อินทรีแดง (1997)

เพียงเธอบอกว่ารักฉัน...ว่าเธอรักฉัน
ในปี พ.ศ. 2540

สถานีโทรทัศน์ช่อง 7

ร่วมกับบริษัท

เรด ดราม่า

เอนเตอร์เทนเมนท์

เสนอละครโทรทัศน์

แนว ชีวิต

และ แอ็กชั่น

แบบจบในตอน

ชุด อินทรีแดง

โดยเป็นการสร้าง

เป็นละครโทรทัศน์

โดยได้รับแรงบันดาลใจ

มาจากตัวละคร

ในชื่อ อินทรีแดง

จากนวนิยาย

ชุด อินทรีแดง

ของ เศก ดุสิต

หรือ เริงชัย ประภาษานนท์

นำมาดัดแปลง

เป็นเค้าโครงเรื่องใหม่

เเละเขียนบทโทรทัศน์

โดย เอื้องอรุณ สมิตสุวรรณ

ละครโทรทัศน์

เรื่อง อินทรีแดง

อำนวยการสร้าง

โดย เกรียงไกร เชษฐโชติศักดิ์

สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์

สถาพร พานิชรักษาพงศ์

อำนวยการผลิต

โดย สุวัฒน์ เชษฐโชติศักดิ์

ดูแลการผลิต

โดย พงษ์ศักดิ์ ประคองสังข์

กำกับการแสดง

โดย ฉัตรชัย นาคสุริยะ

ออกแบบและดูแลคิวบู๊

โดย พันนา ฤทธิไกร

สตันท์แมนบทอินทรีแดง

โดย ทัชชกร ยีรัมย์

เพลงและดนตรี

ประกอบละครโทรทัศน์

ดูแลการผลิต

โดย นุชิต

เพลง อินทรีแดง

ขับร้องโดย เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์

ละครโทรทัศน์

เรื่อง อินทรีแดง

ออกอากาศ

เป็นประจำ

ในทุกวันอาทิตย์

เวลา 17.00 น.

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7

ในช่วงปี พ.ศ. 2540


ละครโทรทัศน์

เรื่อง อินทรีแดง

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2540

นำแสดงโดย  เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์

รับบท ฟ้าลั่น

กุลณัฐ ปรียะวัฒน์

และ กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ

รับบท มินตรา

ร่วมด้วย อำภา ภูษิต

ชลกวิน เผือกผัน

และ อนันต์ บุนนาค

โดยในแต่ละตอนนั้น

จะมีนักแสดงชื่อดัง

มารับบทบาทรับเชิญ

โดยจากความทรงจำ

ของผู้เขียนบลอก

ละครโทรทัศน์ชุดนี้

มีนักแสดงส่วนหนึ่ง

ที่มาร่วมสร้างสีสัน

และความสนุกสนาน

ในบทบาทรับเชิญ

ให้กับละครโทรทัศน์ชุดนี้

ดังนี้ พันนา ฤทธิไกร

โกวิท วัฒนกุล

สุเชาว์ พงษ์วิไล

กุลสตรี ศิริพงษ์ปรีดา

อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา

ปิยะ เศวตพิกุล

วินัย ไกรบุตร

นึกคิด บุญทอง

พิพัฒน์พล โกมารทัต

วีรชัย หัตถโกวิท

จีรศักดิ์ แสงโชติ

ฉัตรมงคล บำเพ็ญ

เจมี่ บูเฮอร์

จาตุรงค์ โกลิมาศ

รวิน ชุมเกษียร

ดำรงค์เดช แสงสว่าง

สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา

ฟรอนท์ มอนโกเมอรี่

โรเบิร์ต ออลเดรซ

อาฉี เสียงหล่อ

นัย สุขสกุล

ทัดทรวง มณีจันทร์

ด.ญ. ลักษมี ทรัพย์ปรุง

ด.ช. เจอาร์ กิตติกุลวงศ์ ฯลฯ

(ขอขอบคุณวิดีโอ

ในช่วงคิวบู๊

ของละครโทรทัศน์

เรื่อง อินทรีแดง

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2540

โดย คุณวสันต์ ภิรมย์ราช

www.youtube.com)



ละครโทรทัศน์

เรื่อง อินทรีแดง

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2540

(ซึ่งเป็นการสร้าง

จากเค้าโครงเรื่องใหม่

ที่เป็นการดัดแปลง

มาจากละครโทรทัศน์

ในแบบชุดยาว

ของอเมริกา

เรื่อง Lois & Clark

ที่กำลังได้รับความนิยม

ในประเทศไทย

ในช่วงกลางยุค 90

โดยไม่ได้อิง

มาจากนวนิยาย

ในแบบดั้งเดิม

ของ เศก ดุสิต)

เป็นเรื่องราวชีวิต

ของฟ้าลั่น

หนุ่มน้อยน่ารัก

ผู้เป็นบุตรชาย

ของมหาเศรษฐี

ที่มีความชื่นชอบ

ในนวนิยาย

ชุด อินทรีแดง

ของ เศก ดุสิต

นักเขียนชื่อดัง

จากการล่วงรู้

ในความลับ

ว่า โรม ฤทธิไกร

หรือ อินทรีแดง

มีตัวตนอยู่จริง

ก็ทำให้ฟ้าลั่นนั้น

ได้รับมอบชุด

และหน้ากาก

ของอินทรีแดง

เพื่อที่เขานั้น

จะเป็นผู้สืบทอด

การออกปฏิบัติการณ์

ในการช่วยเหลือสังคม

แทนที่ โรม ฤทธิไกร

หรือ อินทรีแดง

ผู้เป็นตัวจริง

ที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว

ถึงกว่า 20 ปี

ซึ่งจากการเข้าฝึกงาน

ในกองบรรณาธิการ

ของสำนักพิมพ์

ที่ผู้เป็นบิดา

ของเขานั้น

เป็นเจ้าของ

ก็ทำให้ฟ้าลั่น

ได้พบกับมินตรา

เพื่อนนักข่าวสาวสวย

ที่มีความชื่นชอบ

และมีความประทับใจ

ในความกล้าหาญ

ของอินทรีแดง

ซึ่งในการทำงาน

ที่ต้องฟันฝ่า

และผ่านพ้นอันตราย

ร่วมกันมาหลายครั้ง

มินตรากลับไม่เคยล่วงรู้

ว่าชายหนุ่มน่ารัก

ที่ร่าเริงและขี้เล่น

ที่อยู่ใกล้ชิดเธอ

มาโดยตลอดนั้น

แท้ที่จริงแล้ว

คือ อินทรีแดง

ที่เธอนั้น

มีความชื่นชอบ

และคอยสืบข่าว

เกี่ยวกับตัวเขา

มาโดยตลอดนั่นเอง










มารยาริษยา (1998)

คือหยาดฝน...ฉ่ำเย็น...หรือร้อนเป็นไฟ
ในปี พ.ศ. 2541

สถานีโทรทัศน์ช่อง 5

ร่วมกับบริษัท

เอ็กแซ็กท์ จำกัด

โดย ถกลเกียรติ วีรวรรณ

เสนอละครโทรทัศน์

แนว ชีวิต

เรื่อง มารยาริษยา

โดยเป็นการสร้าง

เป็นละครโทรทัศน์

จากเค้าโครงเรื่อง

และบทโทรทัศน์

โดย ผอูน จันทรศิริ

และ พรดี จันทรศิริ

กำกับการแสดง

โดย ผอูน จันทรศิริ

เพลงประกอบละครโทรทัศน์

เพลง คือความรักใช่ไหม

ขับร้องโดย เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์

เพลง เธอผู้เดียว

ขับร้องโดย มาลีวัลย์ เจมีน่า

ละครโทรทัศน์

เรื่อง มารยาริษยา

มีการแพร่ภาพ

เป็นครั้งแรก

ในทุกวันศุกร์

เสาร์ และ อาทิตย์

เวลา 18.45 น.

