ในช่วงยุค 80
ถึงช่วงยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
ถึงช่วงยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
มีนายแบบ นางแบบ
และนักแสดงชื่อดังมากมาย
ที่ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง
จากการเข้าร่วม
ในการประกวด
ในการประกวด
ในเวที หนุ่ม-สาวแพรว
ซึ่งมีการจัดขึ้น
เป็นประจำ
ในช่วงยุค 80-90
โดยนิตยสารแพรว
เป็นประจำ
ในช่วงยุค 80-90
โดยนิตยสารแพรว
และ แพรวสุดสัปดาห์
โดยหนึ่งในนายแบบ
ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
จากเวทีหนุ่มสาวแพรวแห่งนี้
คือ คุณป๊อบ พิสัย ศะศิสมิต
โดยหลังจากหนุ่มหล่อท่านนี้
ได้รับตำแหน่งเป็นผู้ชนะเลิศ
ในปี พ.ศ. 2531
เขาก็เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ในฐานะนายแบบหนุ่มหล่อ
ได้รับตำแหน่งเป็นผู้ชนะเลิศ
ในปี พ.ศ. 2531
เขาก็เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ในฐานะนายแบบหนุ่มหล่อ
ที่ประสบความสำเร็จ
และได้รับความนิยม
จากผู้ชมทางบ้าน
โดยในฐานะนายแบบ
เขามีผลงานการถ่ายแบบ
เดินแบบ งานโฆษณา
ฝากไว้มากมาย
ในช่วงยุค 80-90
และถือเป็นหนุ่มแพรว
ที่ประสบความสำเร็จ
และเป็นที่จดจำมากที่สุด
ในฐานะนายแบบอาชีพ
หลังผ่านจากเวทีนี้
หากมองย้อนวัน
และเวลากลับไป
หากมองย้อนวัน
และเวลากลับไป
ในช่วงยุค 80
ถึงช่วงกลางยุค 90
ที่ผ่านมา
ที่ผ่านมา
สำหรับประวัติส่วนตัว
ของนายแบบหนุ่มหล่อ
ที่ได้รับความนิยม
ในช่วงยุค 80
และช่วงต้นยุค 90 ท่านนี้
คุณป๊อบ พิสัย ศะศิสมิต
เกิดวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2510
หนุ่มราศีสิงห์ท่านนี้
สูง 175 เซนติเมตร
หนัก 63 กิโลกรัม
(ข้อมูลในปี พ.ศ. 2531)
เขาเติบโตมาในครอบครัว
ที่มีคุณพ่อทำงานเป็นหัวหน้า
ในที่ทำการไปรษณีย์
คุณแม่เป็นแม่บ้าน ดูแลลูกๆ
โดยจากบทสัมภาษณ์
ในช่วงยุค 80
คุณป๊อบเป็นลูกชายคนที่สอง
ของทางครอบครัว
โดยคุณป๊อปมีพี่น้อง
ซึ่งเป็นชายทั้งหมด 4 ท่าน
ซึ่งเป็นชายทั้งหมด 4 ท่าน
(ก่อนที่จะเข้าสู่วงการบันเทิง
พี่ชายคนโตของคุณป๊อบ
ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
เขาจึงเป็นเสมือนพี่ชายคนโต
ของน้องๆอีก 2 ท่าน)
สำหรับประวัติส่วนตัว
ในด้านการศึกษา
คุณป๊อบ พิสัย ศะศิสมิต
เริ่มต้นการศึกษา
ในระดับชั้นอนุบาล
ที่โรงเรียนพิบูลย์เวช
จากนั้นจึงมาศึกษาต่อ
ในระดับชั้นประถม
ในระดับชั้นประถม
ที่โรงเรียนวัดใหม่ช่องลม
