ในปี พ.ศ. 2542
สถานีโทรทัศน์ช่อง 3
ร่วมกับบริษัท
ควิซ แอนด์ เควส
เสนอละครโทรทัศน์
แนว ชีวิต / ตลก
โรแมนติก
เรื่อง เขยลิเก
โดยเป็นการสร้าง
เป็นละครโทรทัศน์
จากบทประพันธ์
โดย พัดชา
และนำมาดัดแปลง
เป็นบทโทรทัศน์
โดย ยิ่งยศ ปัญญา
ละครโทรทัศน์
เรื่อง เขยลิเก
กำกับการแสดง
โดย วัชระ คุปตะเวทิน
ฝึกสอนศิลปะ
ด้านการแสดงลิเก
โดย อ.บุญเลิศ นาจพินิจ
และ อ.วิโรจน์ วีระวัฒนานนท์
เพลงประกอบละครโทรทัศน์
เพลง ความลับ
และ ไกลเธออยากเจอ
โดย วงเอช
สังกัด โดโจ ซิตี้
บริษัท เบเกอรี่ มิวสิค
ละครโทรทัศน์
เรื่อง เขยลิเก
ออกอากาศ
เป็นครั้งแรก
ทุกวันจันทร์
ถึงวันศุกร์
เวลา 18:30 น.
ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3
ในปี พ.ศ. 2542
ละครโทรทัศน์
เรื่อง เขยลิเก
นำแสดงโดย ดอม เหตระกูล
รับบท พระแสง
ชายหนุ่มรุปหล่อ
มีความรู้ดี
ที่เป็นทายาท
ของคณะลิเก
ที่มีชื่อเสียง
ในจังหวัดอยุธยา
หลังจากสำเร็จการศึกษา
และเดินทางกลับมา
เขาพบว่าคณะลิเก
ของทางครอบครัว
เริ่มที่จะเสื่อมความนิยม
จากการมีคู่แข่ง
เป็นคณะลิเกอื่นๆ
ที่พึ่งก่อตั้งขึ้นมา
ซึ่งจากการที่ชายหนุ่ม
มีหน้าตาหล่อเหลา
และเป็นทายาท
ของครอบครัว
ที่แสดงลิเก
ทำให้พระแสงนั้น
แม้จะไม่เคยฝึกฝน
การแสดงลิเก
เหมือนอย่างพระขรรค์
ผู้เป็นพี่ชายคนโต
แต่ในฐานะผู้สืบทอด
กิจการครอบครัว
แทนผู้เป็นพี่ชาย
ที่มีนิสัยจับจด
พระแสงจึงตัดสินใจ
ที่จะขึ้นแสดง
บนเวทีลิเก
พร้อมกับทุกคน
ในครอบครัว
เข็มอัปสร สิริสุขะ
รับบท ฟ้า
หรือ มณีหยาดฟ้า
ลูกสาวคนสวย
คนที่สอง
ของภีม
และมณี
คู่สามีภรรยา
ผู้เป็นเจ้าของ
กิจการโรงงาน
ที่มีฐานะร่ำรวย
จากการทำงาน
ในบริษัท
ของทางครอบครัว
ทำให้ฟ้านั้น
ได้พบกับพระแสง
ซึ่งทำงานประจำ
เป็นพนักงาน
ภายในบริษัท
ซึ่งจากความวุ่นวาย
ในความสัมพันธ์
ของพระขรรค์
และรุ้ง
ซึ่งเป็นพี่ชาย
และพี่สาว
ของทั้งสองนั้น
ทำให้ฟ้า
และพระแสง
ได้มีโอกาส
ในการพูดคุย
และสนิทสนมกัน
จนเกิดเป็นความรัก
โดยนอกจากนักแสดง
ในบทบาทดังกล่าวแล้ว
ละครโทรทัศน์
เรื่อง เขยลิเก
ยังมีนักแสดงชั้นนำ
อีกหลายท่าน
ที่มาสร้างสีสัน
และความสนุกสนาน
ให้กับละครโทรทัศน์
ในเรื่องนี้
เช่น นุศรา ประวันณา
รับบท รุ้ง
จาตุรงค์ โกลิมาศ
รับบท พระขรรค์
รอง เค้ามูลคดี
รับบท ขุนคลัง
สรพงษ์ ชาตรี
รับบท ภีม
อุทุมพร ศิลาพันธุ์
รับบท มณี
อัจฉราพรรณ ไพบูรณ์สุวรรณ
รับบท เปรี้ยว
อัญชลี ไชยศิริ
รับบท เรณู
ภาณุเดช วัฒนสุชาติ
รับบท คันฉัตร
สุนทรี ใหม่ละออ