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5

ในช่วงปี พ.ศ. 2541

(ในช่วงกลางยุค 90

ที่ผ่านมานั้น

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5

ได้มีการทดลอง

และปรับเปลี่ยน

ในด้านผังรายการ

จากโครงการ

ในรูปแบบใหม่

ในชื่อ เทเลไฟว์

ทำให้มีการปรับ

ในด้านเวลา

จากการนำ

ละครโทรทัศน์

ในช่วงไพรม์ไทม์

ของบริษัทต่างๆ

ทั้ง เอ็กแซ็กท์

กันตนา อัครเศรณี

มีเดีย ออพ มีเดียส์ ฯลฯ

นำมาแพร่ภาพ

ในช่วงเวลาเย็น

และนำรายการโทรทัศน์

ประเภททอล์คโชว์

วาไรตี้ เกมโชว์ ฯลฯ

นำมาแพร่ภาพ

ในช่วงเวลา 20.30 น.

เพื่อเป็นทางเลือก

ให้กับผู้ชม

และลดการแข่งขัน

กับทางช่องอื่นๆ

ที่เป็นเจ้าตลาด

ในด้านละครโทรทัศน์)


ละครโทรทัศน์

เรื่อง มารยาริษยา

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2541

นำแสดงโดย สินจัย เปล่งพานิช

รับบท เพียงดาว

โอลิเวอร์ พูพาร์ท

รับบท โอม

เมทินี กิ่งโพยม

รับบท ดินี่

และขอแนะนำ

ฐิติ เวชบุล

รับบท อาร์ม

ร่วมด้วย นัฏฐา ลอยด์

รับบท แต้ว

วสันต์ อุตตมะโยธิน

รับบท อู๋

ปิยะ เศวตพิกุล

รับบท กบ

พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา

รับบท แม่อ้อย

โสรยา ศรีมิตร

รับบท สมใจ

ร่วมด้วยนักแสดงพิเศษ

ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์

และ ทิศนา ดำรงศักดิ์

ให้เกียรติร่วมแสดง

ในบทบาทรับเชิญ


ละครโทรทัศน์

เรื่อง มารยาริษยา

จากเค้าโครงเรื่อง

และบทโทรทัศน์

โดย ผอูน จันทรศิริ

และ พรดี จันทรศิริ

เป็นเรื่องราวชีวิต

และความรัก

ของเพียงดาว

นางแบบยอดนิยม

ของวงการแฟชั่น

ที่อายุที่มากขึ้น

ของเธอนั้น

ทำให้นางแบบ

ซึ่งอยู่ในแถวหน้า

ของวงการแฟชั่น

ที่มีความรับผิดชอบ

และมีความตั้งใจ

ในการทำงานคนนี้

กำลังอยู่ในช่วงสุดท้าย

ของช่วงเวลา

ที่มีความรุ่งโรจน์

ในการทำงาน

ในฐานะนางแบบ

ที่ขายความงดงาม

และความอ่อนเยาว์

ซึ่งจากข้อจำกัด

ของอาชีพ

ในรูปแบบนี้

ทำให้ในส่วนลึก

ภายในใจ

ของเพียงดาว

ซึ่งเป็นผู้หญิง

ที่มีความเข้มแข็ง

แต่เพียงภายนอก

แต่ภายในใจ

กลับมีแต่ความอ่อนไหว

และไม่มั่นคงนั้น

เกิดมีความเครียด

และมีความเปราะบาง

ขึ้นมาภายในจิตใจ


ในช่วงเวลา

ที่เปราะบาง

ในด้านอาชีพ

ท่ามกลางความสับสน

และความไม่มั่นใจ

ในตัวเอง

เพียงดาวซึ่งมีนิสัย

ที่มักจะปิดกั้น

ในด้านความรู้สึก

ของตนเอง

จากการเติบโต

มาในครอบครัว

ที่มีความแตกแยก

รวมถึงไม่มั่นคง

ในเส้นทางรัก

ของตนเอง

มาโดยตลอดนั้น

ได้เกิดความรัก

ขึ้นกับโอม

ช่างภาพหนุ่มหล่อ

ที่มีอายุน้อยกว่า

ซึ่งจากการที่เขานั้น

ได้เข้ามาใกล้ชิด

และเปิดเผย

ถึงความรู้สึก

ที่มีความชื่นชอบ

ในตัวเธอ

ตั้งแต่ก่อนที่เขานั้น

จะเข้าสู่วงการแฟชั่น

ก็ทำให้เพียงดาวนั้น

รู้สึกอบอุ่น

และมีความสุข

โดยแม้ว่าลึกๆ

หญิงสาวนั้น

จะรู้สึกอึดอัด

ในการที่คบหา

กับชายหนุ่ม

ที่หล่อเหลา

และมีเสน่ห์

ซึ่งอายุน้อยกว่า

แต่เพียงดาวนั้น

ในที่สุดแล้ว

ได้ค้นพบ

ว่าชายหนุ่มผู้นี้

คือคนดี

ที่มีความเข้าใจ

และมีความห่วงใย

ให้กับเธอ

ด้วยความจริงใจ

เช่นเดียวกับอู๋

และแต้ว

ซึ่งเป็นเพื่อนแท้

เพียงไม่กี่คน

ภายในชีวิต

และการทำงาน

ของเธอ


โดยในฐานะ

ของนางแบบ

ที่ถือเป็นแถวหน้า

ของวงการแฟชั่น

เพียงดาวได้รู้จัก

กับสาวสวย

อย่างดินี่

ซึ่งถือเป็นนางแบบ

ที่ยังเป็นหน้าใหม่

จากการที่หญิงสาว

ที่มีความเพียบพร้อม

ทั้งในด้านหน้าตา

ส่วนสูง รูปร่าง

และบุคลิกผู้นี้

พึ่งก้าวเข้ามา

สู่วงการแฟชั่น

จากการชักนำ

ของป้ากบ

เมคอัพอาร์ทิสชื่อดัง

ซึ่งป้ากบนั้น

ก็ถือเป็นคู่แข่ง

ในด้านอาชีพ

ของป้าอู๋

ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท

ของเพียงดาว

ซึ่งจากอุปนิสัย

ที่เป็นคนตรงไปตรงมา

และเป็นคนจู้จี้จุกจิก

ในทุกรายละเอียด

จากความตั้งใจ

และมีความรับผิดชอบ

ในการทำงาน

ของเพียงดาว

รวมถึงการที่ดีนี่นั้น

สามารถมองเห็น

ถึงความไม่มั่นใจ

ที่ซ่อนอยู่ลึกๆ

จากความสัมพันธ์

ที่ไม่มั่นคง

ระหว่างโอม

และเพียงดาว

ในหลายครั้ง

ก็ทำให้ดีนี่

นางแบบหน้าใหม่

ผู้มีความทะเยอทะยาน

และมีความร้ายลึก

ซ่อนอยู่ในจิตใจ

ผู้นี้นั้น

ได้มองเห็น

ถึงช่องทาง

ในการที่จะวางแผน

เพื่อเป็นการทำร้าย

ทำลายชีวิต

และการทำงาน

ของนางแบบรุ่นพี่

ที่ได้รับความนิยม

ในวงการแฟชั่น

อย่างเพียงดาว

โปลิศจับขโมย (1996)

เรื่องของเสือโหย...กับสิงห์เหนือ...เสือใต้
ในปี พ.ศ. 2539

สถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ร่วมกับบริษัท

ยูม่า 99 จำกัด

โดย ยุวดี ไทยหิรัญ

เสนอละครโทรทัศน์

แนว ชีวิต / ตลก

แอ็กชั่น / อาชญากรรม

สืบสวนสอบสวน

เรื่อง โปลิศจับขโมย

โดยเป็นการสร้าง

เป็นละครโทรทัศน์

จากเค้าโครงเรื่อง

และบทโทรทัศน์

โดย วิลักษณา

กำกับการแสดง

โดย ชูชัย องอาจชัย

(ได้รับรางวัล

ผู้กำกับยอดเยี่ยม

จากการประกาศรางวัล

โทรทัศน์ทองคำ

ประจำปี พ.ศ. 2539)

เพลงประกอบละครโทรทัศน์

เพลง โปลิศจับขโมย

ประพันธ์คำร้อง ทำนอง

และเรียบเรียงดนตรี

โดย พิเศษ สังข์สุวรรณ

ขับร้องโดย พิเศษ สังข์สุวรรณ

และ สุเทพ ประยูรพิทักษ์

ละครโทรทัศน์

เรื่อง โปลิศจับขโมย

มีการแพร่ภาพ

เป็นครั้งแรก

เวลา 20.30 น.