โดยเขามาศึกษาต่อ
จนสำเร็จการศึกษา
ในระดับชั้นมัธยมปลาย
ในระดับชั้นมัธยมปลาย
จากโรงเรียนปทุมคงคา
จากบทสัมภาษณ์
ในช่วงต้นยุค 90
คุณป๊อบสำเร็จการศึกษา
ในช่วงต้นยุค 90
คุณป๊อบสำเร็จการศึกษา
ในระดับปริญญาตรี
จากคณะวิทยาศาสตร์
เอก ชีววิทยา
มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ในช่วงวัยเรียน
ของคุณป๊อบ
พิสัย ศะศิสมิต
หนุ่มหล่อท่านนี้
มีความสามารถ
มีความสามารถ
ในด้านกีฬา
จากการเล่นได้ดี
ในกีฬาทุกประเภท
ในกีฬาทุกประเภท
ไม่ว่าจะเป็น เทนนิส
วอลเลย์บอล
วอลเลย์บอล
ปิงปอง ว่ายน้ำ
วิ่ง แบดมินตัน
โดยในช่วงที่กำลังศึกษา
อยู่ในระดับชั้นมัธยม
อยู่ในระดับชั้นมัธยม
เขาสามารถคว้ารางวัลที่ 3
ในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา
ประเภท วอลเลย์บอล
ประเภท ถ้วย ข
ประชาชนชาย
ของกรุงเทพมหานคร
ที่จัดการแข่งขัน
ในขณะนั้นมาแล้ว
ที่จัดการแข่งขัน
ในขณะนั้นมาแล้ว
ในด้านกีฬาต่างๆแล้ว
คุณป๊อบยังมีกิจกรรมอื่นๆ
ที่เขาให้ความสนใจ
ไม่ว่าจะเป็นการสะสมแสตมป์
หรือ การเลี้ยงต้นไม้
ที่เขาดูแลได้อย่างดี
จนเคยนำไปออกร้านขาย
ในช่วงที่ศึกษาอยู่
ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง
แต่กิจกรรมที่คุณป๊อบนั้น
มีความชื่นชอบ
และให้ความสนใจมากที่สุด
คือ การเลี้ยงปลาสวยงาม
ที่เขาเริ่มเพาะพันธ์ปลา
โดยเริ่มจากเลี้ยงที่บ้าน
โดยการสนับสนุน
โดยการสนับสนุน
ของคุณพ่อและคุณแม่
จนสามารถนำไปฝากขาย
ที่ร้านขายปลาสวยงาม
ซึ่งกิจกรรมชนิดนี้
นอกจากจะทำให้เขานั้น
มีรายได้พิเศษแล้ว
ยังถือเป็นกิจกรรม
ที่ร้านขายปลาสวยงาม
ซึ่งกิจกรรมชนิดนี้
นอกจากจะทำให้เขานั้น
มีรายได้พิเศษแล้ว
ยังถือเป็นกิจกรรม
ที่คุณป๊อบนั้น
ได้เคยให้สัมภาษณ์
ว่าทำให้เขานั้น
ได้ใช้เวลากับครอบครัว
ว่าทำให้เขานั้น
ได้ใช้เวลากับครอบครัว
ในการทำกิจกรรมนี้
ร่วมกันกับน้องๆอีกด้วย
ร่วมกันกับน้องๆอีกด้วย
ในฐานะนายแบบ
ในช่วงยุค 80
คุณป๊อบ พิสัย ศะศิสมิต
เข้าสู่วงการแฟชั่น
ในฐานะนายแบบอาชีพ
จากการเข้าร่วมการประกวด
ในเวที หนุ่ม-สาวแพรว
ประจำปี พ.ศ. 2531
ซึ่งในการประกวดครั้งนี้
นอกจากตำแหน่ง หนุ่มแพรว
ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุด
ของผู้เข้าแข่งขันฝ่ายชาย
ในการประกวดครั้งนี้แล้ว
เขายังสามารถคว้าตำแหน่ง
ในการประกวดครั้งนี้แล้ว
เขายังสามารถคว้าตำแหน่ง
Popular Vote
ประเภทฝ่ายชาย
จาการโหวตของผู้ชม
ในการประกวดครั้งนี้
มาอีกหนึ่งรางวัล
