dark Director)
Masato Ibu
รับบท Hattori
และขอแนะนำ
Ayako Kobayashi
รับบท Megumi
ร่วมด้วยนักแสดง
ในบทบาท
รับเชิญพิเศษ
Shinji Wada
(เจ้าของผลงาน
ชุด Sukeban Deka
ฉบับการ์ตูน)
ให้เกียรติร่วมแสดง
ในบทบาทพิเศษ
กับบทบาท
คุณลุงขายโยโย่
ในฉากเปิดเรื่อง
ผลงานภาพยนตร์
เรื่อง Sukeban Deka
: The Movie
หรือ สิงห์สาวนักสืบ
ฉบับภาพยนตร์
ในปี พ.ศ. 2530
เป็นเรื่องราว
การต่อสู้ครั้งใหม่
ของซากิ อาซามิยะ
หรือ โยโกะ โกได
ที่หลังจากการต่อสู้
เคียงบ่าเคียงไหล่
ร่วมกับโอเคียว
และยูคิโนะ
สองเพื่อนรัก
ในการล้มล้าง
เหล่าองค์กรลับ
จนเป็นผลสำเร็จ
และได้ตัดสินใจ
ที่จะลาออก
จากการทำงาน
ในฐานะสายลับ
ในชุดนักเรียน
ซากิที่ใช้ชีวิต
ในแบบเด็กวัยรุ่น
อย่างมีความสุข
จากการไปดูหนัง
เดินช๊อปปิ้ง
และอ่านหนังสือ
เพื่อเตรียมสอบ
เข้ามหาวิทยาลัย
ซึ่งถือเป็นชีวิต
ในแบบเรียบง่าย
อย่างที่ซากินั้น
ได้เคยฝันไว้
ก็ต้องกลับมา
เข้าสู้ห่ำหั่น
กับเหล่าร้าย
และองค์กรลับ
อีกครั้งหนึ่ง
จากการที่ซากินั้น
ได้พบกับมิตสุโอะ
เด็กหนุ่มวัยรุ่น
หน้าตาหล่อเหลา
ที่ได้หลบหนี
มาจากโรงเรียน
ที่มีสมญานาม
ในหมู่นักเรียน
และเหล่าอันธพาล
ว่าเป็นโรงเรียนประจำ
ที่เหมือนปราสาทนรก
จากการที่โรงเรียน
บนเกาะเล็กๆ
ในอ่าวโตเกียว
แห่งนี้นั้น
มีกฎระเบียบ
ที่มีความเคร่งครัด
และปกครอง
เหล่านักเรียน
ด้วยความรุนแรง
จากการฝึกฝน
ให้เหล่านักเรียน
ที่เคยเป็นเด็ก
ที่มีปัญหา
ให้กลายเป็นทหาร
ในหน่วยรบพิเศษ
ที่มีความชำนาญ
ในด้านการรบ
และการใช้อาวุธ
เพื่อเป็นกำลังสำคัญ
ในการยึดครอง
และก่อการร้าย
ในประเทศญี่ปุ่น
ในฐานะอดีตสายลับ
ในชุดนักเรียน
ของหน่วยงานพิเศษ
ของกรมตำรวจ
ซากิที่ตัดสินใจ
กลับมาใช้ชีวิต
ในแบบเด็กวัยรุ่น
ที่เป็นคนธรรมดา
และไม่ต้องการ
ที่จะเข้าต่อสู้
และเสี่ยงอันตราย
อีกต่อไปแล้วนั้น
มีความตั้งใจ
ที่จะช่วยเหลือ
เพียงให้มิตสุโอะ
สามารถหลบหนี
กลับไปใช้ชีวิต
ที่ต่างจังหวัด
โดยไม่ยุ่งเกี่ยว
กับองค์กรลับ
ที่เข้าควบคุม
โรงเรียนแห่งนี้
แต่จากการเสียชีวิต
ของมิตสุโอะ
และคำพูดตรงๆ
จากโอเคียว
ผู้เป็นเพื่อนสนิท
ที่ช่วยเตือนสติ
ให้กับซากิ
(ซากิ...ที่ฉันรู้จัก
จะไม่นิ่งเฉย
หากมีเหล่านักเรียน
ที่กำลังลำบาก)
ก็ทำให้ซากิ
ได้ตัดสินใจ
ที่จะรับงาน
ในการช่วยเหลือ
พี่ชายของเมกุมิ
ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท
ของมิตสุโอะ
และนักเรียนคนอื่นๆ
ที่ตกเป็นเหยื่อ
ของความรุนแรง
ในโรงเรียนแห่งนี้
ซึ่งในการต่อสู้
ในฐานะ
สิงห์สาวนักสืบ
อีกครั้งหนึ่ง
ของซากิ
ในครั้งนี้นั้น
ยังคงมีโอเคียว
และยูกิโนะ
สองเพื่อนรัก
กลับมาร่วมต่อสู้
และคอยช่วยเหลือ
นอกจากนี้
จากการสนับสนุน
ของนิชิวากิ
อดีตผู้ดูแล
ของซากิ
จากหน่วยงาน
Sukeban Deka
ก็ทำให้ซากินั้น
ได้รับความช่วยเหลือ
จากสามนักสู้
ยูอิ ยูมะ
และ ยูกะ
สามพี่น้อง
ตระกูลคาซามะ
ที่มารับตำแหน่ง
เป็นสิงห์สาวนักสืบ
ในรุ่นที่ 3
ต่อจากซากิ
มาช่วยเหลือ
ในการต่อสู้
อีกทางหนึ่งด้วย
บริษัทภาพยนตร์
Toei Studio
ร่วมกับบริษัท
Magnolia Home
Entertainment
เสนอภาพยนตร์
แนวชีวิต / วัยรุ่น
สืบสวน / แอ็กชั่น
เรื่อง Sukeban Deka
: The Movie
โดยเป็นการสร้าง
เป็นผลงานภาพยนตร์
ความยาว 93 นาที
จากบทภาพยนตร์
โดย Izo Hashimoto
และ Tokio Tsuchiya
ซึ่งเป็นการดัดแปลง
มาจากคาแรคเตอร์
Saki Asamiya
ในผลงานการ์ตูน
ชุด Sukeban Deka
โดย Shinji Wada
ผลงานภาพยนตร์
Sukeban Deka
: The Movie
กำกับการแสดง
โดย Hideo Tanaka
เพลงประกอบภาพยนตร์
เพลง Rakuen no Door
โดย Yoko Minamino
ผลงานภาพยนตร์
Sukeban Deka
: The Movie
มีการเปิดตัว
ต่อสื่อมวลชน
และเข้าฉาย
ในโรงภาพยนตร์
ที่ประเทศญี่ปุ่น
เป็นครั้งแรก
ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530
ผลงานภาพยนตร์
เรื่อง Sukeban Deka
: The Movie
นำแสดงโดย Yoko Minamino
รับบท Yoko Godai
(Saki Asamiya)
Haruko Sagara
รับบท Kyoko
หรือ Okyo
Akie Yoshisawa
รับบท Yukino
Yui Asaka
รับบท Yui
Yuma Nakamura
รับบท Yuma
Yuka Onishi
รับบท Yuka
Shinobu Sakagami
รับบท Mitsuo
Tetta Sugimoto
รับบท Kikuo
Keizo Kanie
รับบท Nishiwaki
Hiroyuki Nagato
รับบท Kurayami
(Dark Director)
Masato Ibu
รับบท Hattori
และขอแนะนำ
Ayako Kobayashi
รับบท Megumi
ร่วมด้วยนักแสดง
ในบทบาท
รับเชิญพิเศษ
Shinji Wada
(เจ้าของผลงาน
ชุด Sukeban Deka
ฉบับการ์ตูน)
ให้เกียรติร่วมแสดง
ในบทบาทพิเศษ
กับบทบาท
คุณลุงขายโยโย่
ในฉากเปิดเรื่อง
ผลงานภาพยนตร์
เรื่อง Sukeban Deka
: The Movie
หรือ สิงห์สาวนักสืบ
ฉบับภาพยนตร์
ในปี พ.ศ. 2530
เป็นเรื่องราว
การต่อสู้ครั้งใหม่
ของซากิ อาซามิยะ
หรือ โยโกะ โกได
ที่หลังจากการต่อสู้
เคียงบ่าเคียงไหล่
ร่วมกับโอเคียว
และยูคิโนะ
สองเพื่อนรัก
ในการล้มล้าง
เหล่าองค์กรลับ
จนเป็นผลสำเร็จ
และได้ตัดสินใจ
ที่จะลาออก
จากการทำงาน
ในฐานะสายลับ
ในชุดนักเรียน
ซากิที่ใช้ชีวิต
ในแบบเด็กวัยรุ่น
อย่างมีความสุข
จากการไปดูหนัง
เดินช๊อปปิ้ง
และอ่านหนังสือ
เพื่อเตรียมสอบ
เข้ามหาวิทยาลัย
ซึ่งถือเป็นชีวิต
ในแบบเรียบง่าย
อย่างที่ซากินั้น
ได้เคยฝันไว้
ก็ต้องกลับมา
เข้าสู้ห่ำหั่น
กับเหล่าร้าย
และองค์กรลับ
อีกครั้งหนึ่ง
จากการที่ซากินั้น
ได้พบกับมิตสุโอะ
เด็กหนุ่มวัยรุ่น
หน้าตาหล่อเหลา
ที่ได้หลบหนี
มาจากโรงเรียน
ที่มีสมญานาม
ในหมู่นักเรียน
และเหล่าอันธพาล
ว่าเป็นโรงเรียนประจำ
ที่เหมือนปราสาทนรก
จากการที่โรงเรียน
บนเกาะเล็กๆ
ในอ่าวโตเกียว
แห่งนี้นั้น
มีกฎระเบียบ
ที่มีความเคร่งครัด
และปกครอง
เหล่านักเรียน
ด้วยความรุนแรง
จากการฝึกฝน
ให้เหล่านักเรียน
ที่เคยเป็นเด็ก
ที่มีปัญหา
ให้กลายเป็นทหาร
ในหน่วยรบพิเศษ
ที่มีความชำนาญ
ในด้านการรบ
และการใช้อาวุธ
เพื่อเป็นกำลังสำคัญ
ในการยึดครอง
และก่อการร้าย
ในประเทศญี่ปุ่น
ในฐานะอดีตสายลับ
ในชุดนักเรียน
ของหน่วยงานพิเศษ
ของกรมตำรวจ
ซากิที่ตัดสินใจ
กลับมาใช้ชีวิต
ในแบบเด็กวัยรุ่น
ที่เป็นคนธรรมดา
และไม่ต้องการ
ที่จะเข้าต่อสู้
และเสี่ยงอันตราย
อีกต่อไปแล้วนั้น
มีความตั้งใจ
ที่จะช่วยเหลือ
เพียงให้มิตสุโอะ
สามารถหลบหนี
กลับไปใช้ชีวิต
ที่ต่างจังหวัด
โดยไม่ยุ่งเกี่ยว
กับองค์กรลับ
ที่เข้าควบคุม
โรงเรียนแห่งนี้
แต่จากการเสียชีวิต
ของมิตสุโอะ
และคำพูดตรงๆ
จากโอเคียว
ผู้เป็นเพื่อนสนิท
ที่ช่วยเตือนสติ
ให้กับซากิ
(ซากิ...ที่ฉันรู้จัก
จะไม่นิ่งเฉย
หากมีเหล่านักเรียน
ที่กำลังลำบาก)
ก็ทำให้ซากิ
ได้ตัดสินใจ
ที่จะรับงาน
ในการช่วยเหลือ
พี่ชายของเมกุมิ
ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท
ของมิตสุโอะ
และนักเรียนคนอื่นๆ
ที่ตกเป็นเหยื่อ
ของความรุนแรง
ในโรงเรียนแห่งนี้
ซึ่งในการต่อสู้
ในฐานะ
สิงห์สาวนักสืบ
อีกครั้งหนึ่ง
ของซากิ
ในครั้งนี้นั้น
ยังคงมีโอเคียว
และยูกิโนะ
สองเพื่อนรัก
กลับมาร่วมต่อสู้
และคอยช่วยเหลือ
นอกจากนี้
จากการสนับสนุน
ของนิชิวากิ
อดีตผู้ดูแล
ของซากิ
จากหน่วยงาน
Sukeban Deka
ก็ทำให้ซากินั้น
ได้รับความช่วยเหลือ
จากสามนักสู้
ยูอิ ยูมะ
และ ยูกะ