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ในช่วงปี พ.ศ. 2539


ละครโทรทัศน์

เรื่อง โปลิศจับขโมย

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2539

นำแสดงโดย พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง

รับบท เสือโหย

(ได้รับรางวัล

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

จากการประกาศรางวัล

โทรทัศน์ทองคำ

ประจำปี พ.ศ. 2539)

บุษกร พรวรรณะศิริเวช

รับบท เปรี้ยว

จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์

รับบท สยิว สิงห์เหนือ

กัลยา เลิศเกษมทรัพย์

รับบท เป๋อ

ธนากร โปษยานนท์

รับบท สยอง เสือใต้

จุฑามาศ จันทศร

รับบท นก

และขอแนะนำ

นพชัย มัททวีวงศ์

รับบท หรั่ง

เข็มอัปสร สิริสุขะ

รับบท เจี๊ยบ

ร่วมด้วย มานะ เนตรสาลี

วัชรเกียรติ บุญภักดี

เมธี อมรวุฒิกุล

จีรศักดิ์ แสงโชติ

สมบัติ เมทะนี

สุเทพ ประยูรพิทักษ์

ยุวดี ไทยหิรัญ

ณัฐนี สิทธิสมาน

สีเทา เพ็ชรเจริญ

ธัญญรัตน์ โลหะนันท์

วิฑูรย์ ตั้งธนะพงษ์

ปิยะภาส รักษ์วรรณา

ด.ช.ชลทิศ สุขเจริญ

(ขอขอบคุณวิดีโอ

ละครโทรทัศน์

เรื่อง โปลิศจับขโมย

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2539

โดยคุณ Naan Ping

www.youtube.com)



ละครโทรทัศน์

เรื่อง โปลิศจับขโมย

จากเค้าโครงเรื่อง

และบทโทรทัศน์

โดย วิลักษณา

เป็นเรื่องราว

ความชุลมุน

และวุ่นวาย

จากการที่สองหนุ่ม

สยิว สิงห์เหนือ

และ สยอง เสือใต้

สองตำรวจหนุ่ม

ที่เป็นเพื่อนซี้

ได้รับมอบหมาย

ให้ตามล่าตัว

ของเสือโหย

จอมโจรชื่อดัง

ที่ได้แหกคุก

และหนีโทษประหาร

รวมถึงกระทำการ

อย่างอุกอาจ

ในการพาเปรี้ยว

ผู้เป็นเมียรัก

หนีออกจากศาล

ด้วยการช่วยเหลือ

ของหรั่ง

ผู้เป็นลูกน้อง

และคนสนิท

ซึ่งจากการไล่ล่า

อาชญากรตัวร้าย

ที่เหี้ยมโหด

และมีไหวพริบ

อย่างเสือโหย

ก็ทำให้สองหนุ่ม

เข้าไปพัวพัน

กับความวุ่นวาย

ทั้งในด้านการงาน

รวมถึงความรัก

จากการที่สยอง

ได้แอบมีใจ

ให้กับเจี๊ยบ

พยาบาลสาวสวย

โดยที่ตัวเขานั้น

ไม่เคยรู้เลย

ว่าหญิงสาวผู้นี้

มีความสนิทสนม

และได้ตัดสินใจ

ที่จะเริ่มต้น

ในการคบหา

กับสยิว

ผู้เป็นเพื่อนรัก

ของตัวเขา

และในทางฝั่ง

ของเสือโหยเอง

ก็ต้องวุ่นวาย

จากการปรากฎตัว

ของเป๋อ

สาวสวยสุดร้าย

ผู้เป็นน้องสาว

ของเปรี้ยว

ซึ่งจากท่าที

ในการยั่วยวน

ผู้เป็นพี่เขย

อย่างไม่เกรงกลัว

ความหึงหวง

ของผู้เป็นพี่สาว

ที่ไม่เคยไว้ใจ

ในตัวเป๋อ

ซึ่งมีนิสัย

ที่เห็นแก่ตัว

กลับกลอก

และติดการพนัน

นอกจากนี้

ในฐานะลูกน้อง

ซึ่งเป็นคนสนิท

ของเสือโหย

อย่างหรั่งนั้น

จากการที่ตัวเขา

มีความรัก

ให้กับนก

นักร้องสาวสวย

ผู้อ่อนหวาน

ก็ทำให้หรั่งนั้น

มีความต้องการ

ที่จะถอนตัว

ออกจากกลุ่ม

ของเสือโหย

และขอแยกตัวไป

เพื่อมีครอบครัว

กับผู้เป็นคนรัก

ที่ต่างจังหวัด

ซึ่งจากความวุ่นวาย

ทั้งจากการทำงาน

และความรัก

ก็ทำให้ผู้คน

ที่ต่างพื้นเพ

ต่างความคิด

ต่างอาชีพ

เหล่านี้นั้น

ต้องเข้ามา

และเกี่ยวพันกัน

จากความวุ่นวาย

ที่เสือโหย

อาชญากรตัวร้าย

ผู้มีบุคลิกยียวน

ไม่เหมือนใคร

ได้เป็นต้นเหตุ

ในการก่อขึ้น







ฝนตกขี้หมูไหลฯ (2000)

ฝนตกขี้หมูไหล...คนอะไรมาพบกัน
ในปี พ.ศ. 2543

สถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ร่วมกับบริษัท

ยูม่า 99 จำกัด

โดย ยุวดี ไทยหิรัญ

เสนอละครโทรทัศน์

แนว ชีวิต / แอ็กชั่น

และ อาชญากรรม

เรื่อง ฝนตกขี้หมูไหล

คนอะไรมาพบกัน

โดยเป็นการสร้าง

เป็นละครโทรทัศน์

จากเค้าโครงเรื่อง

และบทโทรทัศน์

โดย วิลักษณา

กำกับการแสดง

โดย ชูชัย องอาจชัย

เพลงประกอบละครโทรทัศน์

เพลง สุดท้าย

ประพันธ์คำร้อง

โดย นิวัฒน์ พานิชผล

ประพันธ์ทำนอง

และเรียบเรียงดนตรี

โดย อรรถพร ชูโต

ขับร้องโดย กฤตยา จารุกลัส

ละครโทรทัศน์

เรื่อง ฝนตกขี้หมูไหล

คนอะไรมาพบกัน

มีความยาว

จำนวน 13 ตอน

ออกอากาศ

เป็นครั้งแรก

เวลา 20.30 น.