เรียกว่าในฐานะผู้ชนะแล้ว
เขาได้รับตำแหน่ง
ในการประกวดครั้งนี้
มาอีกหนึ่งรางวัล
เรียกว่าในฐานะผู้ชนะแล้ว
เขาได้รับตำแหน่ง
หนุ่มแพรว
ประจำปี พ.ศ. 2531
ประจำปี พ.ศ. 2531
ทั้งจากดุลยพินิจ
ของคณะกรรมการ
และจากความนิยม
ของผุ้ชม
ของผุ้ชม
ในงานประกวด
ที่มีการจัดขึ้น
ในค่ำคืนวันนั้น
อย่างเป็นเอกฉันท์ทีเดียว
หลังจากได้รับตำแหน่ง
เป็น หนุ่มแพรว
ประจำปี พ.ศ. 2531
คุณป๊อบ พิสัย ศะศิสมิต
ในฐานะนายแบบหน้าใหม่
ก็เริ่มมีผลงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
ขึ้นปกและให้สัมภาษณ์
กับนิตยสารต่างๆ
ในเครือแพรว
อย่าง แพรว
และ แพรวสุดสัปดาห์
จากนั้นเขาจึงมีผลงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
ในนิตยสารแฟชั่นอื่นๆ
รวมถึงมีผลงาน
ในด้านการเดินแบบ
ในงานแฟชั่นโชว์ต่างๆ
ตามมาอีกมากมาย
นอกจากนี้
ในฐานะนายแบบ
ที่ได้รับความนิยม
เขายังมีผลงาน
ในด้านโฆษณาหลายชิ้น
ฝากไว้ในช่วงยุค 80
ถึงช่วงยุค 90 ที่ผ่านมา
โดยในส่วนของงานโฆษณา
คุณป๊อบมีผลงาน
ในด้านโฆษณาชิ้นแรก
คือ มัมโรลออน
จากนั้นจึงมีผลงาน
โฆษณาชิ้นอื่นๆ
อย่าง โค๊ก
ยาสีฟันใกล้ชิด
คูลเลอร์คลับ
น้ำยารีดผ้าไฮยีน
เจลแต่งผมชวาร์สคอฟ
โฟมล้างหน้า ดร.มนตรี
นมตรามะลิ ฯลฯ
ซึ่งผลงานด้านโฆษณา
ของคุณป๊อบนั้น
มีให้ติดตามชม
ตั้งแต่ในช่วงปี พ.ศ. 2531
ถึงปี พ.ศ. 2538 ที่ผ่านมา
โดยนอกจากผลงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
เดินแบบแฟชั่น
และผลงานโฆษณาแล้ว
คุณป๊อบ พิสัย ศะศิสมิต
ในช่วงต้นยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
เขายังมีผลงาน
ในด้านการแสดง
ฝากไว้ในวงการบันเทิง
โดยในฐานะนักแสดง
คุณป๊อบมีผลงาน
ละครโทรทัศน์
ชุด ตะกายดาว
ซึ่งละครโทรทัศน์
แบบจบในตอนชุดนี้
เป็นผลงาน
การสร้างสรรค์
ของบริษัท แกรมมี่
ซึ่งออกอากาศเป็นประจำ
และได้รับความนิยม
ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9
โดยในละครโทรทัศน์ชุดนี้
คุณป๊อบรับบท โจอี้
หนุ่มหล่อ พ่อรวย
ที่มีบุคลิกแสนซื่อ
และมีจิตใจดี
โดยเขามาช่วยงาน
ในบริษัท
ที่จัดหานักแสดง
และต้องพานพบ
กับจิตใจของผู้คน
ที่แตกต่างกันไปมากมาย
ซึ่งบท โจอี้ นี้
เป็นหนึ่งในตัวละครหลัก
ของละครโทรทัศน์ชุดนี้
ที่ในแต่ละตอนนั้น
จะมีแขกรับเชิญ
ในแต่ละสัปดาห์
เข้ามาสร้างสีสัน
ให้กับละครโทรทัศน์
ของบริษัทแกรมมี่เรื่องนี้
(ในความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ผู้เขียนมีความชื่นชอบ