สามพี่น้อง
ตระกูลคาซามะ
ที่มารับตำแหน่ง
เป็นสิงห์สาวนักสืบ
ในรุ่นที่ 3
ต่อจากซากิ
มาช่วยเหลือ
ในการต่อสู้
อีกทางหนึ่งด้วย
รักทระนง / ฮิจิริ จิอาคิ
ตั้งแต่ในช่วงยุค 80
เป็นต้นมานั้น
ผลงานการ์ตูน
สำหรับผู้หญิง
หลาย-หลายเรื่อง
ของ อ.ฮิจิริ จิอาคิ
ที่มักนำเสนอ
เรื่องราวความรัก
มิตรภาพ ชีวิต
การก้าวข้ามผ่าน
ไปสู่ช่วงเวลา
ของการเป็นผู้ใหญ่
จากการเลือก
เส้นทางอนาคต
ของเหล่าวัยรุ่น
ที่นำเสนอ
ในแง่มุม
ที่มีความลึกซึ้ง
ซึ่งให้ความรู้สึก
ที่ละเอียดอ่อน
และมีความลึกซึ้ง
อยู่เสมอนั้น
ถือเป็นผลงาน
ที่ได้รับการแปล
และนำมาจัดพิมพ์
อย่างต่อเนื่อง
โดยสำนักพิมพ์ต่างๆ
ในประเทศไทย
โดยจากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ผลงานการ์ตูน
เรื่อง รักทระนง
ที่นำมาบันทึก
ไว้ในบทความ
ของบลอก
ในครั้งนี้นั้น
ถือเป็นผลงาน
ในแบบเรื่องยาว
อีกเรื่องหนึ่ง
ของนักเขียนผู้นี้
ที่มีความสนุกสนาน
น่าประทับใจ
จากการนำเสนอ
ในด้านเรื่องราว
ของความรัก
ในช่วงวัยรุ่น
ที่ดูเรียบง่าย
แต่ทว่าอ่อนโยน
ซึ่งสร้างความประทับใจ
ให้กับเหล่าผู้อ่าน
ที่เคยติดตาม
ผลงานการ์ตูน
ในเรื่องนี้
ได้เป็นอย่างดี
สำหรับผู้อ่าน
ที่ไม่ได้เติบโต
มาในช่วงยุค 80
หรือไม่ได้ติดตาม
การ์ตูนเรื่องนี้
ผลงานการ์ตูน
สำหรับผู้หญิง
ในแนว ชีวิต
วัยรุ่น / กีฬา
เรื่อง รักทระนง
หรือชื่อเรื่อง
ในภาษาญี่ปุ่น
ว่า Iki ni Yarouze Iki ni yo
เป็นผลงานการ์ตูน
ของ อ.ฮิจิริ จิอาคิ
ที่มีการตีพิมพ์
แบบเป็นตอนๆ
เป็นครั้งแรก
ที่ประเทศญี่ปุ่น
ลงในนิตยสาร
Bessatsu Margaret
ซึ่งเป็นนิตยสาร
ประเภทการ์ตูน
สำหรับเด็กผู้หญิง
จากการสร้างสรรค์
ของสำนักพิมพ์ชูเอชะ
ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งมีการตีพิมพ์
ในตอนแรก
ในช่วงปี พ.ศ. 2530
ซึ่งหลังจากการลงตีพิมพ์
ในแบบเป็นตอนๆ
อย่างต่อเนื่อง
ในนิตยสารฉบับนี้
จนถึงบทอวสาน
ผลงานการ์ตูนเรื่องนี้
ก็ได้มีการจัดพิมพ์
ในแบบรวมเล่ม
ออกมาวางจำหน่าย
จำนวน 8 เล่ม
สำหรับผู้อ่าน
ที่ต้องการสะสม
ตามมาในภายหลัง
อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับผู้อ่าน
ในประเทศไทย
ในช่วงก่อนปี พ.ศ. 2535
ซึ่งเป็นช่วงเวลา
ก่อนกฎหมาย
ในด้านลิขสิทธิ์
จะมีความเข้มงวด
ในแวดวงการ์ตูน
ของประเทศไทยนั้น
ผลงานการ์ตูนเรื่องนี้
ได้รับการแปล
และนำมาจัดพิมพ์
ในแบบรวมเล่ม
เป็นครั้งแรก
ในช่วงปี พ.ศ. 2531
โดยการจัดพิมพ์
โดยสำนักพิมพ์
สยามสปอร์ตพรินติ้ง
ซึ่งหลังจากความนิยม
จากการจัดพิมพ์
จำนวน 7 เล่มจบ
ที่มีราคาปก
คือ 12 / 15
และ 20 บาท
ทางสำนักพิมพ์
สยามสปอร์ตพรินติ้ง
ก็ได้มีการรวบรวม
นำเอาต้นฉบับ
มาจัดพิมพ์ใหม่
ในรูปแบบรวมเล่ม
ที่มีขนาดหนา
จำนวน 2 เล่มจบ
โดยมีการปรับราคา
เป็น 45 บาท
ออกมาวางจำหน่าย
สำหรับผู้อ่าน
ที่มีความต้องการ
ที่จะสะสม
ผลงานการ์ตูน
ในเรื่องนี้
อีกครั้งหนึ่ง
ในช่วงต้นยุค 90
สำหรับผู้อ่าน
ในช่วงยุคหลัง
ของกฎหมาย
ในด้านลิขสิทธิ์
ผลงานการ์ตูน
ของ อ.ฮิจิริ จิอาคิ
ในเรื่องนี้
รวมถึงผลงาน
ในเรื่องอื่นๆ
ของนักเขียนท่านนี้
ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์
นำมาแปล
และจัดพิมพ์ใหม่
โดยสำนักพิมพ์บงกช
ประเทศไทย
ซึ่งในการกลับมา
แปลและจัดพิมพ์ใหม่
อีกครั้งหนึ่ง
ของการ์ตูนเรื่องนี้
ในรูปแบบ
ของรูปเล่ม
ที่มีความสวยงาม
จำนวน 8 เล่มจบ
ตามการจัดพิมพ์
ของประเทศญี่ปุ่น
โดยจาการจัดพิมพ์
ในรูปแบบลิขสิทธิ์
ของสำนักพิมพ์บงกช
ในช่วงยุคหลังนั้น
ผลงานการ์ตูนเรื่องนี้
มีการตั้งชื่อใหม่
ในภาษาไทย
ว่า สู้เต็มที่ลุยเต็มร้อย
ซึ่งในการจัดพิมพ์
ในครั้งใหม่นี้เอง
ที่ถือเป็นการจัดพิมพ์
ที่มีความสมบูรณ์
ทั้งในด้านรูปเล่ม
และการเเปล
รวมถึงภาพ
ของการตีพิมพ์
ที่มีความคมชัด
จากการจัดพิมพ์
ในแบบลิขสิทธิ์
ซึ่งมีความเหมาะสม
แก่การสะสม
ของผู้อ่าน
มากที่สุด
ตั้งแต่การ์ตูนเรื่องนี้
มีการเปิดตัว
และเคยจัดพิมพ์
ในประเทศไทย
ตั้งแต่ในช่วงยุค 80
เป็นต้นมา
สำหรับเนื้อหา
และเรื่องราว
ในแบบย่อๆ
ของผลงาน
การ์ตูนเรื่องนี้
ผลงานการ์ตูน
เรื่อง รักทระนง
ของ อ.ฮิจิริ จิอาคิ
เป็นเรื่องราว
ชีวิตและความรัก
ในช่วงวัยรุ่น
ของโทมาโกะ
นักเรียนสาวสวย
ชั้นมัธยมปลาย
ที่ถือเป็นไอดอล
ของเหล่านักเรียน
ในโรงเรียนฟุโซ
จากการที่เธอนั้น
ทั้งสวย นิสัยดี
ร่าเริง เรียนเก่ง
มีความเป็นผู้นำ
และโดดเด่น
ทั้งการเรียน
และกิจกรรม
ซึ่งจากความโดดเด่น
และเพียบพร้อม
ที่มีในตัวนี้เอง
ทำให้โทมาโกะ
กลายเป็นที่หมายปอง
ของเหล่านักเรียนชาย
และเป็นที่ชื่นชม
ของเหล่านักเรียนหญิง
จนทำให้เธอนั้น
ได้รับการจับตามอง
จากการที่โทมาโกะ
มีความรู้สึกดีๆ
มอบให้กับชุนเป
เด็กหนุ่มธรรมดาๆ
ที่ไม่มีอะไร
ที่มีความโดดเด่น
ซึ่งเป็นลูกชาย
ของร้านขายปลา
ในย่านการค้า
ซึ่งเป็นสมาชิก
ของชมรมชกมวย
ในโรงเรียนเดียวกัน
ซึ่งหลังจากความรู้สึก
ของโทมาโกะ
ที่มีต่อชุนเป
ได้ถุกเปิดเผย
ออกมานั้น
ก็ทำให้เพื่อนๆ
นักเรียนคนอื่นๆ
ในโรงเรียนแห่งนี้
ต่างรู้สึกแปลกใจ
ในความรักครั้งนี้
ของโทมาโกะ
หลังจากเปิดเผย
ความรู้สึกออกไป
ด้วยความจริงใจ
โทมาโกะนั้น
ในแรกสุด
ต้องพบความผิดหวัง
จากการที่ชุนเป
ได้ปฎิเสธเธอ
ในแบบอ้อมๆ
จากการที่เขานั้น
อยากให้โทมาโกะ
ที่มีความโดดเด่น
กลับไปเป็นไอดอล
ของทุก-ทุกคน
อีกทั้งตัวเขาเอง
ยังไม่มีอะไร
ที่จะดีเพียงพอ
และเทียบเท่า
กับโทมาโกะได้
ซึ่งจากการที่เธอ
และชุนเปนั้น
มีความแตกต่าง
และมีข้อจำกัด
ในชีวิต
หลาย-หลายด้าน
ที่แตกต่างกัน
ก็ทำให้เส้นทาง
ชีวิตและความรัก
ของโทมาโกะ
ที่มีความรัก
ให้กับชุนเป
ด้วยความแน่วแน่
และบริสุทธิ์ใจ
อยู่เสมอนั้น
ต้องพบกับอุปสรรค
และเรื่องราวมากมาย
ในช่วงชีวิตวัยรุ่น
ที่จะทำให้โทมาโกะ
และคนที่เธอรัก
อย่างชุนเปนั้น
ค่อย-ค่อยเติบโต
และเริ่มเข้าใจ
ในความรู้สึก
ของกันและกัน
มากยิ่งขึ้น
จากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ผลงานการ์ตูน
เรื่อง รักทระนง
ถือเป็นผลงาน
ของ อ.ฮิจิริ จิอาคิ
อีกเรื่องหนึ่ง
ที่ผู้เขียนบลอก
มีความชื่นชอบ
เช่นเดียวกัน
กับเรื่อง Heptagon
หรือ 7 เหลี่ยม 7 มุม
และ Soda Sodaa
หรือ รักนี้ใช่เลย
ที่มักนำเสนอ
เรื่องราวชีวิต
ในช่วงวัยรุ่น
ของตัวละคร
ออกมาได้ลึกซึ้ง
และมีเสน่ห์
จากการที่บรรยากาศ
ในผลงานการ์ตูน
ของนักเขียนผู้นี้นั้น
มักให้ความรู้สึก
คล้ายกับการรับชม
ผลงานภาพยนตร์
หรือการอ่านนิยาย
ในแนว Coming of age
ที่มีความบริสุทธิ์
แต่แฝงด้วยความเศร้า
ซึ่งดูจะเป็นเอกลักษณ์
และถือเป็นเสน่ห์
ของนักเขียนท่านนี้
ที่มีลายเส้น
ในแบบเรียบง่าย
(ผู้อ่านบางท่าน
อาจจะไม่ชอบ
ในลายเส้น
ที่ไม่น่ารัก
หรือหวานแหวว
แต่ในด้านเนื้อเรื่อง
และการนำเสนอ
ในด้านอารมณ์นั้น
ถือว่านักเขียนผู้นี้
ทำได้ดีมากๆ)
นอกจากนี้
ในแง่ตัวละคร
ที่มีความน่าสนใจ
ไม่ว่าจะเป็นชุนเป
ที่เป็นเด็กหนุ่ม
ที่ซับซ้อน
และเข้าใจยาก
และโทมาโกะ
ที่เป็นเด็กสาว
ที่สมบูรณ์แบบ
แต่มีแง่มุม
ในความอ่อนไหว
รวมถึงตัวละคร
อย่าง คิโยโกะ
มิโดริ อุโนะ
ริคาโกะ โคมัตสึ ฯลฯ
ซึ่งเป็นตัวละคร
ในแบบสมทบนั้น
ก็ล้วนแต่มีช่วงเวลา
ที่มีความโดดเด่น