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ในช่วงปี พ.ศ. 2543

(โดยในการบันทึก

บทความของบลอก

ในครั้งนี้นั้น

เนื่องจากหนังสือ

ที่ผู้เขียนบลอก

นำมาสแกน

ไม่มีภาพ

ในแบบหน้าตรง

และมองกล้อง

ของคุณอ๊อฟ

พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง

ซึ่งเป็นหนึ่ง

ในกลุ่มนักแสดง

ผู้รับบทนำ

รวมถึงไม่มีภาพ

ของคุณอ๊อฟ

ในแบบคู่

กับคุณหน่อย

บุษกร พรวรรณะศิริเวช

เพื่อใช้เป็นภาพ

ในหัวกระทู้

จึงทำให้บทความ

ของละครโทรทัศน์

จากการผลิต

ของบริษัท

ยูม่า 99 จำกัด

ในครั้งนี้

ไม่ได้เรียงลำดับ

ของตัวละคร

ตามความอาวุโส

ของนักแสดงนำ

ซึ่งผู้เขียนบลอก

ต้องขออภัย

ไว้ ณ ที่นี้)


ละครโทรทัศน์

เรื่อง ฝนตกขี้หมูไหล

คนอะไรมาพบกัน

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2543

นำแสดงโดย ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์

รับบท เผือก บางซื่อ

นักโทษหนุ่ม

ผู้เป็นลูกน้อง

ที่คอยติดตาม

และทำงาน

ให้กับติ๋ม บางซ่อน

ซึ่งเป็นมิจฉาชีพ

ในกลุ่มเดียวกัน

จากการเป็นชายหนุ่ม

ที่มีปมปัญหา

ภายในจิตใจ

จากการที่เขานั้น

ไม่ได้รับความรัก

และการเลี้ยงดู

จากผู้เป็นแม่

จึงทำให้เผือก

ที่มีความรุนแรง

มีความต้องการ

ในด้านความรัก

มากกว่าปกติ

ซึ่งจากการทรยศ

และหักหลัง

ของกุ๊ก

ซึ่งเป็นผู้หญิง

ที่เขารัก

ก็ทำให้เผือกนั้น

มักจะใช้กำลัง

ในการทำร้ายกุ๊ก

เพื่อให้หญิงสาว

เกิดความกลัว

และไม่หลบหนี

ไปจากเขา

เช่นเดียวกับแม่

ที่เคยทอดทิ้งไป

ในตอนที่เขานั้น

ยังเป็นเด็กเล็กๆ


บุษกร พรวรรณะศิริเวช

รับบท ผู้กองเพชรา

ตำรวจสาวสวย

ผู้มีความเข้มแข็ง

และเฉลียวฉลาด

ซึ่งเป็นเจ้าของ

สมญานาม

ในชื่อ ซ้อมีดบิน

จากความสามารถ

ในด้านการปามีด

ซึ่งจากการที่เธอนั้น

ได้รับมอบหมาย

ให้เข้ามาทำงาน

ในการตามล่า

เหล่านักโทษชาย

ที่ได้แหกคุก

ไปพร้อมกับเงิน

จำนวน 7 ล้านบาท

ร่วมกับผู้หมวดปีเตอร์

ก็ทำให้อุดมการณ์

ในฐานะตำรวจ

ที่มีความรับผิดชอบ

ของตำรวจสาวผู้นี้

ต้องเปลี่ยนแปลงไป

จากความต้องการ

ที่จะครอบครอง

เงินทั้งหมด

นำมาเป็นของตน


ธนากร โปษยานนท์

รับบท ติ๋ม บางซ่อน

นักโทษชาย

ผู้มีความดุดัน

โหดร้าย หยาบกระด้าง

แต่มีความเฉลียวฉลาด

และมีความรอบคอบ

โดยในฐานะ

ของหัวหน้า

ซึ่งมีเหล่าลูกน้อง

ที่เป็นนักโทษ

เขาถือเป็นผู้นำ

ของทางกลุ่ม

และเป็นผู้วางแผน

ในการแหกคุก

รวมถึงขโมยเงิน

จำนวน 7 ล้าน

ซึ่งทางเรือนจำ

ได้เตรียมไว้

เพื่อเป็นงบ

ในด้านอาหาร

ซึ่งจากเงินร้อน

ที่เขาขโมยมา

ก็ทำให้ชีวิต

ของชายหนุ่มผู้นี้

ต้องพบเจอ

กับอันตราย

และปัญหาต่างๆ

ตามมามากมาย


เข็มอัปสร สิริสุขะ

รับบท ไก่

เด็กสาวใจแตก

จากต่างจังหวัด

ผู้หาเลี้ยงชีพ

ในเมืองหลวง

ด้วยการขายตัว

พร้อมกับกุ๊ก

ผู้เป็นพี่สาว

ซึ่งจากชีวิต

ที่ยากจน

และลำบาก

มาตั้งแต่เล็ก

และความต้องการ

ที่จะเก็บเงิน

ส่งไปให้ครอบครัว

ที่อยู่ต่างจังหวัด

ก็ทำให้ไก่

และกุ๊ก

ผู้เป็นพี่สาวนั้น

มองเห็นเงิน

เป็นสิ่งสำคัญ

มากกว่าความรัก

และความผูกพัน

ของมนุษย์

ซึ่งจากความรัก

ด้วยความจริงใจ

ที่ติ๋ม บางซ่อน

อดีตนักโทษ

มีให้กับเธอ

ก็ทำให้หญิงสาว

ใช้เป็นโอกาส

ในการที่เธอนั้น

จะเป็นผู้ครอบครอง

นำเงินทั้งหมด

มาเป็นของตน


รามาวดี สิริสุขะ

รับบท กุ๊ก

ผู้เป็นพี่สาว

ของไก่

ซึ่งทำงาน

ในการขายบริการ

อยู่ในโรงแรม

แห่งเดียวกัน

กับผู้เป็นน้องสาว

ซึ่งจากความละโมภ

และเห็นแก่ตัว

โดยไม่สนใจ

ในด้านความรัก

และความผูกพัน

จากความต้องการ

ที่จะครอบครอง

นำเงินทั้งหมด

มาเป็นของตน

ก็ทำให้กุ๊กนั้น

เลือกหนทาง

ที่จะหักหลัง

ไก่และเผือก

ผู้เป็นน้องสาว

และคนรัก

ได้อย่างเลือดเย็น


โดยนอกจากนักแสดง

ในบทบาท

ดังกล่าวแล้ว

ละครโทรทัศน์

เรื่อง ฝนตกขี้หมูไหล

คนอะไรมาพบกัน

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2543

ยังมีนักแสดงชั้นนำ

อีกมากมาย

ที่มาร่วมแสดง

และสร้างสีสัน

ความสนุกสนาน

ให้กับละครโทรทัศน์

ในเรื่องนี้

เช่น กรรชัย กำเนิดพลอย

รับบท บอม บางกรวย

กัลยา เลิศเกษมทรัพย์

รับบท ต๊อบ

พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง

รับบท หมวดปีเตอร์

เบญจวรรณ เทิดทูนกุล

รับบท กิ๊ก

วัชรเกียรติ บุญภักดี

รับบท สารวัตรทุย

เรืองฤทธิ์ วิสมล

รับบท หมวดดิน

จีรศักดิ์ แสงโชติ

รับบท โอ๋

มานะ เนตรสาลี

รับบท มานะ

มอริส เค

รับบท ช้าง ทองคำ

ทนงศักดิ์ ศุภการ

รับบท นายด่าน

สุเชาว์ พงษ์วิไล

รับบท พงษ์

มาเรีย เกตุเลขา

รับบท ศรี

อมรา อัศวนนท์

รับบท อาม่า

ชลิต เฟื่องอารมย์

รับบท ผู้บัญชาการ

ไกรลาศ เกรียงไกร

รับบท เดช

สีเทา เพ็ชรเจริญ

รับบท นพ

ยุวดี ไทยหิรัญ

รับบท กระถิน

จุฑาทิพย์ คิดการดี

รับบท ใบ้

ธานินทร์ สงวนวงศ์

รับบท เหน่ง

และขอแนะนำ

วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย

เปิดตัวครั้งแรก

ในบท หมวดอู๋


ละครโทรทัศน์

เรื่อง ฝนตกขี้หมูไหล

คนอะไรมาพบกัน

จากเค้าโครงเรื่อง

และบทโทรทัศน์

โดย วิลักษณา

เป็นเรื่องราว

การต่อสู้

เพื่อแย่งชิง

เงิน 7 ล้านบาท

ของเหล่าโจร

โสเภณี ชาวบ้าน

และ ข้าราชการ

ซึ่งเป็นการยาก

ที่จะแบ่ง

ในด้านความดี

และความชั่ว

จากการที่เงิน

ได้ปลุกเร้า

สัญชาตญาณ

ความละโมภ

ภายในจิตใจ

ของเหล่ามนุษย์

ทั้งทางฝั่ง

ของมิจฉาชีพ

และทางฝั่ง

ของผู้รักษากฎหมาย

ซึ่งต้องยึดมั่น

ในความถูกต้อง

และกฎหมาย

(ขอขอบคุณวิดีโอ

ละครโทรทัศน์

เรื่อง ฝนตกขี้หมูไหล

คนอะไรมาพบกัน

ในตอนที่ 10

ของฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2543

โดยคุณ Memory Thai Lakorn

www.youtube.com)