ในละครชุดนี้อย่างมาก
จากการที่ตะกายดาวนั้น
เป็นละครที่มีคุณภาพ
และมีแนวเรื่อง
ที่หารับชมได้ยาก
ในประเทศไทย
โดยละครโทรทัศน์ชุดนี้
เริ่มต้นทุกตอน
ด้วยอารมณ์ขัน
ก่อนจะปิดท้าย
ในแต่ละเรื่องราว
ด้วยเรื่องราว
ที่สะเทือนอารมณ์
มีการเสียดสีสังคม
เปิดเผยความเห็นแก่ตัว
และความทะเยอทะยาน
ของมนุษย์เรา
ออกมาได้อย่างมีชั้นเชิง
และกระทบความรู้สึก
ของผู้ชมได้เสมอ
โดยผู้แสดงรับเชิญ
ในแต่ละตอน
ของละครโทรทัศน์ชุดนี้
ที่มักเป็นนักแสดงชื่อดัง
มักจะได้รับคำชมเชย
ในแง่ของการฝากฝีมือ
ทางการแสดงเสมอ)
โดยนอกจากจะเป็นที่รู้จัก
ในฐานะนายแบบแฟชั่น
และการเป็นนักแสดงแล้ว
ในช่วงยุค 80-90
ที่ผ่านมานั้น
คุณป๊อบ พิสัย ศะศิสมิต
ยังเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ในฐานะของผู้ให้ความสนใจ
ในด้านของการเพาะเลี้ยง
พันธุ์ปลาสวยงาม
โดยขณะที่เข้าสู่วงการแฟชั่น
ในช่วงปี พ.ศ. 2531
คุณป๊อบก็มีธุรกิจ
เปิดร้านขายปลาสวยงาม
ที่ร่วมหุ้นกับญาติ
อยู่ที่เดอะมอลล์
รามคำแหง
โดยร้านแรกของเขา
มีชื่อว่า เพื่อนปลา
หรือ Fish's Friend
ก่อนจะมีการเปิดอีกร้าน
เป็นของตนเอง
ในช่วงปลายยุค 80
โดยร้านขายปลาสวยงาม
อีกร้านหนึ่ง
ของคุณป๊อบ
มีชื่อร้านว่า ปลาป๊อบ
โดยเปิดกิจการ
อยู่ที่เดอะมอลล์
รามคำแหง
เช่นกันกับร้านแรก
โดยจากบทสัมภาษณ์
ในช่วงปี พ.ศ. 2532
คุณป๊อบเคยให้สัมภาษณ์ไว้
ถึงความใฝ่ฝัน
ในอนาคตข้างหน้าของเขา
ว่าตัวเขาเองนั้น
มีความต้องการ
ที่จะเป็นเกษตกร
ที่ทำฟาร์มเพาะพันธ์ปลา
โดยหวังจะใช้ใช้ความรู้
ในทางวิทยาศาสตร์
มาพัฒนาและปรับปรุง
ในการทำฟาร์มของเขา
โดยสิ่งที่เขานั้น
มีความคาดหวัง
ในอนาคตอย่างมาก
คือ การมีธุรกิจส่วนตัว
ในด้านการทำฟาร์ม
เพาะพันธุ์ปลาสวยงาม
ซึ่งจะเป็นการทำงาน
ที่สามารถร่วมทำ
กับน้องชายของเขา
เป็นงานและธุรกิจ
ของทางครอบครัว
ที่เขาและน้องๆ
จะพัฒนาไปด้วยกัน
ในฐานะนายแบบ
คุณป๊อบ พิสัย ศะศิสมิต
เริ่มหยุดรับงานถ่ายแบบ
ในวงการแฟชั่น
ในช่วงปี พ.ศ. 2538
โดยเขาให้สัมภาษณ์
อย่างเต็มรูปแบบ
กับทางนิตยสาร Image
ในช่วงปี พ.ศ. 2538
โดยได้บอกเล่า
ถึงเส้นทางที่ผ่านมา
ในการเป็นนายแบบอาชีพ
ในวงการแฟชั่น
และได้เปิดใจ
ถึงชีวิตปัจจุบัน
ในฐานะของเกษตรกร
ด้วยความภาคภูมิใจ
โดยจากการเริ่มต้น
ทำงานตามความฝัน
ในปี พ.ศ. 2538
คุณป๊อบได้เริ่มก่อตั้ง
ฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาหมอ
ในชื่อ ดอกเตอร์ฟิช
โดยเขาใช้ความรู้ต่างๆ
ที่ตนเองศึกษามา
รวมถึงประสบการณ์ต่างๆ
ในการเลี้ยงปลา
ที่ผ่านมา
มาพัฒนาสายพันธุ์
เพื่อให้เกิดผลลัพธุ์
ที่ดีที่สุด
โดยจากบทสัมภาษณ์
คุณป๊อบได้บอกเล่า
ถึงชีวิตการทำงาน
อย่างมีความสุข
จากการได้ทำ
ในสิ่งที่เขารัก
และทุ่มเทมานาน
ถือเป็นบทสัมภาษณ์
อย่างเต็มรูปแบบ
ครั้งสุดท้าย
ของหนุ่มหล่อท่านนี้
ในความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
โดยแม้การทำงาน
ตามความฝัน
ได้กำลังเกิดขึ้น
และเริ่มต้น
ด้วยความรัก
และความทุ่มเท
แต่คุณป๊อบ
พิสัย ศะศิสมิต
ได้จากครอบครัว
และทุกๆคน
ที่รักและห่วงใย
ในตัวเขาไป
ในวัยหนุ่ม
ที่ยังคงงดงาม
เร็วเกินกว่า
ที่ใครจะเคยคาดคิด
โดยคุณป๊อบ
พิสัย ศะศิสมิต
ได้เสียชีวิตจากไป
ด้วยโรคมะเร็ง
ในปี พ.ศ. 2540
ท่ามกลางความเสียใจ
ของครอบครัว ศะศิสมิต
รวมถึงเพื่อนๆ
และ ผู้ร่วมงาน
ที่ได้รับทราบข่าว
การจากไป
ของคนหนุ่ม
ที่กำลังอยู่ในวัย
แห่งความสดใสเช่นเขา
โดยหลังการจากไป
ของคุณป๊อบ
พิสัย ศะศิสมิต
คุณพรรษา ศะศิสมิต
ผู้เป็นน้องชายของเขา
ได้เบนเข็มชีวิต
จากการเป็นวิศวกร
มาสานต่อความฝัน
และเจตนารมณย์
ของพี่ชายผู้เป็นที่รัก
ด้วยการรับช่วงทำงาน
และดุแลฟาร์มต่อไป
ซึ่งจากการทุ่มเท
และดุแล
ของคุณพรรษา
มาโดยตลอด
ปัจจุบันฟาร์มดอกเตอร์ฟิซ
เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
และมีชื่อเสียงโด่งดัง
ในด้านการเพาะพันธ์ปลาหมอ
ที่ประสบความสำเร็จ
เป็นที่รู้จัก
ทั้งในเมืองไทย
และตลาดต่างประเทศ
โดยในปี พ.ศ. 2547
คุณพรรษา ศะศิสมิต
ได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่น
รองอันกับหนึ่งของประเทศไทย
ในสาขาการเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืด
ซึ่งไม่เพียงความสำเร็จ
ในการเพาะพันธ์ปลาหมอ
ที่เขาสามารถรวบรวมไว้
ได้มากที่สุดในเมืองไทย
กว่า 170 สายพันธุ์
จนมียอดการจัดจำหน่าย
ทั้งในประเทศไทยเอง
รวมถึงในต่างประเทศ
ซึ่งเป็นการสานต่อ
อาชีพและความฝัน
ของคุณป๊อบ
ผู้เป็นพี่ชายของเขา
ได้อย่างงดงาม
ฟาร์มดอกเตอร์ฟิซ
ยังเป็นที่ชื่นชม
และได้รับการยกย่อง
ในการเปิดให้ความรู้
ให้แก่หน่วยงานต่างๆ
รวมถึงประชาชนทั่วไป
โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
รวมถึงได้มีการบริจาคเงิน
เพื่อเป็นการกุศล
รวมถึงมีการร่วมกิจกรรม
กับทางราชการอยู่เสมอ
ผู้เขียนบลอกเชื่อว่า
หากคุณป๊อบ
ที่จากทุก-ทุกคนไป