และมีความน่าประทับใจ
ที่ส่วนของเรื่องราว
ที่เป็นของตัวเอง
(โดยจากความรู้สึก
ของผู้เขียนบลอก
ตัวละครหลัก
ของโทมาโกะนี้
ให้ความรู้สึก
และมีบุคลิกส่วนตัว
ที่น่าจะมีการอ้างอิง
มาจาก Miki Imai
นักร้อง นักแสดง
นางแบบสาวสวย
ชาวญี่ปุ่น
ที่มีภาพลักษณ์
สวย ฉลาด
มีความเป็นผู้ใหญ่
แต่มีมุมอ่อนใหว
และเปราะบาง
โดยในฐานะ
ของการเป็นนักแสดง
นักร้อง นางแบบ
ในช่วงแรกนั้น
Miki Imai
ที่มีทรงผม
หยิกยาวสลวย
และรูปร่างสูงโปร่ง
เหมือนโทมาโกะ
ซึ่งมีการอ้างถึง
ในการ์ตูนเรื่องนี้
โดยนักเขียนเอง
หลายครั้งนั้น
ถือเป็นนักแสดง
ที่มีการเปิดตัว
เป็นครั้งแรก
ในวงการบันเทิง
ของประเทศญี่ปุ่น
ในช่วงปี พ.ศ. 2529
ซึ่งไล่เลี่ยกันมาก
กับการสร้างสรรค์
ผลงานการ์ตูนเรื่องนี้
ที่มีการเปิดตัว
ผลงานตอนแรก
ในช่วงปี พ.ศ. 2530
ซึ่งหากเอาทรงผม
และหน้าตา
ในช่วงวัยสาว
ของนักแสดงผู้นี้
ในช่วงยุค 80
มาเทียบกับตัวละคร
ก็สามารถพบ
ว่ามีความคล้าย
อยู่ในบุคลิก
ของตัวละคร
อย่างโทมาโกะ
เป็นอย่างมาก)
เป็นต้นมานั้น
ผลงานการ์ตูน
สำหรับผู้หญิง
หลาย-หลายเรื่อง
ของ อ.ฮิจิริ จิอาคิ
ที่มักนำเสนอ
เรื่องราวความรัก
มิตรภาพ ชีวิต
การก้าวข้ามผ่าน
ไปสู่ช่วงเวลา
ของการเป็นผู้ใหญ่
จากการเลือก
เส้นทางอนาคต
ของเหล่าวัยรุ่น
ที่นำเสนอ
ในแง่มุม
ที่มีความลึกซึ้ง
ซึ่งให้ความรู้สึก
ที่ละเอียดอ่อน
และมีความลึกซึ้ง
อยู่เสมอนั้น
ถือเป็นผลงาน
ที่ได้รับการแปล
และนำมาจัดพิมพ์
อย่างต่อเนื่อง
โดยสำนักพิมพ์ต่างๆ
ในประเทศไทย
โดยจากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ผลงานการ์ตูน
เรื่อง รักทระนง
ที่นำมาบันทึก
ไว้ในบทความ
ของบลอก
ในครั้งนี้นั้น
ถือเป็นผลงาน
ในแบบเรื่องยาว
อีกเรื่องหนึ่ง
ของนักเขียนผู้นี้
ที่มีความสนุกสนาน
น่าประทับใจ
จากการนำเสนอ
ในด้านเรื่องราว
ของความรัก
ในช่วงวัยรุ่น
ที่ดูเรียบง่าย
แต่ทว่าอ่อนโยน
ซึ่งสร้างความประทับใจ
ให้กับเหล่าผู้อ่าน
ที่เคยติดตาม
ผลงานการ์ตูน
ในเรื่องนี้
ได้เป็นอย่างดี
สำหรับผู้อ่าน
ที่ไม่ได้เติบโต
มาในช่วงยุค 80
หรือไม่ได้ติดตาม
การ์ตูนเรื่องนี้
ผลงานการ์ตูน
สำหรับผู้หญิง
ในแนว ชีวิต
วัยรุ่น / กีฬา
เรื่อง รักทระนง
หรือชื่อเรื่อง
ในภาษาญี่ปุ่น
ว่า Iki ni Yarouze Iki ni yo
เป็นผลงานการ์ตูน
ของ อ.ฮิจิริ จิอาคิ
ที่มีการตีพิมพ์
แบบเป็นตอนๆ
เป็นครั้งแรก
ที่ประเทศญี่ปุ่น
ลงในนิตยสาร
Bessatsu Margaret
ซึ่งเป็นนิตยสาร
ประเภทการ์ตูน
สำหรับเด็กผู้หญิง
จากการสร้างสรรค์
ของสำนักพิมพ์ชูเอชะ
ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งมีการตีพิมพ์
ในตอนแรก
ในช่วงปี พ.ศ. 2530
ซึ่งหลังจากการลงตีพิมพ์
ในแบบเป็นตอนๆ
อย่างต่อเนื่อง
ในนิตยสารฉบับนี้
จนถึงบทอวสาน
ผลงานการ์ตูนเรื่องนี้
ก็ได้มีการจัดพิมพ์
ในแบบรวมเล่ม
ออกมาวางจำหน่าย
จำนวน 8 เล่ม
สำหรับผู้อ่าน
ที่ต้องการสะสม
ตามมาในภายหลัง
อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับผู้อ่าน
ในประเทศไทย
ในช่วงก่อนปี พ.ศ. 2535
ซึ่งเป็นช่วงเวลา
ก่อนกฎหมาย
ในด้านลิขสิทธิ์
จะมีความเข้มงวด
ในแวดวงการ์ตูน
ของประเทศไทยนั้น
ผลงานการ์ตูนเรื่องนี้
ได้รับการแปล
และนำมาจัดพิมพ์
ในแบบรวมเล่ม
เป็นครั้งแรก
ในช่วงปี พ.ศ. 2531
โดยการจัดพิมพ์
โดยสำนักพิมพ์
สยามสปอร์ตพรินติ้ง
ซึ่งหลังจากความนิยม
จากการจัดพิมพ์
จำนวน 7 เล่มจบ
ที่มีราคาปก
คือ 12 / 15
และ 20 บาท
ทางสำนักพิมพ์
สยามสปอร์ตพรินติ้ง
ก็ได้มีการรวบรวม
นำเอาต้นฉบับ
มาจัดพิมพ์ใหม่
ในรูปแบบรวมเล่ม
ที่มีขนาดหนา
จำนวน 2 เล่มจบ
โดยมีการปรับราคา
เป็น 45 บาท
ออกมาวางจำหน่าย
สำหรับผู้อ่าน
ที่มีความต้องการ
ที่จะสะสม
ผลงานการ์ตูน
ในเรื่องนี้
อีกครั้งหนึ่ง
ในช่วงต้นยุค 90
สำหรับผู้อ่าน
ในช่วงยุคหลัง
ของกฎหมาย
ในด้านลิขสิทธิ์
ผลงานการ์ตูน
ของ อ.ฮิจิริ จิอาคิ
ในเรื่องนี้
รวมถึงผลงาน
ในเรื่องอื่นๆ
ของนักเขียนท่านนี้
ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์
นำมาแปล
และจัดพิมพ์ใหม่
โดยสำนักพิมพ์บงกช
ประเทศไทย
ซึ่งในการกลับมา
แปลและจัดพิมพ์ใหม่
อีกครั้งหนึ่ง
ของการ์ตูนเรื่องนี้
ในรูปแบบ
ของรูปเล่ม
ที่มีความสวยงาม
จำนวน 8 เล่มจบ
ตามการจัดพิมพ์
ของประเทศญี่ปุ่น
โดยจาการจัดพิมพ์
ในรูปแบบลิขสิทธิ์
ของสำนักพิมพ์บงกช
ในช่วงยุคหลังนั้น
ผลงานการ์ตูนเรื่องนี้
มีการตั้งชื่อใหม่
ในภาษาไทย
ว่า สู้เต็มที่ลุยเต็มร้อย
ซึ่งในการจัดพิมพ์
ในครั้งใหม่นี้เอง
ที่ถือเป็นการจัดพิมพ์
ที่มีความสมบูรณ์
ทั้งในด้านรูปเล่ม
และการเเปล
รวมถึงภาพ
ของการตีพิมพ์
ที่มีความคมชัด
จากการจัดพิมพ์
ในแบบลิขสิทธิ์
ซึ่งมีความเหมาะสม
แก่การสะสม
ของผู้อ่าน
มากที่สุด
ตั้งแต่การ์ตูนเรื่องนี้
มีการเปิดตัว
และเคยจัดพิมพ์
ในประเทศไทย
ตั้งแต่ในช่วงยุค 80
เป็นต้นมา
สำหรับเนื้อหา
และเรื่องราว
ในแบบย่อๆ
ของผลงาน
การ์ตูนเรื่องนี้
ผลงานการ์ตูน
เรื่อง รักทระนง
ของ อ.ฮิจิริ จิอาคิ
เป็นเรื่องราว
ชีวิตและความรัก
ในช่วงวัยรุ่น
ของโทมาโกะ
นักเรียนสาวสวย
ชั้นมัธยมปลาย
ที่ถือเป็นไอดอล
ของเหล่านักเรียน
ในโรงเรียนฟุโซ
จากการที่เธอนั้น
ทั้งสวย นิสัยดี
ร่าเริง เรียนเก่ง
มีความเป็นผู้นำ
และโดดเด่น
ทั้งการเรียน
และกิจกรรม
ซึ่งจากความโดดเด่น
และเพียบพร้อม
ที่มีในตัวนี้เอง
ทำให้โทมาโกะ
กลายเป็นที่หมายปอง
ของเหล่านักเรียนชาย
และเป็นที่ชื่นชม
ของเหล่านักเรียนหญิง
จนทำให้เธอนั้น
ได้รับการจับตามอง
จากการที่โทมาโกะ
มีความรู้สึกดีๆ
มอบให้กับชุนเป
เด็กหนุ่มธรรมดาๆ
ที่ไม่มีอะไร
ที่มีความโดดเด่น
ซึ่งเป็นลูกชาย
ของร้านขายปลา
ในย่านการค้า
ซึ่งเป็นสมาชิก
ของชมรมชกมวย
ในโรงเรียนเดียวกัน
ซึ่งหลังจากความรู้สึก
ของโทมาโกะ
ที่มีต่อชุนเป
ได้ถุกเปิดเผย
ออกมานั้น
ก็ทำให้เพื่อนๆ
นักเรียนคนอื่นๆ
ในโรงเรียนแห่งนี้
ต่างรู้สึกแปลกใจ
ในความรักครั้งนี้
ของโทมาโกะ
หลังจากเปิดเผย
ความรู้สึกออกไป
ด้วยความจริงใจ
โทมาโกะนั้น
ในแรกสุด
ต้องพบความผิดหวัง
จากการที่ชุนเป
ได้ปฎิเสธเธอ
ในแบบอ้อมๆ
จากการที่เขานั้น
อยากให้โทมาโกะ
ที่มีความโดดเด่น
กลับไปเป็นไอดอล
ของทุก-ทุกคน
อีกทั้งตัวเขาเอง
ยังไม่มีอะไร
ที่จะดีเพียงพอ
และเทียบเท่า
กับโทมาโกะได้
ซึ่งจากการที่เธอ
และชุนเปนั้น
มีความแตกต่าง
และมีข้อจำกัด
ในชีวิต
หลาย-หลายด้าน
ที่แตกต่างกัน
ก็ทำให้เส้นทาง
ชีวิตและความรัก
ของโทมาโกะ
ที่มีความรัก
ให้กับชุนเป
ด้วยความแน่วแน่
และบริสุทธิ์ใจ
อยู่เสมอนั้น
ต้องพบกับอุปสรรค
และเรื่องราวมากมาย
ในช่วงชีวิตวัยรุ่น
ที่จะทำให้โทมาโกะ
และคนที่เธอรัก
อย่างชุนเปนั้น
ค่อย-ค่อยเติบโต
และเริ่มเข้าใจ
ในความรู้สึก
ของกันและกัน
มากยิ่งขึ้น
จากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ผลงานการ์ตูน
เรื่อง รักทระนง
ถือเป็นผลงาน
ของ อ.ฮิจิริ จิอาคิ
อีกเรื่องหนึ่ง
ที่ผู้เขียนบลอก
มีความชื่นชอบ
เช่นเดียวกัน
กับเรื่อง Heptagon
หรือ 7 เหลี่ยม 7 มุม
และ Soda Sodaa
หรือ รักนี้ใช่เลย
ที่มักนำเสนอ
เรื่องราวชีวิต
ในช่วงวัยรุ่น
ของตัวละคร
ออกมาได้ลึกซึ้ง
และมีเสน่ห์
จากการที่บรรยากาศ