รับบท พระนาง
วีระชัย หัตถโกวิท
รับบท บุญเขต
ปิยธิดา ประไพทอง
รับบท พร
ยุวดี เรืองฉาย
รับบท หัวหน้าคนงาน
จันทนา ศิริผล
รับบท ปลั่ง
ชาคริต รุมพล
รับบท เปล่ง
ด.ช.ภานุพงษ์ ผึ้งดี
รับบท เปียก
ด.ญ. พีราภรณ์ เทพวิวัฒน์
รับบท แจ่มแจ๋ว
ละครโทรทัศน์
เรื่อง เขยลิเก
จากบทประพันธ์
โดย พัดชา
เป็นเรื่องราว
ความสนุกสนาน
ระหว่างสองครอบครัว
ที่มีความแตกต่างกัน
แต่ดูจะมีความเกี่ยวพัน
มาตั้งแต่รุ่นพ่อ แม่
โดยเรื่องราว
ได้เริ่มต้นขึ้น
เมื่อยี่สิบปีก่อน
เมื่อมณี
ภรรยาสาวสวย
ของภีม
ซึ่งมีความชื่นชอบ
ในการรับชม
การแสดงลิเก
โดยเฉพาะคณะ
ขุนคลัง ศิษย์อยุธยา
ของขุนคลัง
และครอบครัว
ซึ่งมีชื่อเสียง
และได้รับความนิยม
ในจังหวัดอยุธยา
ซึ่งจากการเป็นแม่ยก
ที่ติดตามรับชม
การแสดงลิเก
ในทุกค่ำคืน
ก็ทำให้มณีนั้น
ต้องคลอดบุตรสาว
ในชื่อ ฟ้า
หรือ มณีหยาดฟ้า
จากเหตุการณ์ฉุกเฉิน
ในค่ำคืนหนึ่ง
ที่หน้าโรงลิเก
จากนั้นเมื่อภีม
และมณี
ย้ายเข้ามาพัก
และทำธุรกิจ
ร่วมกับเรณู
ผู้เป็นพี่สาว
ของมณี
ที่กรุงเทพ
จนทั้งสองนั้น
มีฐานะร่ำรวย
เป็นปึกแผ่น
อีก 20 ปี
ต่อมานั้น
ทั้งสองครอบครัว
ของภีม มณี
และขุนคลัง
ก็ได้มาเกี่ยวพัน
กับอีกครั้งหนึ่ง
จากความสัมพันธ์
ที่เกินเลย
ของพระขรรค์
และรุ้ง
ผู้เป็นบุตรชาย
และบุตรสาวคนโต
ของทั้งสองครอบครัว
(ขอขอบคุณวีดีโอ
ละครโทรทัศน์
เรื่อง เขยลิเก
โดยคุณ SlideByShutterShow
www.youtube.com)
ซึ่งจากอุปนิสัย
ที่เป็นคนจับจด
รักความสบาย
และชอบเที่ยวเตร่
จนหนีออกจากบ้าน
ไปยังกรุงเทพ
และมีความสัมพันธ์
ถึงขั้นเกินเลย
จนมีลูกสาว
นอกสมรส
ชื่อ แจ่มแจ๋ว
กับรุ้ง
ของพระขรรค์
ซึ่งมีหน้าที่
ในด้านการแสดง
ในบทบาทพระเอก
ของคณะขุนคลัง
ก็ทำให้พระแสง
ซึ่งเป็นบุตรชาย
คนที่สอง
ของครอบครัวนั้น
ต้องเข้ามารับหน้าที่
เป็นพระเอกลิเก
ให้กับทางคณะ
ไปพร้อมกับการทำงาน
ในบริษัทใหญ่
ซึ่งเป็นธุรกิจ
ของทางครอบครัว
ของฟ้า
ซึ่งเป็นหญิงสาว
หน้าสะสวย
และมีความมั่นใจ
ในตัวเอง
ที่พระแสงนั้น
มีความรู้สึกดีๆ
เวลาอยู่ใกล้ชิด
กับตัวเธอ
ซึ่งจากความวุ่นวาย
จากความสัมพันธ์
ในอดีต
ของพระขรรค์
และรุ้ง
รวมถึงแผนร้าย
ของคันฉัตร
นักธุรกิจหนุ่มใหญ่
ซึ่งมีความมุ่งหวัง
ในทรัพย์สมบัติ
ของภีม
และพยายาม
ที่จะปอกลอก
และหลอกลวงรุ้ง
ก็ทำให้ฟ้า
และพระแสง
ที่เข้าไปเกี่ยวพัน
และพยายามแก้ไข
ปัญหาต่างๆ
ของบริษัท
และครอบครัว
ของทั้งสองฝ่าย
อยู่บ่อยครั้งนั้น
เริ่มมีความผูกพัน
ในกันและกัน
มากขึ้นเรื่อยๆ