ได้รับรู้ถึงสิ่งดีๆเหล่านี้
คงจะมีความยินดี
และมีความสุข
กับสิ่งต่างๆมากมาย
ที่คุณพรรษา
น้องชายของเขา
ได้สานต่อไว้อย่างดงาม
(ข้อมูลในบทความนี้
ถึงปี พ.ศ. 2547 เท่านั้น
โดยหากมีข้อผิดพลาด
ผู้เขียนต้องขออภัย
ต่อทางครอบครัว
ของคุณป๊อบ
ไว้ ณ ที่นี้)
ที่มีการจัดขึ้น
ในค่ำคืนวันนั้น
อย่างเป็นเอกฉันท์ทีเดียว
เป็น หนุ่มแพรว
ประจำปี พ.ศ. 2531
คุณป๊อบ พิสัย ศะศิสมิต
ในฐานะนายแบบหน้าใหม่
ก็เริ่มมีผลงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
ขึ้นปกและให้สัมภาษณ์
กับนิตยสารต่างๆ
ในเครือแพรว
อย่าง แพรว
และ แพรวสุดสัปดาห์
จากนั้นเขาจึงมีผลงาน
ในด้านการถ่ายแบบ
ในนิตยสารแฟชั่นอื่นๆ
รวมถึงมีผลงาน
ในด้านการเดินแบบ
ในงานแฟชั่นโชว์ต่างๆ
ตามมาอีกมากมาย
นอกจากนี้
ในฐานะนายแบบ
ที่ได้รับความนิยม
เขายังมีผลงาน
ในด้านโฆษณาหลายชิ้น
ฝากไว้ในช่วงยุค 80
ถึงช่วงยุค 90 ที่ผ่านมา
โดยในส่วนของงานโฆษณา
คุณป๊อบมีผลงาน
ในด้านโฆษณาชิ้นแรก
คือ มัมโรลออน
จากนั้นจึงมีผลงาน
โฆษณาชิ้นอื่นๆ
อย่าง โค๊ก
ยาสีฟันใกล้ชิด
คูลเลอร์คลับ
น้ำยารีดผ้าไฮยีน
เจลแต่งผมชวาร์สคอฟ
โฟมล้างหน้า ดร.มนตรี
นมตรามะลิ ฯลฯ
ซึ่งผลงานด้านโฆษณา
ของคุณป๊อบนั้น
มีให้ติดตามชม
ตั้งแต่ในช่วงปี พ.ศ. 2531
ถึงปี พ.ศ. 2538 ที่ผ่านมา
ในด้านการถ่ายแบบ
เดินแบบแฟชั่น
และผลงานโฆษณาแล้ว
คุณป๊อบ พิสัย ศะศิสมิต
ในช่วงต้นยุค 90
ที่ผ่านมานั้น
เขายังมีผลงาน
ในด้านการแสดง
ฝากไว้ในวงการบันเทิง
โดยในฐานะนักแสดง
คุณป๊อบมีผลงาน
ละครโทรทัศน์
ชุด ตะกายดาว
ซึ่งละครโทรทัศน์
แบบจบในตอนชุดนี้
เป็นผลงาน
การสร้างสรรค์
ของบริษัท แกรมมี่
ซึ่งออกอากาศเป็นประจำ
และได้รับความนิยม
ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9
โดยในละครโทรทัศน์ชุดนี้
คุณป๊อบรับบท โจอี้
หนุ่มหล่อ พ่อรวย
ที่มีบุคลิกแสนซื่อ
และมีจิตใจดี
โดยเขามาช่วยงาน
ในบริษัท
ที่จัดหานักแสดง
และต้องพานพบ
กับจิตใจของผู้คน
ที่แตกต่างกันไปมากมาย
ซึ่งบท โจอี้ นี้
เป็นหนึ่งในตัวละครหลัก
ของละครโทรทัศน์ชุดนี้
ที่ในแต่ละตอนนั้น
จะมีแขกรับเชิญ
ในแต่ละสัปดาห์
เข้ามาสร้างสีสัน
ให้กับละครโทรทัศน์
ของบริษัทแกรมมี่เรื่องนี้
(ในความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ผู้เขียนมีความชื่นชอบ
ในละครชุดนี้อย่างมาก
จากการที่ตะกายดาวนั้น
เป็นละครที่มีคุณภาพ
และมีแนวเรื่อง
ที่หารับชมได้ยาก
ในประเทศไทย