ในผลงานการ์ตูน
ของนักเขียนผู้นี้นั้น
มักให้ความรู้สึก
คล้ายกับการรับชม
ผลงานภาพยนตร์
หรือการอ่านนิยาย
ในแนว Coming of age
ที่มีความบริสุทธิ์
แต่แฝงด้วยความเศร้า
ซึ่งดูจะเป็นเอกลักษณ์
และถือเป็นเสน่ห์
ของนักเขียนท่านนี้
ที่มีลายเส้น
ในแบบเรียบง่าย
(ผู้อ่านบางท่าน
อาจจะไม่ชอบ
ในลายเส้น
ที่ไม่น่ารัก
หรือหวานแหวว
แต่ในด้านเนื้อเรื่อง
และการนำเสนอ
ในด้านอารมณ์นั้น
ถือว่านักเขียนผู้นี้
ทำได้ดีมากๆ)
นอกจากนี้
ในแง่ตัวละคร
ที่มีความน่าสนใจ
ไม่ว่าจะเป็นชุนเป
ที่เป็นเด็กหนุ่ม
ที่ซับซ้อน
และเข้าใจยาก
และโทมาโกะ
ที่เป็นเด็กสาว
ที่สมบูรณ์แบบ
แต่มีแง่มุม
ในความอ่อนไหว
รวมถึงตัวละคร
อย่าง คิโยโกะ
มิโดริ อุโนะ
ริคาโกะ โคมัตสึ ฯลฯ
ซึ่งเป็นตัวละคร
ในแบบสมทบนั้น
ก็ล้วนแต่มีช่วงเวลา
ที่มีความโดดเด่น
และมีความน่าประทับใจ
ที่ส่วนของเรื่องราว
ที่เป็นของตัวเอง
(โดยจากความรู้สึก
ของผู้เขียนบลอก
ตัวละครหลัก
ของโทมาโกะนี้
ให้ความรู้สึก
และมีบุคลิกส่วนตัว
ที่น่าจะมีการอ้างอิง
มาจาก Miki Imai
นักร้อง นักแสดง
นางแบบสาวสวย
ชาวญี่ปุ่น
ที่มีภาพลักษณ์
สวย ฉลาด
มีความเป็นผู้ใหญ่
แต่มีมุมอ่อนใหว
และเปราะบาง
โดยในฐานะ
ของการเป็นนักแสดง
นักร้อง นางแบบ
ในช่วงแรกนั้น
Miki Imai
ที่มีทรงผม
หยิกยาวสลวย
และรูปร่างสูงโปร่ง
เหมือนโทมาโกะ
ซึ่งมีการอ้างถึง
ในการ์ตูนเรื่องนี้
โดยนักเขียนเอง
หลายครั้งนั้น
ถือเป็นนักแสดง
ที่มีการเปิดตัว
เป็นครั้งแรก
ในวงการบันเทิง
ของประเทศญี่ปุ่น
ในช่วงปี พ.ศ. 2529
ซึ่งไล่เลี่ยกันมาก
กับการสร้างสรรค์
ผลงานการ์ตูนเรื่องนี้
ที่มีการเปิดตัว
ผลงานตอนแรก
ในช่วงปี พ.ศ. 2530
ซึ่งหากเอาทรงผม
และหน้าตา
ในช่วงวัยสาว
ของนักแสดงผู้นี้
ในช่วงยุค 80
มาเทียบกับตัวละคร
ก็สามารถพบ
ว่ามีความคล้าย
อยู่ในบุคลิก
ของตัวละคร
อย่างโทมาโกะ
เป็นอย่างมาก)
แพท แพทริค อัลเทอร์เมท
หนุ่มน้อยน่ารักจากนิตยสารวัยรุ่นยุค 90
จากความสำเร็จ
ของการสร้างสรรค์
ผลงานภาพยนตร์
และละครโทรทัศน์
ในแนวชีวิต-วัยรุ่น
หลาย-หลายเรื่อง
ที่ได้รับความนิยม
จากผู้ชมอย่างมาก
ในช่วงต้นยุค 90
ทำให้ในช่วงปี พ.ศ. 2534
ถึงประมาณปี พ.ศ. 2540
ที่ผ่านมานั้น
วงการบันเทิง
ของประเทศไทย
มีกระแสความนิยม
ในการสร้างสรรค์
สื่อบันเทิงต่างๆ
ทั้งในด้านภาพยนตร์
ละครโทรทัศน์
รายการโทรทัศน์
โฆษณา นิตยสาร
ที่มีกลุ่มเป้าหมาย
เป็นกลุ่มผู้ชม
ที่เป็นเหล่าวัยรุ่น
ซึ่งจากกระแส
ของความนิยม
ในรูปแบบนี้เอง
ทำให้ในช่วงต้นยุค 90
ถึงช่วงกลางยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
วงการบันเทิง
ของประเทศไทย
ได้มีโอกาส
ในการต้อนรับ
เหล่าหนุ่ม-สาว
อายุน้อย
ซึ่งมีหน้าตา
ที่น่ารัก สดใส
ให้ก้าวเข้ามา
มีผลงานต่างๆ
ฝากไว้ในวงการบันเทิง
อย่างมากมาย
โดยจากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
คุณแพท แพทริค อัลเทอร์เมท
หนุ่มน้อยน่ารักท่านนี้
ถือเป็นนายแบบ
จากนิตยสารวัยรุ่น
อีกท่านหนึ่ง
ที่มีผลงาน
การถ่ายแบบ
และมีผลงาน
ในด้านโฆษณา
ฝากไว้อย่างต่อเนื่อง
ในช่วงต้นยุค 90
ถึงช่วงกลางยุค 90
โดยในการบันทึก
บทความของบลอก
ในครั้งนี้นั้น
จะเป็นการบันทึก
เส้นทางการทำงาน
โดยย้อนกลับไป
ตั้งแต่การทำงาน
ตั้งแต่ในช่วงวัยเด็ก
ของคุณแพท
ตั้งแต่ในช่วงกลางยุค 80
ที่มีผลงาน
การถ่ายแบบ
และโฆษณา
ในฐานะนายแบบเด็ก
ไปจนถึงการทำงาน
ในช่วงวัยรุ่น
ที่มีผลงาน
ด้านการถ่ายแบบ
และโฆษณา
ที่มีการตีพิมพ์
ลงในนิตยสาร
แนววัยรุ่น
หลาย-หลายฉบับ
ในช่วงเวลานั้น
(โดยในการบันทึก
บทความของบลอก
ในครั้งนี้นั้น
เนื่องจากข้อมูล
ในนิตยสารต่างๆ
ในช่วงยุค 90
ลงนามสกุล
ของคุณแพท
ไว้ทั้ง อัลเทอร์เมท
และ อัลเทอร์แมท
ผู้เขียนบลอก
จึงเลือกบันทึก
ในข้อมูล
ที่มีการบันทึก
มากที่สุด
คือ อัลเทอร์เมท
โดยหากมีข้อผิดพลาด
ผู้เขียนบลอก
ต้องขออภัย
ทางครอบครัว
ของคุณแพท
และผู้อ่าน
ทุก-ทุกท่าน
ไว้ ณ ที่นี้)
สำหรับข้อมูล
ประวัติส่วนตัว
ของนายแบบวัยรุ่น
หนุ่มหล่อท่านนี้
คุณแพทริค อัลเทอร์เมท
(Patrick Altermatt)
หรือ คุณแพท
เป็นลูกครึ่ง
ไทย-อเมริกัน
โดยเติบโตมา
ในครอบครัว
ที่มีคุณพ่อ
เป็นชาวอเมริกัน
และมีคุณแม่
เป็นชาวไทย
โดยในฐานะ
ของการเป็นสมาชิก
ในครอบครัว
อย่างที่ผู้อ่าน
ทุก-ทุกท่าน
ที่เป็นวัยรุ่น
ในช่วงยุค 90
คงจะทราบกันดี
คุณแพทมีน้องสาว
คือ คุณชาช่า
แคทรีน อัลเทอร์เมท
(Kathleen Altermatt)
ที่ในช่วงยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
มีผลงาน
การถ่ายแบบ
ลงในนิตยสาร
แนววัยรุ่น
และมีผลงาน
ด้านการแสดง
อย่างภาพยนตร์
และละครโทรทัศน์
ฝากไว้มากมาย
ในช่วงยุค 90
โดยจากบทสัมภาษณ์
ในช่วงปี พ.ศ. 2537
นายแบบวัยรุ่นท่านนี้
กำลังมีอายุ 17 ปี
และกำลังศึกษา
ในระดับเกรด 11
ที่โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี
(โดยก่อนหน้านี้นั้น
เขาเริ่มต้นการศึกษา
ในระดับอนุบาล
ถึงชั้นประถมปีที่ 2
ที่โรงเรียนปานะพันธุ์วิทยา
จากนั้นจึงมาศึกษาต่อ
ที่โรงเรียนบางกอกพัฒนา
และโรงเรียนร่วมฤดี
โดยในระหว่างนั้น
ก็มีในบางช่วง
ที่ย้ายตามครอบครัว
ไปประเทศอังกฤษ
และสหรัฐอเมริกา)
จากบทสัมภาษณ์
ในช่วงยุค 90
กิจกรรมพิเศษ
ในช่วงวัยเรียน
ที่คุณแพท
ให้ความสนใจ
นอกจากงานพิเศษ
ในด้านการถ่ายแบบ
ให้กับนิตยสารต่างๆ
คือการเล่นกีฬา
อย่าง กอล์ฟ
ฟุตบอล บาสเก็ตบอล
(ข้อมูลมีการบันทึก
จากบทสัมภาษณ์
ในปี พ.ศ. 2537
เพียงเท่านั้น)
สำหรับเส้นทาง
การทำงาน
ในฐานะนายแบบ
ของคุณแพท
แพทริค อัลเทอร์เมท
จากบทสัมภาษณ์
ในช่วงปี พ.ศ. 2537
หนุ่มหล่อท่านนี้
เริ่มต้นการทำงาน
ในวงการบันเทิง
เป็นครั้งแรก
ในช่วงปี พ.ศ. 2527
จากการทำงาน
ในฐานะนายแบบเด็ก
ตั้งแต่ที่คุณแพทนั้น
มีอายุได้เพียง 7 ปี
ซึ่งจากผลงาน
ในด้านโฆษณา
ของผลิตภัณฑ์
เครื่องดื่มโอวัลติน
ที่เขารับงานนี้
เป็นครั้งแรก
ร่วมกับน้องสาว
คือ คุณชาช่า
(ที่ในขณะนั้น
มีอายุ 6 ปี)
ก็ทำให้ในฐานะ
ของการเป็นนายแบบ
และนางแบบเด็ก
ทั้งคุณแพท
และคุณชาช่า
ก็ถือเป็นคู่พี่น้อง
ที่มีผลงาน
การถ่ายแบบ
การเดินแบบ
และมีผลงาน
ในด้านโฆษณา
ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า
และสินค้า
สำหรับเด็กๆ
ฝากไว้มากมาย
ในวงการบันเทิง
ในช่วงปลายยุค 80
ที่ผ่านมา
หลังจากการทำงาน
ในฐานะนายแบบเด็ก
ตั้งแต่ในช่วงปี พ.ศ. 2527
คุณแพท แพทริค อัลเทอร์เมท
เป็นที่รู้จักในกลุ่มวัยรุ่น
ในฐานะนายแบบ
ที่มีผลงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
ที่มีการตีพิมพ์
ลงในนิตยสารวัยรุ่น
และมีผลงาน
ในด้านโฆษณา
ในช่วงที่เขานั้น
เริ่มโตเป็นหนุ่ม
ในช่วงปี พ.ศ. 2533
จากการชักชวน
ให้ก้าวเข้ามา
ในวงการบันเทิง
อีกครั้งหนึ่ง
จากการแนะนำ
ของคุณกร
ภารากร พิทักษ์พานิช
(เจ้าของบริษัท
กร โมเดลลิ่ง)
ซึ่งจากหน้าตา
ที่หล่อเหลา
ในแบบลูกครึ่ง
และมีรูปร่าง
ที่ดูสูงใหญ่
ตั้งแต่อายุน้อย
ก็ทำให้ในฐานะ
นายแบบวัยรุ่น
ในช่วงปี พ.ศ. 2533
ถึงประมาณปี พ.ศ. 2540
ที่ผ่านมานั้น
หนุ่มหล่อท่านนี้
มีผลงานการถ่ายแบบ
ลงในนิตยสารวัยรุ่น
และนิตยสารแฟชั่น
(Angel , The Boy
Face , Heart
เธอกับฉัน ฯลฯ)