โดยเรื่องราว

ของละครโทรทัศน์

ในเรื่องนี้

ได้เริ่มต้นขึ้น

จากการแหกคุก

และการขโมยเงิน

จำนวน 7 ล้านบาท

ของทางเรือนจำ

ซึ่งได้เกิดขึ้น

จากการกระทำ

ที่มีความอุกอาจ

โดยมีติ๋ม บางซ่อน

นักโทษขาใหญ่

เป็นผู้วางแผน

และรับตำแหน่ง

เป็นหัวหน้า

ซึ่งจากการทยศ

จากการหักหลัง

และเชิดเงินไป

ของบอม บางกรวย

ลูกน้องในกลุ่ม

จนทำให้เงิน

ที่ขโมยมานั้น

ตกไปอยู่ในมือ

ของกุ๊กและไก่

สองเด็กสาว

ผู้กร้านโลก

ที่นำเงินทั้งหมด

มาจากโรงแรม

ก็ทำให้สองสาว

และเงิน 7 ล้าน

ที่เปลี่ยนมือ

ไปสู่ผู้คน

ที่หลากหลาย

อีกหลายครั้ง

ก็ต้องอลหม่าน

จากการตามล่า

ของทั้งมิจฉาชีพ

ทั้งจากกลุ่ม

ของติ๋ม บางซ่อน

และเผือก บางซื่อ

สองโจรใจหยาบ

ที่ต่างก็หลงรัก

ในตัวสองสาว

รวมถึงเหล่าโจร

ก็ถูกไล่ล่า

จากทางตำรวจ

คือ หมวดปีเตอร์

และ ผู้กองเพชรา

ซึ่งมีความต้องการ

ที่จะฮุบเงินทั้งหมด

จากพวกโจร

มาเป็นของตน

ก็ทำให้เรื่องราว

เกิดเป็นความวุ่นวาย

และเกิดความสับสน

จากการประทะ

และหักหลังกัน

ของเหล่าคนชั่ว

ที่ต่างพื้นเพ

และความเป็นมา

ซึ่งต้องมาพัวพัน

และพบจุดจบ

จนถึงแก่ความตาย

จากความละโมภ

ภายในจิตใจ

ของแต่ละคน













ดั่งดวงหฤทัย (1996)

ทุกอย่าง...หมดความหมาย...ถ้าขาดเธอ
ในปี พ.ศ. 2539

สถานีโทรทัศน์ช่อง 7

ร่วมกับบริษัท

ดาราวิดีโอ จำกัด

เสนอละครโทรทัศน์

แนว ชีวิต / โรแมนติก

จินตนาการ / การเมือง

เรื่อง ดั่งดวงหฤทัย

โดยเป็นการสร้าง

เป็นละครโทรทัศน์

จากบทประพันธ์

โดย ลักษณวดี

นำมาดัดแปลง

เป็นบทโทรทัศน์

โดย ภาวิต

กำกับการแสดง

โดย สยม สังวริบุตร

และ สมชาย สังข์สวัสดิ์

เพลงประกอบละครโทรทัศน์

เพลง ดั่งดวงหฤทัย

ขับร้องโดย ปกรณ์ ทัศนพันธุ์

เพลง ยิ่งรักเธอ

ขับร้องโดย ปกรณ์ ลัม

ละครโทรทัศน์

เรื่อง ดั่งดวงหฤทัย

มีการแพร่ภาพ

เป็นครั้งแรก

ในเวลา 20.30 น.

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7

ในช่วงปี พ.ศ. 2539


ละครโทรทัศน์

เรื่อง ดั่งดวงหฤทัย

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2539

นำแสดงโดย ศรราม เทพพิทักษ์

รับบท เจ้าหลวงรังสิมันต์

ชายหนุ่มผู้สง่างาม

และมีความเข้มแข็ง

ซึ่งเป็นผู้ครอบครอง

แคว้นกาสิก

ซึ่งเป็นดินแดน

ที่มีความร่ำรวย

จากการมีทรัพยการ

อย่างมากมาย

โดยแม้ว่าเขานั้น

จะเป็นที่เลื่องลือ

ไปทั่วทุกแดน

ว่าเป็นเจ้าหลวง

ผู้มีความโหดร้าย

และป่าเถื่อน

แต่ในตัวตน

ที่แท้จริง

ของเขานั้น

เจ้าหลวงรังสิมันต์

กลับเป็นชายหนุ่ม

ผู้มีจิตใจดีงาม

และมีความเฉลียวฉลาด

ซึ่งปกครองผู้คน

และตัดสินทุกสิ่ง

ด้วยความยุติธรรม

และมีเหตุผล


นัท มีเรีย

รับบท เจ้าหญิงทรรศิกา

ผู้เป็นเจ้าฟ้าหญิง

แห่งแคว้นพันธุรัฐ

ซึ่งเป็นเจ้าหญิง

ที่มีทั้งความงาม

และความเฉลียวฉลาด

มีความเข้าใจ

ในสถานการณ์

ด้านการเมือง

ของทั้งสามแคว้น

อย่างถ่องแท้

จากการได้รับการศึกษา

และได้รับการอบรม

ในด้านอุดมการณ์

จากพระราชบิดา

และพระราชเทวี

โดยในฐานะ

ของเจ้าหญิง

ทรรศิกานั้น

ถือเป็นเจ้าหญิง

ที่มีความเข้มแข็ง

และมีจิตใจดี

จากความพยายาม

ที่จะยึดมั่น

ในหน้าที่

ความรับผิดชอบ

ที่มีต่อบ้านเมือง

และความสุข

ของประชาชน

มาโดยตลอด


โดยนอกจากนัแสดง

ในบทบาทนำ

ทั้งสองท่านแล้ว

ละครโทรทัศน์

เรื่อง ดั่งดวงหฤทัย

ฉบับการสร้าง

ในปี พ.ศ. 2539

ยังมีนักแสดงชั้นนำ

อีกมากมาย

ที่มาร่วมแสดง

และสร้างสีสัน

ความสนุกสนาน

ให้กับละครโทรทัศน์

ในเรื่องนี้

เช่น โอลิเวอร์ พูพาร์ท

รับบท เจ้าฟ้าทยุติธรบวรรังสี

เกวลิน คอตแลนด์

รับบท เจ้าฟ้าหญิงมณิสรา

จารุณี สุขสวัสดิ์

รับบท พระเทวี

กษาปณ์ จำปาดิบ

รับบท ราชิต

ศิขรินธาร พลายพฤฒิ

รับบท กระวาน

ฉัตรมงคล บำเพ็ญ

รับบท เบนลี

เทพยุดา ศรียาภัย

รับบท มาลัย

เวนย์ ฟอลโคเนอร์

รับบท ภานุ

วิทิต แลต

รับบท นนที

รวิน ชุมเกษียร

รับบท อารัญ

มานพ อัศวเทพ

รับบท กระทรวงกลาโหม

ชาลี ยมาภัย

รับบท กระทรวงธรรมการ

ชลประคัลภ์ จันทร์เรือง

รับบท กระทรวงต่างประเทศ

แรม วรธรรม

รับบท กระทรวงมหาดไทย

มีศักดิ์ นาครัตน์

รับบท กระทรวงการคลัง

ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา

รับบท เจ้าหลวงแห่งพันธุรัฐ

ชุมพร เทพพิทักษ์

เจ้าหลวงแห่งทานตะ

อลิษา ขจรไชยกุล

รับบท พระเทวีแห่งทานตะ

อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา

รับบท พระนม

รอง เค้ามูลคดี

รับบท หมอหลวง

ราตรี วิทวัส

รับบท นิสา

เคน สทรูทเดอร์

รับบท โควินทร์

ด.ญ.เอเซีย ปทุมแก้ว

รับบท เจ้าหญิงทรรศิกา (วัยเยาว์)