โดยละครโทรทัศน์ชุดนี้
เริ่มต้นทุกตอน
ด้วยอารมณ์ขัน
ก่อนจะปิดท้าย
ในแต่ละเรื่องราว
ด้วยเรื่องราว
ที่สะเทือนอารมณ์
มีการเสียดสีสังคม
เปิดเผยความเห็นแก่ตัว
และความทะเยอทะยาน
ของมนุษย์เรา
ออกมาได้อย่างมีชั้นเชิง
และกระทบความรู้สึก
ของผู้ชมได้เสมอ
โดยผู้แสดงรับเชิญ
ในแต่ละตอน
ของละครโทรทัศน์ชุดนี้
ที่มักเป็นนักแสดงชื่อดัง
มักจะได้รับคำชมเชย
ในแง่ของการฝากฝีมือ
ทางการแสดงเสมอ)
ในฐานะนายแบบแฟชั่น
และการเป็นนักแสดงแล้ว
ในช่วงยุค 80-90
ที่ผ่านมานั้น
คุณป๊อบ พิสัย ศะศิสมิต
ยังเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ในฐานะของผู้ให้ความสนใจ
ในด้านของการเพาะเลี้ยง
พันธุ์ปลาสวยงาม
โดยขณะที่เข้าสู่วงการแฟชั่น
ในช่วงปี พ.ศ. 2531
คุณป๊อบก็มีธุรกิจ
เปิดร้านขายปลาสวยงาม
ที่ร่วมหุ้นกับญาติ
อยู่ที่เดอะมอลล์
รามคำแหง
โดยร้านแรกของเขา
มีชื่อว่า เพื่อนปลา
หรือ Fish's Friend
ก่อนจะมีการเปิดอีกร้าน
เป็นของตนเอง
ในช่วงปลายยุค 80
โดยร้านขายปลาสวยงาม
อีกร้านหนึ่ง
ของคุณป๊อบ
มีชื่อร้านว่า ปลาป๊อบ
โดยเปิดกิจการ
อยู่ที่เดอะมอลล์
รามคำแหง
เช่นกันกับร้านแรก
โดยจากบทสัมภาษณ์
ในช่วงปี พ.ศ. 2532
คุณป๊อบเคยให้สัมภาษณ์ไว้
ถึงความใฝ่ฝัน
ในอนาคตข้างหน้าของเขา
ว่าตัวเขาเองนั้น
มีความต้องการ
ที่จะเป็นเกษตกร
ที่ทำฟาร์มเพาะพันธ์ปลา
โดยหวังจะใช้ใช้ความรู้
ในทางวิทยาศาสตร์
มาพัฒนาและปรับปรุง
ในการทำฟาร์มของเขา
โดยสิ่งที่เขานั้น
มีความคาดหวัง
ในอนาคตอย่างมาก
คือ การมีธุรกิจส่วนตัว
ในด้านการทำฟาร์ม
เพาะพันธุ์ปลาสวยงาม
ซึ่งจะเป็นการทำงาน
ที่สามารถร่วมทำ
กับน้องชายของเขา
เป็นงานและธุรกิจ
ของทางครอบครัว
ที่เขาและน้องๆ
จะพัฒนาไปด้วยกัน
คุณป๊อบ พิสัย ศะศิสมิต
เริ่มหยุดรับงานถ่ายแบบ
ในวงการแฟชั่น
ในช่วงปี พ.ศ. 2538
โดยเขาให้สัมภาษณ์
อย่างเต็มรูปแบบ
กับทางนิตยสาร Image
ในช่วงปี พ.ศ. 2538
โดยได้บอกเล่า
ถึงเส้นทางที่ผ่านมา
ในการเป็นนายแบบอาชีพ
ในวงการแฟชั่น
และได้เปิดใจ
ถึงชีวิตปัจจุบัน
ในฐานะของเกษตรกร
ด้วยความภาคภูมิใจ
โดยจากการเริ่มต้น
ทำงานตามความฝัน
ในปี พ.ศ. 2538
คุณป๊อบได้เริ่มก่อตั้ง
ฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาหมอ
ในชื่อ ดอกเตอร์ฟิช
โดยเขาใช้ความรู้ต่างๆ
ที่ตนเองศึกษามา
รวมถึงประสบการณ์ต่างๆ
ในการเลี้ยงปลา
ที่ผ่านมา
มาพัฒนาสายพันธุ์
เพื่อให้เกิดผลลัพธุ์
ที่ดีที่สุด
โดยจากบทสัมภาษณ์