และมีผลงาน
ในด้านโฆษณา
(ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า
BRUTUS JEANS
ผลิตภัณ์เสื้อผ้า
และรองเท้า
SOLDATO
ขนมกูลิโกะป๊อกกี้
รถยนต์โตโยโต้า
ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า
และรองเท้าแพน
ขนมเจลลี่ปีโป้ ฯลฯ)
ให้ได้ติดตามรับชม
อย่างต่อเนื่อง
(เป็นการบันทึก
ถึงในช่วงปี พ.ศ. 2540
เพียงเท่านั้น
โดยจากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ในช่วงหลังปี พ.ศ. 2540
ที่คุณแพทนั้น
ไปศึกษาต่อ
ที่ต่างประเทศ
ในบางครั้ง
ก็มีผลงาน
ด้านการถ่ายแบบ
ของคุณแพท
ที่มีการตีพิมพ์
ลงในนิตยสารเธอกับฉัน
ในช่วงที่เขานั้น
กลับมาประเทศไทย
โดยหากมีข้อมูล
เป็นการเพิ่มเติม
ก็จะมีการแก้ไข
และระบุช่วงเวลา
ในการทำงาน
ด้านการเป็นนายแบบ
ของคุณแพท
ในช่วงยุคหลัง
ของปี พ.ศ. 2540
อีกครั้งหนึ่ง)
โดยนอกจากผลงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
และมีผลงาน
ในด้านโฆษณา
จากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
คุณแพท แพทริค อัลเทอร์เมท
ยังมีผลงานด้านการแสดง
ฝากไว้ในวงการบันเทิง
ในช่วงยุค 90
โดยในฐานะ
นักแสดงรับเชิญ
นายแบบวัยรุ่น
หนุ่มหล่อท่านนี้
มีผลงานการแสดง
ฝากไว้ในผลงาน
ภาพยนตร์แนววัยรุ่น
เรื่อง สติแตกสุดขั้วโลก
ของบริษัทภาพยนตร์
ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น
ซึ่งเป็นผลงาน
การกำกับภาพยนตร์
โดยคุณพจน์ อานนท์
ซึ่งมีการเปิดตัว
ต่อสื่อมวลชน
และเข้าฉาย
ในโรงภาพยนตร์
ทั่วประเทศ
ในช่วงปี พ.ศ. 2538
ซึ่งจากการทำงาน
ในบทบาทรับเชิญ
ในผลงานภาพยนตร์
ที่เป็นการรวบรวม
เหล่านักแสดง
นักร้อง นายแบบ
นางแบบวัยรุ่น
ที่เคยมีผลงาน
การถ่ายแบบ
ลงในนิตยสาร
เธอกับฉัน อานนท์
พจน์ อานนท์
Angel Heart
ในช่วงเวลา
ที่คุณพจน์ อานนท์
รับตำแหน่ง
เป็นบรรณาธิการ
ในเรื่องนี้นี้เอง
ก็ทำให้ผลงานเรื่องนี้
ถือเป็นผลงาน
ด้านการแสดง
ที่เขาได้ร่วมแสดง
ในภาพยนตร์
เรื่องเดียวกัน
กับคุณชาช่า
ซึ่งเป็นน้องสาว
นอกเหนือจากการทำงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
และการทำงาน
ในด้านโฆษณา
ซึ่งเคยร่วมงานกัน
มาก่อนหน้านี้แล้ว
หลาย-หลายครั้ง
ในฐานะนายแบบเด็ก
และนายแบบวัยรุ่น
ที่มีผลงาน
การถ่ายแบบ
และมีผลงาน
ในด้านโฆษณา
ฝากไว้ในช่วงยุค 80
และช่วงยุค 90
คุณแพท แพทริค อัลเทอร์เมท
ที่เป็นที่จดจำของผู้ชม
ที่เป็นกลุ่มวัยรุ่น
ในช่วงยุค 90
ในแง่ของความหล่อเหลา
และการเป็นคู่พี่น้อง
นายแบบ นางแบบ
และนักแสดงวัยรุ่น
อีกคู่หนึ่ง
ของวงการบันเทิง
ห่างหายจากการทำงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
และการทำงาน
ในด้านโฆษณา
ซึ่งเป็นงานเบื้องหน้า
ของวงการบันเทิง
ไปตามวันและเวลา
ที่ในแต่ละยุคสมัย
ของวงการบันเทิง
ย่อมจะมีนักแสดง
นักร้อง นายแบบ
นางแบบวัยรุ่น
ในรุ่นใหม่ๆ
ที่ก้าวเข้ามา
สร้างสีสัน
ความสวยงาม
และความสนุกสนาน
ให้กับวงการบันเทิง
ในแต่ละช่วงเวลา
หมุนเวียนเปลี่ยนไป
อย่างต่อเนื่องเสมอ
โดยในการบันทึก
บทความของบลอก
ในครั้งนี้นั้น
หากมีข้อมูล
ที่มีความผิดพลาด
หรือมีรายละเอียด
ที่ไม่ครบถ้วน
ผู้เขียนบลอก
ต้องขออภัย
คุณแพทริค อัลเทอร์เมท
และทางครอบครัว
รวมถึงผู้อ่าน
ทุก-ทุกท่าน
ไว้ ณ ที่นี้
จากความสำเร็จ
ของการสร้างสรรค์
ผลงานภาพยนตร์
และละครโทรทัศน์
ในแนวชีวิต-วัยรุ่น
หลาย-หลายเรื่อง
ที่ได้รับความนิยม
จากผู้ชมอย่างมาก
ในช่วงต้นยุค 90
ทำให้ในช่วงปี พ.ศ. 2534
ถึงประมาณปี พ.ศ. 2540
ที่ผ่านมานั้น
วงการบันเทิง
ของประเทศไทย
มีกระแสความนิยม
ในการสร้างสรรค์
สื่อบันเทิงต่างๆ
ทั้งในด้านภาพยนตร์
ละครโทรทัศน์
รายการโทรทัศน์
โฆษณา นิตยสาร
ที่มีกลุ่มเป้าหมาย
เป็นกลุ่มผู้ชม
ที่เป็นเหล่าวัยรุ่น
ซึ่งจากกระแส
ของความนิยม
ในรูปแบบนี้เอง
ทำให้ในช่วงต้นยุค 90
ถึงช่วงกลางยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
วงการบันเทิง
ของประเทศไทย
ได้มีโอกาส
ในการต้อนรับ
เหล่าหนุ่ม-สาว
อายุน้อย
ซึ่งมีหน้าตา
ที่น่ารัก สดใส
ให้ก้าวเข้ามา
มีผลงานต่างๆ
ฝากไว้ในวงการบันเทิง
อย่างมากมาย
โดยจากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
คุณแพท แพทริค อัลเทอร์เมท
หนุ่มน้อยน่ารักท่านนี้
ถือเป็นนายแบบ
จากนิตยสารวัยรุ่น
อีกท่านหนึ่ง
ที่มีผลงาน
การถ่ายแบบ
และมีผลงาน
ในด้านโฆษณา
ฝากไว้อย่างต่อเนื่อง
ในช่วงต้นยุค 90
ถึงช่วงกลางยุค 90
โดยในการบันทึก
บทความของบลอก
ในครั้งนี้นั้น
จะเป็นการบันทึก
เส้นทางการทำงาน
โดยย้อนกลับไป
ตั้งแต่การทำงาน
ตั้งแต่ในช่วงวัยเด็ก
ของคุณแพท
ตั้งแต่ในช่วงกลางยุค 80
ที่มีผลงาน
การถ่ายแบบ
และโฆษณา
ในฐานะนายแบบเด็ก
ไปจนถึงการทำงาน
ในช่วงวัยรุ่น
ที่มีผลงาน
ด้านการถ่ายแบบ
และโฆษณา
ที่มีการตีพิมพ์
ลงในนิตยสาร
แนววัยรุ่น
หลาย-หลายฉบับ
ในช่วงเวลานั้น
(โดยในการบันทึก
บทความของบลอก
ในครั้งนี้นั้น
เนื่องจากข้อมูล
ในนิตยสารต่างๆ
ในช่วงยุค 90
ลงนามสกุล
ของคุณแพท
ไว้ทั้ง อัลเทอร์เมท
และ อัลเทอร์แมท
ผู้เขียนบลอก
จึงเลือกบันทึก
ในข้อมูล
ที่มีการบันทึก
มากที่สุด
คือ อัลเทอร์เมท
โดยหากมีข้อผิดพลาด
ผู้เขียนบลอก
ต้องขออภัย
ทางครอบครัว
ของคุณแพท
และผู้อ่าน
ทุก-ทุกท่าน
ไว้ ณ ที่นี้)
สำหรับข้อมูล
ประวัติส่วนตัว
ของนายแบบวัยรุ่น
หนุ่มหล่อท่านนี้
คุณแพทริค อัลเทอร์เมท
(Patrick Altermatt)
หรือ คุณแพท
เป็นลูกครึ่ง
ไทย-อเมริกัน
โดยเติบโตมา
ในครอบครัว
ที่มีคุณพ่อ
เป็นชาวอเมริกัน
และมีคุณแม่
เป็นชาวไทย
โดยในฐานะ
ของการเป็นสมาชิก
ในครอบครัว
อย่างที่ผู้อ่าน
ทุก-ทุกท่าน
ที่เป็นวัยรุ่น
ในช่วงยุค 90
คงจะทราบกันดี
คุณแพทมีน้องสาว
คือ คุณชาช่า
แคทรีน อัลเทอร์เมท
(Kathleen Altermatt)
ที่ในช่วงยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
มีผลงาน
การถ่ายแบบ
ลงในนิตยสาร
แนววัยรุ่น
และมีผลงาน
ด้านการแสดง
อย่างภาพยนตร์
และละครโทรทัศน์
ฝากไว้มากมาย
ในช่วงยุค 90
โดยจากบทสัมภาษณ์
ในช่วงปี พ.ศ. 2537
นายแบบวัยรุ่นท่านนี้
กำลังมีอายุ 17 ปี
และกำลังศึกษา
ในระดับเกรด 11
ที่โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี
(โดยก่อนหน้านี้นั้น
เขาเริ่มต้นการศึกษา
ในระดับอนุบาล
ถึงชั้นประถมปีที่ 2
ที่โรงเรียนปานะพันธุ์วิทยา
จากนั้นจึงมาศึกษาต่อ
ที่โรงเรียนบางกอกพัฒนา
และโรงเรียนร่วมฤดี
โดยในระหว่างนั้น
ก็มีในบางช่วง
ที่ย้ายตามครอบครัว
ไปประเทศอังกฤษ
และสหรัฐอเมริกา)
จากบทสัมภาษณ์
ในช่วงยุค 90
กิจกรรมพิเศษ
ในช่วงวัยเรียน
ที่คุณแพท
ให้ความสนใจ
นอกจากงานพิเศษ
ในด้านการถ่ายแบบ
ให้กับนิตยสารต่างๆ
คือการเล่นกีฬา
อย่าง กอล์ฟ
ฟุตบอล บาสเก็ตบอล
(ข้อมูลมีการบันทึก
จากบทสัมภาษณ์
ในปี พ.ศ. 2537
เพียงเท่านั้น)
สำหรับเส้นทาง
การทำงาน
ในฐานะนายแบบ
ของคุณแพท
แพทริค อัลเทอร์เมท
จากบทสัมภาษณ์
ในช่วงปี พ.ศ. 2537
หนุ่มหล่อท่านนี้
เริ่มต้นการทำงาน
ในวงการบันเทิง
เป็นครั้งแรก
ในช่วงปี พ.ศ. 2527
จากการทำงาน
ในฐานะนายแบบเด็ก
ตั้งแต่ที่คุณแพทนั้น
มีอายุได้เพียง 7 ปี
ซึ่งจากผลงาน
ในด้านโฆษณา
ของผลิตภัณฑ์
เครื่องดื่มโอวัลติน