ด.ช.แอนโธนี วูด

รับบท เจ้าฟ้าทยุติธรบวรรังสี (วัยเยาว์)


ละครโทรทัศน์

เรื่อง ดั่งดวงหฤทัย

จากบทประพันธ์

โดย ลักษณวดี

เป็นเรื่องราว

ของความรัก

ระหว่างเจ้าหลวงรังสิมันต์

ผู้เข้มแข็ง องอาจ

และเจ้าหญิงทรรศิกา

ผู้มีความงดงาม

และเฉลียวฉลาด

ซึ่งมีความเกี่ยวพัน

กับเกมการเมือง

ของสามแคว้น

คือ กาสิก พันธุรัฐ

และ ทานตะ

ซึ่งแต่ละแคว้นนั้น

ล้วนมีความแตกต่าง

ในด้านพื้นที่

และทรัพยากร

ที่แตกต่างกัน

ซึ่งจากการมีข้อดี

และข้อด้อย

ที่แตกต่างกัน

ของแต่ละแคว้น

ก็ทำให้ผู้ครอบครอง

ในแต่ละแคว้นนั้น

ล้วนมีความหวาดระแวง

ในกันและกัน

และมีความพยายาม

ที่จะคานอำนาจ

ในแต่ละฝ่าย

เพื่อความปรองดอง

รวมถึงคาดหวัง

ว่าดินแดน

ของตนนั้น

จะเป็นฝ่ายได้รับ

ในด้านผลประโยชน์

มากกว่าแคว้นอื่นๆ

ซึ่งจากเกมการเมือง

และความต้องการ

ของแคว้นกาสิก

และแคว้นทานตะ

เกี่ยวกับผลประโยชน์

ในด้านทางออก

ไปสู่โพ้นทะเล

และทรัพยากร

ที่นำไปสู่การหมั้นหมาย

และพิธีอภิเษกสมรส

ระหว่างเจ้าหลวงรังสิมันต์

แห่งแคว้นกาสิก

และเจ้าฟ้าหญิงมณิสรา

แห่งแคว้นทานตะ

ก็ทำให้เรื่องราว

ของความรัก

ที่ยิ่งใหญ่

และโรแมนติก

ซึ่งมีอำนาจ

และความรับผิดชอบ

ต่อบ้านเมือง

เข้ามาเกี่ยวข้อง

ได้เริ่มต้นขึ้น













นิตยสารเก่าในความทรงจำ

นิตยสารเก่าในความทรงจำ
นิตยสารลลนา (1973-1995)

สโมสรผึ้งน้อย (1984)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
แหม่ม พัชริดา วัฒนา

นิตยสารเก่าในความทรงจำ

นิตยสารเก่าในความทรงจำ
นิตยสารทีวีรีวิว (1972-1992)

SAN MIGUEL BEER (1989)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
เมย์ ศศลักษณ์ พันธุ์หาญ

SVESVESB / YASUO MIYATA (1982)

การ์ตูนเก่าในความทรงจำ

การ์ตูนเก่าในความทรงจำ
เอล (1992-1995)

SEVENTH HEAVEN (1996-2007)

เสือ 11 ตัว (2001)

เสือ 11 ตัว (2001)

NIVEA SKIN LOTION (1988)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
เจี๊ยบ ศักราช ฤกษ์ธำรงค์

BALENO / DAVID WU (1989)

นิตยสารเก่าในความทรงจำ

นิตยสารเก่าในความทรงจำ
นิตยสารแพรวสุดสัปดาห์ (1983)

สิงห์โกลด์ไลท์เบียร์ (1989)

From Me To You


การจัดทำบลอกนี้

เกิดจากความรู้สึก

ที่ผู้เขียนบลอก

อยากจะบันทึก

ความทรงจำ

ในช่วงเวลา

ของวันเก่าๆ

ผ่านเส้นทาง

จากเรื่องราว

และผลงานต่างๆ

ของเหล่าดารา

นักร้อง นักแสดง

นายแบบ นางแบบ

นักเขียน ฯลฯ

ซึ่งมีความเกี่ยวข้อง

กับศิลปะบันเทิง

ในช่วงยุคสมัย

ก่อนการมาถึง

ของอินเทอร์เน็ต

ที่แพร่หลาย

ในสังคมไทย

อย่างในทุกวันนี้

ซึ่งในการจัดทำ

ผู้เขียนบลอก

ได้รวบรวม

เรื่องราวต่างๆ

จากความทรงจำ

และค้นข้อมูล

โดยนำรูปภาพ

จากนิตยสารต่างๆ

ในช่วงเวลาอดีต

นำมารวบรวม

และเรียบเรียง

ให้เป็นภาพชัดเจน

ขึ้นมาอีกครั้ง

ด้วยสิ่งที่ตนเองนั้น

ยังคงเก็บไว้

ด้วยความมุ่งหวัง

ในการนำเสนอ

ด้วยความให้เกียรติ

ผ่านการนำเสนอ

ในด้านที่สวยงาม

ซึ่งในการจัดทำ

บทความต่างๆ

ซึ่งต้องใช้ภาพ

จากนิตยสารแฟชั่น

และนิตยสารบันเทิง

ในฉบับต่างๆ

จากช่วงยุค 70

ถึงช่วงปลายยุค 90

ซึ่งภาพทั้งหมดนั้น

ถือเป็นลิขสิทธิ์

ของนิตยสาร

และช่างภาพ

ท่านต่างๆ

ทำให้ผู้เขียนบลอก

มีความตั้งใจ

ที่จะจัดทำบลอกนี้

โดยไม่แสวงผลกำไร

และไม่เปิดรับโฆษณา

เพื่อเป็นการยุติธรรม

ต่อเจ้าของภาพ

ในนิตยสาร หนังสือ

และวีดีโอต่างๆ

ที่ผู้เขียนบลอก

นำมาเรียบเรียงไว้

ในบทความ

โดยในการจัดทำ

ผู้เขียนบลอก

อยากจะขอขอบคุณ

นิตยสารและช่างภาพ

ซึ่งเป็นเจ้าของภาพ

สำหรับภาพสวยๆ

ในทุก-ทุกรูป

และอยากจะขอ

ความกรุณา

จากผู้อ่านทุกท่าน

ที่จะนำข้อมูล

และภาพต่างๆ

ในบลอกนี้

ซึ่งผู้เขียนบลอก

ไม่ใช่เจ้าของ

ในด้านลิขสิทธิ์

นำไปเผยแพร่

ขอให้ทุกท่าน

ที่จะนำภาพไปใช้

ขอให้นำไปใช้

โดยมิใช่เพื่อการค้า

หรือนำไปรวบรวมใว้

ในเวบไซต์ เพจ

หรือบลอกต่างๆ

ที่มีการลงโฆษณา

หรือนำไปประกอบ

ในข้อความ บทความ

ที่จะเป็นการล่วงเกิน

ผู้ที่เป็นแบบ

ในภาพนั้นๆ

จากการนำไปใช้

ร่วมกับข้อความ

ที่มีข้อมูล

ในด้านลบ

หรือใช้ถ้อยคำ

ที่มีความหยาบคาย

ซึ่งจะสร้างความเสียหาย

ให้กับผู้เป็นแบบ

ซึ่งอยู่ในภาพ

ท่านนั้นๆ

SUMMER CONCERT / JIMMY LIN (1992)

นิตยสารเก่าในความทรงจำ

นิตยสารเก่าในความทรงจำ
นิตยสารซินีแม๊ก (1994-2002)

SUCCESS / EISAKU YOSHIDA (1989)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
Eisaku Yoshida

DIG MEN / TAKAHASHI BROTHERS (1989)