คุณป๊อบได้บอกเล่า
ถึงชีวิตการทำงาน
อย่างมีความสุข
จากการได้ทำ
ในสิ่งที่เขารัก
และทุ่มเทมานาน
ถือเป็นบทสัมภาษณ์
อย่างเต็มรูปแบบ
ครั้งสุดท้าย
ของหนุ่มหล่อท่านนี้
ในความทรงจำ
ของผู้เขียนบลอก
ตามความฝัน
ได้กำลังเกิดขึ้น
และเริ่มต้น
ด้วยความรัก
และความทุ่มเท
แต่คุณป๊อบ
พิสัย ศะศิสมิต
ได้จากครอบครัว
และทุกๆคน
ที่รักและห่วงใย
ในตัวเขาไป
ในวัยหนุ่ม
ที่ยังคงงดงาม
เร็วเกินกว่า
ที่ใครจะเคยคาดคิด
โดยคุณป๊อบ
พิสัย ศะศิสมิต
ได้เสียชีวิตจากไป
ด้วยโรคมะเร็ง
ในปี พ.ศ. 2540
ท่ามกลางความเสียใจ
ของครอบครัว ศะศิสมิต
รวมถึงเพื่อนๆ
และ ผู้ร่วมงาน
ที่ได้รับทราบข่าว
การจากไป
ของคนหนุ่ม
ที่กำลังอยู่ในวัย
แห่งความสดใสเช่นเขา
ของคุณป๊อบ
พิสัย ศะศิสมิต
คุณพรรษา ศะศิสมิต
ผู้เป็นน้องชายของเขา
ได้เบนเข็มชีวิต
จากการเป็นวิศวกร
มาสานต่อความฝัน
และเจตนารมณย์
ของพี่ชายผู้เป็นที่รัก
ด้วยการรับช่วงทำงาน
และดุแลฟาร์มต่อไป
ซึ่งจากการทุ่มเท
และดุแล
ของคุณพรรษา
มาโดยตลอด
ปัจจุบันฟาร์มดอกเตอร์ฟิซ
เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
และมีชื่อเสียงโด่งดัง
ในด้านการเพาะพันธ์ปลาหมอ
ที่ประสบความสำเร็จ
เป็นที่รู้จัก
ทั้งในเมืองไทย
และตลาดต่างประเทศ
โดยในปี พ.ศ. 2547
คุณพรรษา ศะศิสมิต
ได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่น
รองอันกับหนึ่งของประเทศไทย
ในสาขาการเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืด
ซึ่งไม่เพียงความสำเร็จ
ในการเพาะพันธ์ปลาหมอ
ที่เขาสามารถรวบรวมไว้
ได้มากที่สุดในเมืองไทย
กว่า 170 สายพันธุ์
จนมียอดการจัดจำหน่าย
ทั้งในประเทศไทยเอง
รวมถึงในต่างประเทศ
ซึ่งเป็นการสานต่อ
อาชีพและความฝัน
ของคุณป๊อบ
ผู้เป็นพี่ชายของเขา
ได้อย่างงดงาม
ฟาร์มดอกเตอร์ฟิซ
ยังเป็นที่ชื่นชม
และได้รับการยกย่อง
ในการเปิดให้ความรู้
ให้แก่หน่วยงานต่างๆ
รวมถึงประชาชนทั่วไป
โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
รวมถึงได้มีการบริจาคเงิน
เพื่อเป็นการกุศล
รวมถึงมีการร่วมกิจกรรม
กับทางราชการอยู่เสมอ
ผู้เขียนบลอกเชื่อว่า
หากคุณป๊อบ
ที่จากทุก-ทุกคนไป
ได้รับรู้ถึงสิ่งดีๆเหล่านี้
คงจะมีความยินดี
และมีความสุข
กับสิ่งต่างๆมากมาย
ที่คุณพรรษา
น้องชายของเขา
ได้สานต่อไว้อย่างดงาม
(ข้อมูลในบทความนี้
ถึงปี พ.ศ. 2547 เท่านั้น
โดยหากมีข้อผิดพลาด
ผู้เขียนต้องขออภัย
ต่อทางครอบครัว
ของคุณป๊อบ
ไว้ ณ ที่นี้)