ที่เขารับงานนี้
เป็นครั้งแรก
ร่วมกับน้องสาว
คือ คุณชาช่า
(ที่ในขณะนั้น
มีอายุ 6 ปี)
ก็ทำให้ในฐานะ
ของการเป็นนายแบบ
และนางแบบเด็ก
ทั้งคุณแพท
และคุณชาช่า
ก็ถือเป็นคู่พี่น้อง
ที่มีผลงาน
การถ่ายแบบ
การเดินแบบ
และมีผลงาน
ในด้านโฆษณา
ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า
และสินค้า
สำหรับเด็กๆ
ฝากไว้มากมาย
ในวงการบันเทิง
ในช่วงปลายยุค 80
ที่ผ่านมา
หลังจากการทำงาน
ในฐานะนายแบบเด็ก
ตั้งแต่ในช่วงปี พ.ศ. 2527
คุณแพท แพทริค อัลเทอร์เมท
เป็นที่รู้จักในกลุ่มวัยรุ่น
ในฐานะนายแบบ
ที่มีผลงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
ที่มีการตีพิมพ์
ลงในนิตยสารวัยรุ่น
และมีผลงาน
ในด้านโฆษณา
ในช่วงที่เขานั้น
เริ่มโตเป็นหนุ่ม
ในช่วงปี พ.ศ. 2533
จากการชักชวน
ให้ก้าวเข้ามา
ในวงการบันเทิง
อีกครั้งหนึ่ง
จากการแนะนำ
ของคุณกร
ภารากร พิทักษ์พานิช
(เจ้าของบริษัท
กร โมเดลลิ่ง)
ซึ่งจากหน้าตา
ที่หล่อเหลา
ในแบบลูกครึ่ง
และมีรูปร่าง
ที่ดูสูงใหญ่
ตั้งแต่อายุน้อย
ก็ทำให้ในฐานะ
นายแบบวัยรุ่น
ในช่วงปี พ.ศ. 2533
ถึงประมาณปี พ.ศ. 2540
ที่ผ่านมานั้น
หนุ่มหล่อท่านนี้
มีผลงานการถ่ายแบบ
ลงในนิตยสารวัยรุ่น
และนิตยสารแฟชั่น
(Angel , The Boy
Face , Heart
เธอกับฉัน ฯลฯ)
และมีผลงาน
ในด้านโฆษณา
(ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า
BRUTUS JEANS
ผลิตภัณ์เสื้อผ้า
และรองเท้า
SOLDATO
ขนมกูลิโกะป๊อกกี้
รถยนต์โตโยโต้า
ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า
และรองเท้าแพน
ขนมเจลลี่ปีโป้ ฯลฯ)
ให้ได้ติดตามรับชม
อย่างต่อเนื่อง
(เป็นการบันทึก
ถึงในช่วงปี พ.ศ. 2540
เพียงเท่านั้น
โดยจากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ในช่วงหลังปี พ.ศ. 2540
ที่คุณแพทนั้น
ไปศึกษาต่อ
ที่ต่างประเทศ
ในบางครั้ง
ก็มีผลงาน
ด้านการถ่ายแบบ
ของคุณแพท
ที่มีการตีพิมพ์
ลงในนิตยสารเธอกับฉัน
ในช่วงที่เขานั้น
กลับมาประเทศไทย
โดยหากมีข้อมูล
เป็นการเพิ่มเติม
ก็จะมีการแก้ไข
และระบุช่วงเวลา
ในการทำงาน
ด้านการเป็นนายแบบ
ของคุณแพท
ในช่วงยุคหลัง
ของปี พ.ศ. 2540
อีกครั้งหนึ่ง)
โดยนอกจากผลงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
และมีผลงาน
ในด้านโฆษณา
จากความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
คุณแพท แพทริค อัลเทอร์เมท
ยังมีผลงานด้านการแสดง
ฝากไว้ในวงการบันเทิง
ในช่วงยุค 90
โดยในฐานะ
นักแสดงรับเชิญ
นายแบบวัยรุ่น
หนุ่มหล่อท่านนี้
มีผลงานการแสดง
ฝากไว้ในผลงาน
ภาพยนตร์แนววัยรุ่น
เรื่อง สติแตกสุดขั้วโลก
ของบริษัทภาพยนตร์
ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น
ซึ่งเป็นผลงาน
การกำกับภาพยนตร์
โดยคุณพจน์ อานนท์
ซึ่งมีการเปิดตัว
ต่อสื่อมวลชน
และเข้าฉาย
ในโรงภาพยนตร์
ทั่วประเทศ
ในช่วงปี พ.ศ. 2538
ซึ่งจากการทำงาน
ในบทบาทรับเชิญ
ในผลงานภาพยนตร์
ที่เป็นการรวบรวม
เหล่านักแสดง
นักร้อง นายแบบ
นางแบบวัยรุ่น
ที่เคยมีผลงาน
การถ่ายแบบ
ลงในนิตยสาร
เธอกับฉัน อานนท์
พจน์ อานนท์
Angel Heart
ในช่วงเวลา
ที่คุณพจน์ อานนท์
รับตำแหน่ง
เป็นบรรณาธิการ
ในเรื่องนี้นี้เอง
ก็ทำให้ผลงานเรื่องนี้
ถือเป็นผลงาน
ด้านการแสดง
ที่เขาได้ร่วมแสดง
ในภาพยนตร์
เรื่องเดียวกัน
กับคุณชาช่า
ซึ่งเป็นน้องสาว
นอกเหนือจากการทำงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
และการทำงาน
ในด้านโฆษณา
ซึ่งเคยร่วมงานกัน
มาก่อนหน้านี้แล้ว
หลาย-หลายครั้ง
และนายแบบวัยรุ่น
ที่มีผลงาน
การถ่ายแบบ
และมีผลงาน
ในด้านโฆษณา
ฝากไว้ในช่วงยุค 80
และช่วงยุค 90
คุณแพท แพทริค อัลเทอร์เมท
ที่เป็นที่จดจำของผู้ชม
ที่เป็นกลุ่มวัยรุ่น
ในช่วงยุค 90
ในแง่ของความหล่อเหลา
และการเป็นคู่พี่น้อง
นายแบบ นางแบบ
และนักแสดงวัยรุ่น
อีกคู่หนึ่ง
ของวงการบันเทิง
ห่างหายจากการทำงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
และการทำงาน
ในด้านโฆษณา
ซึ่งเป็นงานเบื้องหน้า
ของวงการบันเทิง
ไปตามวันและเวลา
ที่ในแต่ละยุคสมัย
ของวงการบันเทิง
ย่อมจะมีนักแสดง
นักร้อง นายแบบ
นางแบบวัยรุ่น
ในรุ่นใหม่ๆ
ที่ก้าวเข้ามา
สร้างสีสัน
ความสวยงาม
และความสนุกสนาน
ให้กับวงการบันเทิง
ในแต่ละช่วงเวลา
หมุนเวียนเปลี่ยนไป
อย่างต่อเนื่องเสมอ
โดยในการบันทึก
บทความของบลอก
ในครั้งนี้นั้น
หากมีข้อมูล
ที่มีความผิดพลาด
หรือมีรายละเอียด
ที่ไม่ครบถ้วน
ผู้เขียนบลอก
ต้องขออภัย
คุณแพทริค อัลเทอร์เมท
และทางครอบครัว
รวมถึงผู้อ่าน
ทุก-ทุกท่าน
ไว้ ณ ที่นี้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
สโมสรผึ้งน้อย (1984)
SAN MIGUEL BEER (1989)
บทความเก่าของบลอก
SVESVESB / YASUO MIYATA (1982)
SEVENTH HEAVEN (1996-2007)
เสือ 11 ตัว (2001)
บทความเก่าของบลอก
NIVEA SKIN LOTION (1988)
BALENO / DAVID WU (1989)
สิงห์โกลด์ไลท์เบียร์ (1989)
From Me To You
การจัดทำบลอกนี้
เกิดจากความรู้สึก
ที่ผู้เขียนบลอก
อยากจะบันทึก
ความทรงจำ
ก่อนการมาถึง
ขอให้นำไปใช้
หรือใช้ถ้อยคำ
ความทรงจำ
ในช่วงเวลา
ของวันเก่าๆ
ผ่านเส้นทาง
จากเรื่องราว
และผลงานต่างๆ
ของเหล่าดารา
นักร้อง นักแสดง
นายแบบ นางแบบ
นักเขียน ฯลฯ
นักร้อง นักแสดง
นายแบบ นางแบบ
นักเขียน ฯลฯ
ซึ่งมีความเกี่ยวข้อง
กับศิลปะบันเทิง
ในช่วงยุคสมัย
ในช่วงยุคสมัย
ก่อนการมาถึง
ของอินเทอร์เน็ต
ที่แพร่หลาย
ที่แพร่หลาย
ในสังคมไทย
อย่างในทุกวันนี้
ซึ่งในการจัดทำ
ซึ่งในการจัดทำ
ผู้เขียนบลอก
ได้รวบรวม
เรื่องราวต่างๆ
จากความทรงจำ
และค้นข้อมูล
และค้นข้อมูล
โดยนำรูปภาพ
จากนิตยสารต่างๆ
ในช่วงเวลาอดีต
นำมารวบรวม
และเรียบเรียง
ให้เป็นภาพชัดเจน
ขึ้นมาอีกครั้ง
ด้วยสิ่งที่ตนเองนั้น
ด้วยสิ่งที่ตนเองนั้น
ยังคงเก็บไว้
ด้วยความมุ่งหวัง
ด้วยความมุ่งหวัง
ในการนำเสนอ
ด้วยความให้เกียรติ
ผ่านการนำเสนอ
ผ่านการนำเสนอ
ในด้านที่สวยงาม
ซึ่งในการจัดทำ
บทความต่างๆ
ซึ่งต้องใช้ภาพ
จากนิตยสารแฟชั่น
และนิตยสารบันเทิง
ในฉบับต่างๆ
จากช่วงยุค 70
ถึงช่วงปลายยุค 90
ซึ่งภาพทั้งหมดนั้น
ถือเป็นลิขสิทธิ์
ของนิตยสาร
และช่างภาพ
ท่านต่างๆ
ทำให้ผู้เขียนบลอก
มีความตั้งใจ
ที่จะจัดทำบลอกนี้
โดยไม่แสวงผลกำไร
และไม่เปิดรับโฆษณา
เพื่อเป็นการยุติธรรม
ต่อเจ้าของภาพ
ในนิตยสาร หนังสือ
และวีดีโอต่างๆ
ที่ผู้เขียนบลอก
นำมาเรียบเรียงไว้
ในบทความ
โดยในการจัดทำ
ผู้เขียนบลอก
อยากจะขอขอบคุณ
นิตยสารและช่างภาพ
ซึ่งเป็นเจ้าของภาพ
สำหรับภาพสวยๆ
ในทุก-ทุกรูป
และอยากจะขอ
ความกรุณา
จากผู้อ่านทุกท่าน
ที่จะนำข้อมูล
ที่จะนำข้อมูล
และภาพต่างๆ
ในบลอกนี้
ซึ่งผู้เขียนบลอก
ไม่ใช่เจ้าของ
ในด้านลิขสิทธิ์
นำไปเผยแพร่
ขอให้ทุกท่าน
ขอให้ทุกท่าน
ที่จะนำภาพไปใช้
ขอให้นำไปใช้
โดยมิใช่เพื่อการค้า
หรือนำไปรวบรวมใว้
ในเวบไซต์ เพจ
หรือบลอกต่างๆ
ที่มีการลงโฆษณา
หรือนำไปประกอบ
ในข้อความ บทความ
ที่จะเป็นการล่วงเกิน
ผู้ที่เป็นแบบ
ในภาพนั้นๆ
จากการนำไปใช้
จากการนำไปใช้
ร่วมกับข้อความ
ที่มีข้อมูล
ในด้านลบ
หรือใช้ถ้อยคำ
ที่มีความหยาบคาย
ซึ่งจะสร้างความเสียหาย