DAWSON'S CREEK (1998-2003)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา

ชาวเวอร์ทูชาวเวอร์ / จอนนี่ แอนโฟเน่ (1989)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
ลางลิขิต (2001)

โฆษณาเครื่องดื่มเป็ปซี่ / พีท ทองเจือ (1992)

นิตยสารเก่าในความทรงจำ

นิตยสารเก่าในความทรงจำ
Movie Time Magazine (1997-2009)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
แพท พัสสน ศรินทุ

MELROSE PLACE (1992-1999)

นิตยสารเก่าในความทรงจำ

นิตยสารเก่าในความทรงจำ
Gift Magazine (1981-1992)
ในช่วงยุค 70-90 นั้น

สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทการ์ตูน

ที่เข้ามาแพร่หลาย

ในประเทศไทยนั้น

ยังไม่ได้อยู่ภายใต้การบังคับ

ของกฎหมายลิขสิทธิ์

อย่างที่เกิดขึ้น

ในประเทศไทย

ในช่วงปี พ.ศ. 2535

ทำให้วงการการ์ตูน

ในประเทศไทย

ในขณะนั้น

มีการแข่งขันกัน

ระหว่างสำนักพิมพ์ต่างๆ

ในการตีพิมพ์และวางจำหน่าย

ผลงานการ์ตูนเรื่องดังๆ

จากประเทศญี่ปุ่น

จากเหตุผลในข้อนี้เอง

ทำให้เกิดนิตยสารการ์ตูน

เพื่อที่จะได้มีการแปล

และวางจำหน่าย

ให้ทันกับต้นฉบับ

ของนิตยสารการ์ตูน

ที่วางขายในประเทศญี่ปุ่น

และ กิฟท์ แม็กกาซีน

ของ ไลน์อาร์ทแพลนนิ่ง

ถือเป็นหนึ่งในนิตยสารการ์ตูน

สำหรับเด็กผู้หญิง

ที่โด่งดังมากที่สุด

ในช่วงยุค 80

ที่ผ่านมา

จากการมีการ์ตูนเรื่องดังๆ

อย่าง ไซเฟอร์ ไอบอย

เลขรักพิสดาร

อสูรน้อยกระซิบรัก

ตีพิมพ์เป็นประจำ

โดยนอกจากการ์ตูนฮิตเหล่านี้

กิฟท์ แม็กกาซีน

ยังมีลักษณะเฉพาะ

ที่มีความพิเศษ

ที่เป็นที่ชื่นชอบ

ของผู้อ่านมากมาย

จนกลายเป็นนิตยสารการ์ตูน

สำหรับเด็กผู้หญิง

ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ

ของผู้อ่านทุก-ทุกคน

มาจนถึงในทุกวันนี้

โดยผู้อ่านบลอก

ที่สนใจและชื่นชอบ

ในนิตยสารเล่มนี้

สามารถอ่านบทความ

และชมภาพทั้งหมด

ได้ในหัวข้อ 80 thai magazine

และ 90 thai magazinr

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
มารยาริษยา (1998)

SUNTORY NCAA / KOJI KIKKAWA (1985)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
ต่อ กันติ ธรรมาณิชานนท์

MR PRIVATE EYE / CITY HUNTER (1987)

คิขุอาโนเนะ / วงบอยสเก๊าท์ (1993)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
ธรรม์ โทณะวณิก

THE DREW CAREY SHOW (1995-2004)

นิตยสารเก่าในความทรงจำ

นิตยสารเก่าในความทรงจำ
นิตยสารอานนท์ (1993-1995)

SUNTORY / KAORU KOBAYASHI (1987)

การ์ตูนเก่าในความทรงจำ

การ์ตูนเก่าในความทรงจำ
รักทระนง (1987)

JAL OKINAWA / TORU KAZAMA (1989)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
Taishu Kase

BEVERLY HILLS 90210 (1990-2000)

นิตยสารเก่าในความทรงจำ

นิตยสารเก่าในความทรงจำ
HELLO MAGAZINE (1985-1989)

LOVE LIGHT / YU HAYAMI (1982)

นิตยสารเก่าในความทรงจำ

นิตยสารเก่าในความทรงจำ
นิตยสารบงกช (1981-1989)

PRIVATE LIFE / SHONENTAI (1987)

Shonentai / 少年隊

ในช่วงยุค 80

ที่ผ่านมานั้น

ถือเป็นช่วงยุคเฟื่องฟู

ของเหล่านักแสดง

นักร้องวัยรุ่น

ขวัญใจวัยรุ่น

จากประเทศญี่ปุ่น

ที่เริ่มเป็นที่รู้จัก

และมีชื่อเสียง

ในประเทศไทย

โดยหลังจากความสำเร็จ

ของละครโทรทัศน์

เรื่อง เคนโด้

ข้าคือลุกผู้ชาย

รวมถึงละครโทรทัศน์

แนวกีฬา

จากประเทศญี่ปุ่น

อีกหลายๆเรื่อง

ที่เข้ามาแพร่ภาพ

และได้รับความนิยม

ในประเทศไทย

ในช่วงยุค 70

ผู้ชมชาวไทย

ก็เริ่มจะเปิดรับ

ผลงานเพลง

ละครโทรทัศน์

และภาพยนตร์เรื่องต่างๆ

จากประเทศญี่ปุ่น

โดยในฐานะ

กลุ่มนักร้อง

ขวัญใจวัยรุ่น

สามนักร้องหนุ่มหล่อ

วง Shonentai

ถือเป็นกลุ่มนักร้อง

จากประเทศญี่ปุ่น

ที่ได้รับความนิยม

จากสาวๆชาวไทย

มากที่สุด

ในช่วงยุค 80

ซึ่งความโด่งดัง

ของพวกเขา

ทำให้ผู้ชม

ในประเทศไทยเอง

ได้มีโอกาสต้อนรับ

และเข้าชมคอนเสริต์

ของพวกเขา

ที่มีการจัดขึ้น

ในประเทศไทย

ซึ่งถือเป็นความยิ่งใหญ่

ในยุคสมัย

ที่ยังไม่มี Internet

และสื่อบันเทิงต่างๆ

ให้ได้ติดตามรับชม

กันอย่างมากมาย

เหมือนในทุกวันนี้

โดยผู้อ่านของบลอก

ที่คิดถึงผลงาน

และเรื่องราวเก่าๆ

ในช่วงแรก

ของอาชีพนักร้อง

ของทั้งสามหนุ่มหล่อนี้

สามารถติดตามเรื่องราว

และรับชมรูปภาพ

ของพวกเขาได้

ในหัวข้อ 80 Japan Male Idol

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
โด่ง สิทธิพร นิยม

แกล้งโง่ / ฝันดี ฝันเด่น จรรยาธนากร (1994)

ละครเก่าในความทรงจำ

ละครเก่าในความทรงจำ
ดั่งดวงหฤทัย (1996)

นิตยสารเก่าในความทรงจำ

นิตยสารเก่าในความทรงจำ
นิตยสารด้วยรัก (1983-1985)

ขอคืน / บอยสเก๊าท์ (1993)

นิตยสารเก่าในความทรงจำ

นิตยสารเก่าในความทรงจำ
Starpics Magazine (1965)

EARLY EDITION (1996-2000)

การ์ตูนเก่าในความทรงจำ

การ์ตูนเก่าในความทรงจำ
บันทึกรักโพนีเทล (1985-1987)

นิตยสารฉบับเก่าในความทรงจำ

นิตยสารฉบับเก่าในความทรงจำ
นิตยสารแพรว (1979)

STILL LOVE HER / TM NETWORK

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
Kazukiyo Nishikiori (Shonentai)

ปราสาทมืด (1994)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
ม.6/2 ห้องครูวารี (1994)

MEIJI CHOCOLAT (1993)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
อัลเฟรด เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์

TOKI WO KAKERU SHOUJO (1983)

AGAINST ALL ODDS (1984)

นิตยสารเก่าในความทรงจำ

นิตยสารเก่าในความทรงจำ
Starpics Magazine (1965)