ให้กับผู้เป็นแบบ
ซึ่งอยู่ในภาพ
ท่านนั้นๆ
SUMMER CONCERT / JIMMY LIN (1992)
SUCCESS / EISAKU YOSHIDA (1989)
DIG MEN / TAKAHASHI BROTHERS (1989)
บทความเก่าของบลอก
DAWSON'S CREEK (1998-2003)
ชาวเวอร์ทูชาวเวอร์ / จอนนี่ แอนโฟเน่ (1989)
โฆษณาเครื่องดื่มเป็ปซี่ / พีท ทองเจือ (1992)
บทความเก่าของบลอก
MELROSE PLACE (1992-1999)
ในช่วงยุค 70-90 นั้น
สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทการ์ตูน
ที่เข้ามาแพร่หลาย
ในประเทศไทยนั้น
ยังไม่ได้อยู่ภายใต้การบังคับ
ของกฎหมายลิขสิทธิ์
อย่างที่เกิดขึ้น
ในประเทศไทย
ในช่วงปี พ.ศ. 2535
ทำให้วงการการ์ตูน
ในประเทศไทย
ในขณะนั้น
มีการแข่งขันกัน
ระหว่างสำนักพิมพ์ต่างๆ
ในการตีพิมพ์และวางจำหน่าย
ผลงานการ์ตูนเรื่องดังๆ
จากประเทศญี่ปุ่น
จากเหตุผลในข้อนี้เอง
ทำให้เกิดนิตยสารการ์ตูน
เพื่อที่จะได้มีการแปล
และวางจำหน่าย
ให้ทันกับต้นฉบับ
ของนิตยสารการ์ตูน
ที่วางขายในประเทศญี่ปุ่น
และ กิฟท์ แม็กกาซีน
ของ ไลน์อาร์ทแพลนนิ่ง
ถือเป็นหนึ่งในนิตยสารการ์ตูน
สำหรับเด็กผู้หญิง
ที่โด่งดังมากที่สุด
ในช่วงยุค 80
ที่ผ่านมา
จากการมีการ์ตูนเรื่องดังๆ
อย่าง ไซเฟอร์ ไอบอย
เลขรักพิสดาร
อสูรน้อยกระซิบรัก
ตีพิมพ์เป็นประจำ
โดยนอกจากการ์ตูนฮิตเหล่านี้
กิฟท์ แม็กกาซีน
ยังมีลักษณะเฉพาะ
ที่มีความพิเศษ
ที่เป็นที่ชื่นชอบ
ของผู้อ่านมากมาย
จนกลายเป็นนิตยสารการ์ตูน
สำหรับเด็กผู้หญิง
ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ
ของผู้อ่านทุก-ทุกคน
มาจนถึงในทุกวันนี้
โดยผู้อ่านบลอก
ที่สนใจและชื่นชอบ
ในนิตยสารเล่มนี้
สามารถอ่านบทความ
และชมภาพทั้งหมด
ได้ในหัวข้อ 80 thai magazine
และ 90 thai magazinr
SUNTORY NCAA / KOJI KIKKAWA (1985)
MR PRIVATE EYE / CITY HUNTER (1987)
บทความเก่าของบลอก
คิขุอาโนเนะ / วงบอยสเก๊าท์ (1993)
THE DREW CAREY SHOW (1995-2004)
SUNTORY / KAORU KOBAYASHI (1987)
JAL OKINAWA / TORU KAZAMA (1989)
BEVERLY HILLS 90210 (1990-2000)
บทความเก่าของบลอก
LOVE LIGHT / YU HAYAMI (1982)
PRIVATE LIFE / SHONENTAI (1987)
ในช่วงยุค 80
ที่ผ่านมานั้น
ถือเป็นช่วงยุคเฟื่องฟู
ของเหล่านักแสดง
นักร้องวัยรุ่น
ขวัญใจวัยรุ่น
จากประเทศญี่ปุ่น
ที่เริ่มเป็นที่รู้จัก
และมีชื่อเสียง
ในประเทศไทย
โดยหลังจากความสำเร็จ
ของละครโทรทัศน์
เรื่อง เคนโด้
ข้าคือลุกผู้ชาย
รวมถึงละครโทรทัศน์
แนวกีฬา
จากประเทศญี่ปุ่น
อีกหลายๆเรื่อง
ที่เข้ามาแพร่ภาพ
และได้รับความนิยม
ในประเทศไทย
ในช่วงยุค 70
ผู้ชมชาวไทย
ก็เริ่มจะเปิดรับ
ผลงานเพลง
ละครโทรทัศน์
และภาพยนตร์เรื่องต่างๆ
จากประเทศญี่ปุ่น
โดยในฐานะ
กลุ่มนักร้อง
ขวัญใจวัยรุ่น
สามนักร้องหนุ่มหล่อ
วง Shonentai
ถือเป็นกลุ่มนักร้อง
จากประเทศญี่ปุ่น
ที่ได้รับความนิยม
จากสาวๆชาวไทย
มากที่สุด
ในช่วงยุค 80
ซึ่งความโด่งดัง
ของพวกเขา
ทำให้ผู้ชม
ในประเทศไทยเอง
ได้มีโอกาสต้อนรับ
และเข้าชมคอนเสริต์
ของพวกเขา
ที่มีการจัดขึ้น
ในประเทศไทย
ซึ่งถือเป็นความยิ่งใหญ่
ในยุคสมัย
ที่ยังไม่มี Internet
และสื่อบันเทิงต่างๆ
ให้ได้ติดตามรับชม
กันอย่างมากมาย
เหมือนในทุกวันนี้
โดยผู้อ่านของบลอก
ที่คิดถึงผลงาน
และเรื่องราวเก่าๆ
ในช่วงแรก
ของอาชีพนักร้อง
ของทั้งสามหนุ่มหล่อนี้
สามารถติดตามเรื่องราว
และรับชมรูปภาพ
ของพวกเขาได้
ในหัวข้อ 80 Japan Male Idol
แกล้งโง่ / ฝันดี ฝันเด่น จรรยาธนากร (1994)
บทความเก่าของบลอก
ขอคืน / บอยสเก๊าท์ (1993)
EARLY EDITION (1996-2000)
บทความเก่าของบลอก
STILL LOVE HER / TM NETWORK
ปราสาทมืด (1994)
MEIJI CHOCOLAT (1993)
TOKI WO KAKERU SHOUJO (1983)
บทความเก่าของบลอก
AGAINST ALL ODDS (1984)
GLICO ALMOND / RYUJI HARADA (1992)
โปลิศจับขโมย (1996)
ภาพยนตร์คุณภาพ
และ คุณทองขาว มะขาวป้อม
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้
จากการที่คุณอุดมนั้น
โดยรายนามของผู้สร้างสรรค์
อำนวยการสร้าง
ดนตรีประกอบ
ภาพยนตร์เรื่อง ปุกปุย
โดยแม้จะมาพร้อม
เนื่องจากต้องรอคิว
และเวลาในการออกฉาย
ก่อนที่ภาพยนตร์เล็กๆเรื่องนี้
และยังคงอยู่ในความทรงจำ
ร่วมด้วย ด.ญ. ปรางใส ณ นคร
ด.ช. ศุภชัย ชัยวัฒนเมธิน
เกรียงไกร อุณหนันท์
ธิติมา สังขพิทักษ์
และ ญาณี จงวิสุทธิ์
เรื่อง ปุกปุย
ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ
ของผู้ชมภาพยนตร์
หลาย-หลายท่าน
มาจนถึงในทุกวันนี้
เกิดจากแนวคิด
ในการเขียนบท
ของ คุณอุดม อุดมโรจน์
และ คุณทองขาว มะขาวป้อม
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้
มีชื่อแรกในบทร่าง
ว่า ใครใครก็ไม่รัก
ซึ่งแนวคิดของเรื่อง
ได้รับแรงบันดาลใจ
มาจาก My Life As a Dog
จากการที่คุณอุดมนั้น
ต้องการสร้างภาพยนตร์
เกี่ยวกับเด็กเด็ก
ในแนวคิดที่อยากนำเสนอ
ให้สังคมและครอบครัว
หันมาใส่ใจ
และดูแลเด็กเด็ก
ในด้านความรู้สึก
ของพวกเขามากกว่านี้
โดยรายนามของผู้สร้างสรรค์
ภาพยนตร์คุณภาพเรื่องนี้
มีดังนี้ กำกับภาพยนตร์
โดย อุดม อุดมโรจน์
อำนวยการสร้าง
โดย จรัญ/วิสูตร พูลวรลักษณ์
ถ่ายภาพ
โดย ปัญญา นิ่มเจริญพงศ์
ดนตรีประกอบ
โดย จำรัส เศวตาภรณ์
ภาพยนตร์เรื่อง ปุกปุย
เปิดตัวต่อสื่อมวลชน
และออกฉายทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2533
โดยแม้จะมาพร้อม
กับคุณภาพ
และงานการสร้าง
ที่มีความสมบูรณ์แบบ
แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้
ไม่ได้ออกฉายทันที
ที่การถ่ายทำเสร็จสิ้นลง
เนื่องจากต้องรอคิว
และเวลาในการออกฉาย
ในโรงภาพยนตร์
ที่มีจังหวะเหมาะสม
ก่อนที่ภาพยนตร์เล็กๆเรื่องนี้
จะทำรายได้ในปีนั้น
ไปอย่างเหนือความคาดหมาย
และยังคงอยู่ในความทรงจำ
ของผู้ชมทุก-ทุกคน
มาจนถึงทุกในวันนี้
ภาพยนตร์เรื่อง ปุกปุย
นำแสดงโดย ด.ช. ณพัชร สุพัฒนกุล
ที่ให้การแสดงชั้นยอด
และเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่บทภาพยนตร์ต้องการ
ร่วมด้วย ด.ญ. ปรางใส ณ นคร
ด.ช. ศุภชัย ชัยวัฒนเมธิน
เกรียงไกร อุณหนันท์
ธิติมา สังขพิทักษ์
และ ญาณี จงวิสุทธิ์
สบตา / แอนเดรีย สวอเรซ (1994)
อยากรู้ความจริง / ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง (1992)
ครีมอาบน้ำลักส์ / อัญชลี จงคดีกิจ (1985)
บทความเก่าของบลอก
MISSING YOU / TOMMY PAGE (1997)
ในปี พ.ศ. 2541
สถานีโทรทัศน์ช่อง 3
โดยละครโทรทัศน์เรื่องนี้
ดัดแปลงเป็นบทโทรทัศน์
กำกับการแสดง
รับบท สีหนาท หรือ นายสิงห์
รามาวดี สิริสุขะ
รับบท หนูนา หรือ นารา
พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
รับบท ราม
นาถยา แดงบุหงา รับบท รัศมี
ชไมพร สิทธิวรนันท์
รับบท จุฑารัตน์ หรือ จุ๊
เมธี อมรวุฒิกุล รับบท สารวัตรกช
รุ้งทอง ร่วมทอง รับบท ขนิษฐา
สมบัติ เมทะนี รับบท วรรณ
ทนงศักดิ์ ศุภการ รับบท ศักดา
ดารณีนุช โพธิปิติ รับบท แป้น
พิมพกา เสียงสมบุญ รับบท พวง
วัชรเกียรติ บุญภักดี รับบท เรือง
สถานีโทรทัศน์ช่อง 3
ร่วมกับบริษัท ยูมาร์ 99 จำกัด
ได้เสนอละครโทรทัศน์
เรื่อง ตามรักคืนใจ
แพร่ภาพเป็นประจำ
ทุกวันศุกร์และเสาร์
เวลา 20:30 น.
ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3
โดยละครโทรทัศน์เรื่องนี้
สร้างจากบทประพันธ์
ของ กิ่งฉัตร
ดัดแปลงเป็นบทโทรทัศน์
โดย ทุ่งดอกไม้
กำกับการแสดง
โดย วิลักษณา
นำแสดงโดย ธนากร โปษยานนท์
รับบท สีหนาท หรือ นายสิงห์
รามาวดี สิริสุขะ
รับบท หนูนา หรือ นารา
พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
รับบท ราม
นาถยา แดงบุหงา รับบท รัศมี
นพชัย มัททวีวงศ์ รับบท อดิศร
ชไมพร สิทธิวรนันท์
รับบท จุฑารัตน์ หรือ จุ๊
เมธี อมรวุฒิกุล รับบท สารวัตรกช
รุ้งทอง ร่วมทอง รับบท ขนิษฐา
สมบัติ เมทะนี รับบท วรรณ
ทนงศักดิ์ ศุภการ รับบท ศักดา
ดารณีนุช โพธิปิติ รับบท แป้น
พิมพกา เสียงสมบุญ รับบท พวง
ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ รับบท เอกชาติ
วัชรเกียรติ บุญภักดี รับบท เรือง
บทความเก่าของบลอก
เธอยังคงมีฉัน / ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี (1994)
NEVER SURRENDER / COREY HART (1985)
คลังบทความของบล็อก
- เมษายน (1)
- ตุลาคม (1)
- สิงหาคม (1)
- กรกฎาคม (1)
- มิถุนายน (1)
- พฤษภาคม (10)
- เมษายน (5)
- มีนาคม (5)
- กุมภาพันธ์ (4)
- มกราคม (4)
- ธันวาคม (4)
- พฤศจิกายน (1)
- กรกฎาคม (1)
- มิถุนายน (8)
- พฤษภาคม (12)
- เมษายน (12)
- มีนาคม (16)
- กุมภาพันธ์ (15)
- มกราคม (12)
- ธันวาคม (7)
- พฤศจิกายน (15)
- ตุลาคม (13)
- กันยายน (9)
- สิงหาคม (10)
- กรกฎาคม (14)
- มิถุนายน (5)
- พฤษภาคม (10)
- เมษายน (13)
- มีนาคม (12)
- กุมภาพันธ์ (10)
- มกราคม (11)
- ธันวาคม (6)
- พฤศจิกายน (7)
- ตุลาคม (5)
- กันยายน (17)
- สิงหาคม (16)
- กรกฎาคม (22)
- มิถุนายน (5)
- พฤษภาคม (5)
- เมษายน (4)
- มีนาคม (7)
- กุมภาพันธ์ (8)
- มกราคม (7)
- ธันวาคม (7)
- พฤศจิกายน (4)
- ตุลาคม (8)
- กันยายน (1)
- สิงหาคม (2)
- กรกฎาคม (4)
- มิถุนายน (3)
- พฤษภาคม (1)
- มีนาคม (1)
- ตุลาคม (1)
- กันยายน (2)
- สิงหาคม (4)
- กรกฎาคม (6)
- มิถุนายน (1)
- พฤษภาคม (1)
- เมษายน (1)
- มีนาคม (3)
- กุมภาพันธ์ (3)
- มกราคม (2)
- พฤศจิกายน (2)
- ตุลาคม (2)
- กันยายน (1)
- กรกฎาคม (3)
- มิถุนายน (5)
- เมษายน (2)
- มีนาคม (1)
- กุมภาพันธ์ (1)
- มกราคม (1)
- ธันวาคม (1)
- พฤศจิกายน (2)
- ตุลาคม (2)
- สิงหาคม (1)
- มิถุนายน (1)
- กุมภาพันธ์ (1)
TOKI / YUTAKA OZAKI (1988)
TRUE / SPANDAU BALLET (1983)
MOU DAREMO AISANAI (1991)
ในปี พ.ศ. 2543
สถานีโทรทัศน์ช่อง 3
ร่วมกับบริษัท ฮู แอนด์ ฮู
โดย วรายุฑ มิลินทจินดา
เสนอละครโทรทัศน์
เเนว โรแมนติก-แฟนตาซี
เรื่อง ดอกแก้วการะบุหนิง
โดยเป็นการสร้าง
จากบทประพันธ์
โดย แก้วเก้า
นำมาดัดแปลง
เป็นบทโทรทัศน์
โดย วรดา
กำกับการแสดง
โดย ชูศักดิ์ สุธีรธรรม
นำแสดงโดย ธนากร โปษยานนท์
รับบท ดนย์
คัทลียา แมคอินทอช
รับบท การะบุหนิง
ฉัตรชัย เปล่งพานิช
รับบท สุหราปาตี
จินตหรา สุขพัฒน์
รับบท กิรณา
เพลงประกอบละครโทรทัศน์
เพลง เธอ
โดย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค
ภาพประกอบละครโทรทัศน์
ช่วง Opening Credits
โดย อ.สุรเดช แก้วท่าไม้
ละครโทรทัศน์
เรื่อง ดอกแก้วการะบุหนิง
ออกอากาศเป็นประจำ
ทุกวันจันทร์ อังคาร
เวลา 20.25 น.
ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3
ในปี พ.ศ. 2543
บทความเก่าของบลอก
VITASOY / SIMON LO (1992)
ป้ายกำกับ
- 2000 chinese actor (3)
- 2000 chinese male idol (2)
- 2000 chinese singer (2)
- 2000 japan actor (6)
- 2000 japan actress (7)
- 2000 japan band (1)
- 2000 japan boy band idol (1)
- 2000 japan male idol (1)
- 2000 japan shoujo manga (3)
- 2000 japan singer (4)
- 2000 japan tv host (1)
- 2000 male model (1)
- 2000 thai actor (50)
- 2000 thai actress (4)
- 2000 thai artist (1)
- 2000 thai athlete (4)
- 2000 thai book (2)
- 2000 thai boy band (5)
- 2000 thai celebrity (10)
- 2000 thai director (6)
- 2000 thai dj (3)
- 2000 thai drama ch 3 (20)
- 2000 thai drama ch 5 (3)
- 2000 thai drama ch 7 (3)
- 2000 thai drama ch itv (1)
- 2000 thai magazine (23)
- 2000 thai male idol (16)
- 2000 thai male model (12)
- 2000 thai musician (2)
- 2000 thai photographer (2)
- 2000 thai pleaw magazine model(หนุ่มสาวแพรว) (2)
- 2000 thai singer (12)
- 2000 thai tv host (19)
- 2000 thai vj (1)
- 2000 tv show (1)
- 50 thai book (1)
- 60 thai book (1)
- 60 thai magazine (3)
- 70 japan book (2)
- 70 japan shoujo manga (3)
- 70 thai book (1)
- 70 thai magazine (7)
- 70 thai male model (1)
- 80 actor (2)
- 80 chinese actor (2)
- 80 chinese male idol (1)
- 80 japan actor (12)
- 80 japan actress (9)
- 80 japan artist (4)
- 80 japan band (8)
- 80 japan book (8)
- 80 japan boy band idol (6)
- 80 japan drama (3)
- 80 japan girl duo singer (2)
- 80 japan girl group idol (4)
- 80 japan girl idol (11)
- 80 japan male idol (13)
- 80 japan male model (1)
- 80 japan movie (6)
- 80 japan musicial (4)
- 80 japan musician (1)
- 80 japan shonen manga (2)
- 80 japan shoujo manga (14)
- 80 japan singer (24)
- 80 male idol (4)
- 80 male model (2)
- 80 movie (1)
- 80 musician (1)
- 80 singer (2)
- 80 thai actor (39)
- 80 thai actress (4)
- 80 thai athlete (3)
- 80 thai band (11)
- 80 thai beauty queen (1)
- 80 thai book (2)
- 80 thai celebrity (9)
- 80 thai domon man model(โดมอนแมน) (9)
- 80 thai drama ch 5 (1)
- 80 thai girl group (1)
- 80 thai girl idol (3)
- 80 thai girl model (3)
- 80 thai magazine (37)
- 80 thai male idol (38)
- 80 thai male model (79)
- 80 thai movie (6)
- 80 thai movie (five star co.) (2)
- 80 thai musician (12)
- 80 thai photographer (2)
- 80 thai pleaw magazine model(หนุ่มสาวแพรว) (16)
- 80 thai singer (21)
- 80 thai sport man (1)
- 80 thai sportsman (1)
- 80 thai tv host (3)
- 90 actor (3)
- 90 album (1)
- 90 cd (1)
- 90 chinese actor (3)
- 90 chinese drama (1)
- 90 chinese male idol (2)
- 90 chinese singer (2)
- 90 japan actor (14)
- 90 japan actress (10)
- 90 japan artist (4)
- 90 japan band (8)
- 90 japan book (6)
- 90 japan boy band idol (7)
- 90 japan girl duo singer (2)
- 90 japan girl group (1)
- 90 japan girl idol (6)
- 90 japan male idol (15)
- 90 japan manga (1)
- 90 japan movie (1)
- 90 japan musician (5)
- 90 japan shonen manga (1)
- 90 japan shoujo manga (13)
- 90 japan singer (24)
- 90 japan tv host (1)
- 90 male celebrity (1)
- 90 male idol (3)
- 90 male model (7)
- 90 movie (2)
- 90 musician (1)
- 90 shonen manga (1)
- 90 singer (1)
- 90 thai actor (79)
- 90 thai actress (7)
- 90 thai artist (1)
- 90 thai athlete (6)
- 90 thai band (9)
- 90 thai book (1)
- 90 thai boy band (4)
- 90 thai celebrity (13)
- 90 thai director (3)
- 90 thai dj (2)
- 90 thai domon man model(โดมอนแมน) (6)
- 90 thai drama ch 3 (38)
- 90 thai drama ch 5 (10)
- 90 thai drama ch 7 (22)
- 90 thai drama ch 9 (1)
- 90 thai duo singer (3)
- 90 thai girl group (1)
- 90 thai girl idol (2)
- 90 thai girl model (2)
- 90 thai girl singer (4)
- 90 thai magazine (41)
- 90 thai male idol (61)
- 90 thai male model (81)
- 90 thai movie (6)
- 90 thai movie (five star co.) (2)
- 90 thai musician (10)
- 90 thai music video (1)
- 90 thai Photographer (2)
- 90 thai pleaw magazine model(หนุ่มสาวแพรว) (10)
- 90 thai singer (33)
- 90 thai sport man (2)
- 90 thai tvc (1)
- 90 thai tv host (17)
- 90 thai tv show (1)
- 90 tv show (1)