GLICO ALMOND / RYUJI HARADA (1992)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
โจ ธเนศ ฉิมท้วม

โปลิศจับขโมย (1996)

ปุกปุย (1990)

ภาพยนตร์คุณภาพ

เรื่อง ปุกปุย

ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ

ของผู้ชมภาพยนตร์

หลาย-หลายท่าน

มาจนถึงในทุกวันนี้

เกิดจากแนวคิด

ในการเขียนบท

ของ คุณอุดม อุดมโรจน์

และ คุณทองขาว มะขาวป้อม

โดยภาพยนตร์เรื่องนี้

มีชื่อแรกในบทร่าง

ว่า ใครใครก็ไม่รัก

ซึ่งแนวคิดของเรื่อง

ได้รับแรงบันดาลใจ

มาจาก My Life As a Dog

จากการที่คุณอุดมนั้น

ต้องการสร้างภาพยนตร์

เกี่ยวกับเด็กเด็ก

ในแนวคิดที่อยากนำเสนอ

ให้สังคมและครอบครัว

หันมาใส่ใจ

และดูแลเด็กเด็ก

ในด้านความรู้สึก

ของพวกเขามากกว่านี้

โดยรายนามของผู้สร้างสรรค์

ภาพยนตร์คุณภาพเรื่องนี้

มีดังนี้ กำกับภาพยนตร์

โดย อุดม อุดมโรจน์

อำนวยการสร้าง

โดย จรัญ/วิสูตร พูลวรลักษณ์

ถ่ายภาพ

โดย ปัญญา นิ่มเจริญพงศ์

ดนตรีประกอบ

โดย จำรัส เศวตาภรณ์

ภาพยนตร์เรื่อง ปุกปุย

เปิดตัวต่อสื่อมวลชน

และออกฉายทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2533

โดยแม้จะมาพร้อม

กับคุณภาพ

และงานการสร้าง

ที่มีความสมบูรณ์แบบ

แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้

ไม่ได้ออกฉายทันที

ที่การถ่ายทำเสร็จสิ้นลง

เนื่องจากต้องรอคิว

และเวลาในการออกฉาย

ในโรงภาพยนตร์

ที่มีจังหวะเหมาะสม

ก่อนที่ภาพยนตร์เล็กๆเรื่องนี้

จะทำรายได้ในปีนั้น

ไปอย่างเหนือความคาดหมาย

และยังคงอยู่ในความทรงจำ

ของผู้ชมทุก-ทุกคน

มาจนถึงทุกในวันนี้

ภาพยนตร์เรื่อง ปุกปุย

นำแสดงโดย ด.ช. ณพัชร สุพัฒนกุล

ที่ให้การแสดงชั้นยอด

และเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง

ที่บทภาพยนตร์ต้องการ

ร่วมด้วย ด.ญ. ปรางใส ณ นคร

ด.ช. ศุภชัย ชัยวัฒนเมธิน

เกรียงไกร อุณหนันท์

ธิติมา สังขพิทักษ์

และ ญาณี จงวิสุทธิ์

สบตา / แอนเดรีย สวอเรซ (1994)

นิตยสารเก่าในความทรงจำ

นิตยสารเก่าในความทรงจำ
นิตยสารมิถุนา (1983-1997)

อยากรู้ความจริง / ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง (1992)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง

ครีมอาบน้ำลักส์ / อัญชลี จงคดีกิจ (1985)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
โป้ง วราวุธ บูรพาชยานนท์

MISSING YOU / TOMMY PAGE (1997)

ตามรักคืนใจ (1998)

ในปี พ.ศ. 2541

สถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ร่วมกับบริษัท ยูมาร์ 99 จำกัด

ได้เสนอละครโทรทัศน์

เรื่อง ตามรักคืนใจ

แพร่ภาพเป็นประจำ

ทุกวันศุกร์และเสาร์

เวลา 20:30 น.

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

โดยละครโทรทัศน์เรื่องนี้

สร้างจากบทประพันธ์

ของ กิ่งฉัตร

ดัดแปลงเป็นบทโทรทัศน์

โดย ทุ่งดอกไม้

กำกับการแสดง

โดย วิลักษณา

นำแสดงโดย ธนากร โปษยานนท์

รับบท สีหนาท หรือ นายสิงห์

รามาวดี สิริสุขะ

รับบท หนูนา หรือ นารา

พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง

รับบท ราม

นาถยา แดงบุหงา รับบท รัศมี

นพชัย มัททวีวงศ์ รับบท อดิศร

ชไมพร สิทธิวรนันท์

รับบท จุฑารัตน์ หรือ จุ๊

เมธี อมรวุฒิกุล รับบท สารวัตรกช

รุ้งทอง ร่วมทอง รับบท ขนิษฐา

สมบัติ เมทะนี รับบท วรรณ

ทนงศักดิ์ ศุภการ รับบท ศักดา

ดารณีนุช โพธิปิติ รับบท แป้น

พิมพกา เสียงสมบุญ รับบท พวง

ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ รับบท เอกชาติ

วัชรเกียรติ บุญภักดี รับบท เรือง

เรือนมยุรา (1997)

เธอยังคงมีฉัน / ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี (1994)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
เจ มณฑล จิรา

NEVER SURRENDER / COREY HART (1985)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
Paul Visut Carey

คลังบทความของบล็อก

TOKI / YUTAKA OZAKI (1988)

บทความพิเศษของบลอก

บทความพิเศษของบลอก
นิตยสารวัยรุ่นทศวรรษที่ 90

TRUE / SPANDAU BALLET (1983)

MY FAVORITE ALBUM / EISAKU YOSHIDA

MOU DAREMO AISANAI (1991)

ดอกแก้วการะบุหนิง (2000)

ในปี พ.ศ. 2543

สถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ร่วมกับบริษัท ฮู แอนด์ ฮู

โดย วรายุฑ มิลินทจินดา

เสนอละครโทรทัศน์

เเนว โรแมนติก-แฟนตาซี

เรื่อง ดอกแก้วการะบุหนิง

โดยเป็นการสร้าง

จากบทประพันธ์

โดย แก้วเก้า

นำมาดัดแปลง

เป็นบทโทรทัศน์

โดย วรดา

กำกับการแสดง

โดย ชูศักดิ์ สุธีรธรรม

นำแสดงโดย ธนากร โปษยานนท์

รับบท ดนย์

คัทลียา แมคอินทอช

รับบท การะบุหนิง

ฉัตรชัย เปล่งพานิช

รับบท สุหราปาตี

จินตหรา สุขพัฒน์

รับบท กิรณา

เพลงประกอบละครโทรทัศน์

เพลง เธอ

โดย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค

ภาพประกอบละครโทรทัศน์

ช่วง Opening Credits

โดย อ.สุรเดช แก้วท่าไม้

ละครโทรทัศน์

เรื่อง ดอกแก้วการะบุหนิง

ออกอากาศเป็นประจำ

ทุกวันจันทร์ อังคาร

เวลา 20.25 น.

ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

ในปี พ.ศ. 2543

นิตยสารเก่าในความทรงจำ

นิตยสารเก่าในความทรงจำ
นิตยสารกระดังงา (1984-1990)

VITASOY / SIMON LO (1992)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
สามารถ พยัคฆ์อรุณ

ป้ายกำกับ

JAL / KAORU KOBAYASHI (1991)

MY FAVORITE ALBUM

MY FAVORITE ALBUM
CAPRICCIO / SHONENTAI (1988)

HI-C LEMON TEA / EKIN CHENG (1987)

นิตยสารเก่าในความทรงจำ

นิตยสารเก่าในความทรงจำ
นิตยสารเพื่อนเดินทาง (1980)

GILMORE GIRLS (2000-2007)

HOP-STEP-LOVE / JUNICHI NITTA (1982)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
Shingo Kazami

JA KYOSAI / EISAKU YOSHIDA (1990)

บทความเก่าของบลอก

บทความเก่าของบลอก
Yuki Saito

วนิดา (1991)